คัดจมูก-มีเสมหะ อาการของโรคภูมิแพ้อากาศ แนะทริคเสริมภูมิช่วงหน้าหนาว
เช้านี้ตื่นขึ้นมาอากาศทั่วทุกภาคลดลง ทำให้ได้สัมผัสกับอากาศหนาวๆเย็น ๆ มีลมพอให้ชื่นใจกันบ้างแล้ว แต่ก็มีหลายคนที่ปรับตัวไม่ทัน ทำให้มีอาการแพ้อากาศกำเริบ ฟึดฟัด คัดจมูก น้ำมูกไหล ใช้ชีวิตไม่สนุก วันนี้ PPTV Online ได้รวบรวมทริคเอาชนะ ภูมิแพ้อากาศ มาฝากกันค่ะ
โรคแพ้อากาศหรือโรคโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ เกิดจาก เยื่อบุโพรงจมูกสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้และอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ หรือเฉียบพลัน โดยเฉพาะอากาศเย็นและแห้ง จึงทำให้เกิดการระคายเคืองส่งผลให้โพรงจมูกอักเสบ ซึ่งถึงแม้จะไม่ใช่โรคที่รุนแรง แต่ก็สร้างความสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว
ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้อากาศ จะมีการตอบสนองต่อกลิ่นหรืออากาศที่หายใจเข้าไปค่อนข้างสูงและไวกว่าคนปกติโดยเฉพาะกับ
- เกสรดอกไม้
- ไรฝุ่น
- ควัน
- ขนสัตว์
- อากาศที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอากาศเย็นและฝนตก
สภาพอากาศวันนี้! อากาศเย็น อุณหภูมิลดลง 1-3 องศา ใต้ฝนลดในบางพื้นที่
ยาแก้แพ้อาจไม่ใช่ทางออก!“ภูมิแพ้อากาศ” ปรับพฤติกรรมเพื่อป้องกัน
อาการของโรคภูมิแพ้อากาศจะไม่มีอาการไข้ร่วมซึ่งเป็นในลักษณะอาการเรื้อรังเป็นๆ หายๆ มักเป็นในช่วงเช้าและกลางคืน เช่น
- น้ำมูกไหลโดยน้ำมูกมีสีใส
- จาม
- คันในจมูก
- คัดจมูก
- เสียงขึ้นจมูก
- หากมีอาการมากอาจหายใจติดขัดทางจมูกจนต้องอ้าปากหายใจ
- มีเสมหะไหลลงคอ
- กระแอมบ่อยเพราะมีเสมหะติดคอ
- อาการคันตา
- บางรายยังมีอาการปวดศีรษะ
- หูอื้อ เจ็บหูด้านหลัง
- รู้สึกมึนและอ่อนเพลียหลังตื่นนอน
- รวมถึงมีอาจมีภาวะแทรกซ้อนจากโรค เช่นไซนัสอักเสบ นอนกรน และหูชั้นกลางอักเสบ
หน้าหนาว “ผิวแห้งกร้าน” หยุดเกา-เลี่ยงอาบน้ำอุ่น ก่อนโรคผิวหนังถามหา
เคล็ดลับดีๆ ที่คนเป็นภูมิแพ้ต้องรู้ไว้!
- เพิ่มความอบอุ่น เพราะผู้ป่วยภูมิแพ้มีความไวต่ออากาศเย็น จึงต้องดูแลร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น เช่น ห้องแอร์ และควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ดังกล่าวเป็นเวลานานๆ
- เสริมเกราะด้วย “วิตามินซี”ด้วยคุณสมบัติสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ลดโอกาสเป็นไข้หวัด หนาวนี้..วิตามินซีจึงเป็นอาหารเสริมที่ผู้ป่วยภูมิแพ้ควรให้ความสำคัญ
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำเย็น แม้ว่าการอาบน้ำอุณหภูมิปกติจะดีต่อสุขภาพผิว แต่คงไม่ใช่สำหรับสุขภาพร่างกายของผู้ป่วยภูมิแพ้อากาศ หรือถ้าหากว่ากลัวผิวแห้งแตกเป็นขุย แนะนำว่าให้อาบน้ำอุ่นก่อน…แล้วค่อยตามด้วยน้ำอุณหภูมิปกติในตอนสุดท้ายจะดีกว่า
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมว่ายน้ำ อาจจะหันไปจ๊อกกิ้ง, ปั่นจักรยาน หรือ โยคะ แทนก่อน
- ใส่ใจเรื่องการกิน ไม่ว่าจะฤดูไหนๆ ร่างกายย่อมต้องการอาหารครบทั้ง 5 หมู่ แต่สำหรับช่วงหน้าหนาว ผู้ป่วยภูมิแพ้ควรลดเมนูเย็นๆ อย่าง ไอศกรีม หรือน้ำปั่น แล้วหันมาดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆ แทนจะดีกว่านะ
- จัดการไรฝุ่น แม้ว่าปกติจะหมั่นซักทำความสะอาดผ้าปูที่นอน หมอน ผ้าห่ม อยู่แล้ว แต่ในช่วงหน้าหนาวที่ร่างกายเสี่ยงต่อการเกิดภูมิแพ้ได้ง่าย ยิ่งต้องให้ความสำคัญกับการทำความสะอาด ซึ่งการซักผ้าที่ช่วยกำจัดไรฝุ่นได้ดี คือต้องซักด้วยน้ำร้อน 60 องศา นาน 15-20 นาที ก่อนจะนำไปตากแดดให้แห้ง
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เพราะสำหรับผู้ป่วยภูมิแพ้อากาศ การเข้าพบแพทย์เฉพาะทางเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะการซื้อยามาทานเองอาจเป็นอันตรายต่อเยื่อจมูกได้ ทางที่ดีควรให้แพทย์วินิจฉัยและจ่ายยาให้ตามลักษณะอาการของบุคคล
- ฉีดวัคซีนภูมิแพ้ (Allergen Immunotherapy) หรือการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัดโดยแพทย์ฉีดสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกายครั้งละน้อยๆ หลาย ๆ ครั้งโดยจะเพิ่มขนาดขึ้นตามลำดับจนกว่าอาการแพ้ของผู้ป่วยจะทุเลาลง ส่วนใหญ่แนะนำในผู้ป่วยที่รักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล และต้องรักษาโดยแพทย์เฉพาะทาง เพื่อการรักษาที่ได้ผลดีที่สุด
อากาศเย็นอาจมาให้เราชื่นใจไม่นานแต่สุขภาพของเราจะอยู่กับเราตลอดไปนะคะ หมั่นเช็กอาการตัวเองรักษาสุขภาพนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช,โรงพยาบาลเปาโล