เทคนิคการ ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ ปลอดภัยไม่สำลักลดอาการภูมิแพ้
ชาวภูมิแพ้ มัก คัดจมูก ทันทีที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะ ช่วงนี้ที่มีอากาศเย็นและแห้งลง ทำให้มีอาการฟึดฟัด โพร่งจมูกเต็มไปด้วยน้ำมูก จนบางครั้งเป็นหนักถึงขั้นเจ็บจมูกและเลือดกำดาวไหล เสียงเปลี่ยนเพราะมีเสมหะในลำคอ โดยมักจะเลือกวิธีล้างจมูก เพื่อบรรเทาอาการเหล่านี้ แล้วต้องล้างอย่างไรถึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุดล่ะ ?
การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ (Nasal Irrigation) ก็คือการเลือกใช้น้ำเกลือที่มีความเข้มข้น 0.9% มาช่วยทำความสะอาดโพรงจมูก ซึ่งน้ำเกลือจะช่วยลดความเหนียวข้นของน้ำมูกได้ดี และยังเป็นการชำระล้างคราบมูก รวมถึงหนองที่คั่งค้างอยู่ในบริเวณโพรงจมูกและหลังโพรงจมูกให้หลุดออกไปได้ง่ายขึ้น หลังจากล้างจมูกแล้ว นอกจากโพรงจมูกจะสะอาด ทำให้หายใจโล่ง วิธีนี้ยังช่วยลดเชื้อโรคที่สะสมอยู่ในโรงจมูกได้ดีด้วย
3 ความเชื่อผิด ๆ "การล้างจมูก" เผยประโยชน์และวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง
รู้จักชนิด "น้ำเกลือล้างจมูก" แนะวิธีเลือกซื้อให้ได้ผลิตภัณฑ์ปลอดภัย
การล้างจมูกให้ถูกวิธี ควรทำอย่างไร?
ขั้นแรกเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
- น้ำเกลือ (0.9% Normal Saline)
- ภาชนะที่ใส่น้ำเกลือ เช่น ลูกยางแดง, กระบอกฉีดยา (Syringe), จุกล้างจมูก
วิธีการล้างจมูก มีหลายรูปแบบด้วยกัน ได้แก่
- ตะแคงใบหน้า เหนืออ่างล้างหน้า ค่อย ๆ ฉีดน้ำเกลือเข้ารูจมูกข้างที่อยู่สูงกว่า (กลั้นหายใจในขณะที่ล้างจมูก) น้ำเกลือจะไหลออกทางรูจมูกข้างที่อยู่ต่ำกว่า ทำซ้ำอีกข้าง
- ก้มหน้า โน้มตัวเหนืออ่างล้าง ก้มหน้า ฉีดน้ำเกลือเข้ารูจมูกข้างใดข้างหนึ่ง (กลั้นหายใจในขณะที่ล้างจมูก) น้ำเกลือจะไหลออกจากรูจมูกทั้ง 2 ข้าง
- เงยหน้า กลั้นหายใจ เทน้ำเกลือเข้าจมูกทั้ง 2 ข้างแล้วก้มหน้า สั่งน้ำเกลือออกจากจมูกทั้ง 2 ข้างเบา ๆ
ข้อควรระวัง
- หากทำผิดวิธีอาจกระทบกระเทือนเยื่อบุจมูก ทำให้เกิดการบาดเจ็บในจมูกและมีเลือดออกได้
- หากสั่งน้ำมูก/น้ำเกลือแรงไป อาจทำให้หูอื้อ, หูชั้นกลางอักเสบได้
- สำลัก (ถ้ากลั้นหายใจไม่ได้)
จริงๆ แล้วการล้างจมูกก็มีประโยชน์ แต่ก็ต้องทำอย่างถูกต้องและเหมาะสมด้วย
- การล้างจมูกควรใช้เฉพาะในเวลาที่มีน้ำมูกเหนียวข้นเท่านั้น หากเป็นน้ำมูกใสไม่จำเป็นต้องล้างจมูกก็ได้ สามารถสั่งออกมาเองจะดีกว่า
- การล้างจมูกสามารถทำได้วันละ 2 ครั้งช่วงเช้าหลังตื่นนอนและก่อนนอน แต่หากช่วงที่เป็นหวัดคัดจมูกและมีน้ำมูกเหนียวข้นค่อนข้างมากก็สามารถล้างได้มากกว่านั้น
- ควรล้างจมูกก่อนรับกินอาหาร หรือหลังรับประทานอาหารไปแล้วประมาณ 2 ชั่วโมงเพื่อเลี่ยงอาการอาเจียนหรือสำลัก
- อุปกรณ์ที่ใช้ล้างจมูกต้องสะอาดอยู่เสมอ เพราะอาจจะทำให้จมูกติดเชื้อได้
- ควรเริ่มล้างจมูกจากข้างที่คัดจมูกน้อยกว่า และไม่จำเป็นต้องอุดรูจมูกอีกข้าง เพราะอาจเป็นเหตุให้แก้วหูทะลุได้
- หากยังไม่เคยล้างจมูกมาก่อน ให้เริ่มใช้น้ำเกลือจากปริมาณน้อยๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มปริมาณมากขึ้น
- สำหรับเด็กเล็กและพ่อแม่มือใหม่ ควรเลือกใช้น้ำเกลือในรูปของสเปรย์พ่นจมูก ซึ่งค่อนข้างใช้ง่ายและไม่ทำให้เด็กๆ ตกใจ รวมทั้งช่วยลดอาการน้ำมูกเหนียวข้นได้ดีเช่นกัน
คัดจมูก-มีเสมหะ อาการของโรคภูมิแพ้อากาศ แนะทริคเสริมภูมิช่วงหน้าหนาว
ทั้งนี้หากเลือกล้างจมูกด้วยน้ำเปล่าๆ ธรรมดาก็อาจจะไม่ได้ช่วยอะไร แต่เพราะน้ำเกลือที่มีความเข้มข้น 0.9% นั้นช่วยให้มูกเหนียวข้น หนอง และสิ่งสกปรกตกค้างต่างๆ รวมถึงเชื้อโรคหลุดออกอย่างง่ายดาย เป็นการลดจำนวนเชื้อโรคและสิ่งสกปรกต่างๆ รวมทั้งสารก่อภูมิแพ้ให้ลดน้อยลงไปพร้อมๆ กันด้วย แล้วยังเป็นการป้องกันการลุกลามของเชื้อโรคจากจมูกและไซนัสลงไปที่ปอด ทำให้อาการหวัดเรื้อรังดีขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม การล้างจมูกเป็นการช่วยที่ปลายเหตุ สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้แนะนำว่าควรพบแพทย์เพื่อตรวจให้แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุใด และควรรักษาด้วยวิธีใดจะดีกว่า
ข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโลและโรงพยาบาลกรุงเทพ
หน้าฝนป่วยบ่อย เช็กอาการก่อนสับสนว่าติดเชื้อโควิด-ภูมิแพ้หรือไข้หวัด
ยาแก้แพ้อาจไม่ใช่ทางออก!“ภูมิแพ้อากาศ” ปรับพฤติกรรมเพื่อป้องกัน