ปอด หัวใจ สมอง 3 ระบบร่างกายสัมพันธ์กัน เกิดความผิดปกติเพียง 1 เสี่ยงสารพัดโรค
โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคในระบบทางเดินหายใจหรือโรคปอดนั้น มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันมาโดยตลอด จากรายงานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ในปี 2019 พบว่าสาเหตุการเสียชีวิต 3 อันดับแรก ได้แก่ โรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง และโรคทางเดินหายใจอุดกั้นเรื้อรัง ตามลำดับ โดยมีความสัมพันธ์ต่อกันดังต่อไปนี้
รู้หรือไม่ ? การสูบบุหรี่ เป็นสาเหตุของหลักของการเกิดโรคปอด ที่พบบ่อย ได้แก่ โรคมะเร็งปอด และโรคปอดอุดกั้น ซึ่งมีส่วนทำให้หัวใจต้องทำงานหนักมากขึ้นเนื่องจากแรงต้านในปอดสูงกว่าปกติ ความดันของหลอดเลือดที่ไหลกลับเข้าสู่หัวใจเพิ่มขึ้น มีส่วนทำให้หัวใจต้องทำงานหนักมากขึ้น จึงเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะมากขึ้นได้ อีกทั้งโรคถุงลมโป่งพองยังสามารถเพิ่มความดันโลหิตของหลอดเลือดปอด
7 สัญญาณ “วัณโรคปอด” ไอเรื้อรังนานแค่ไหนควรพบแพทย์ หายได้หากรู้ทัน
ภาวะน้ำท่วมปอด คืออะไร ทำไมคนเป็นโรคหัวใจ-ไตต้องระวัง
ซึ่งสามารถทำให้เกิดภาวะหัวใจห้องขวาล้มเหลวได้ ภาวะนี้เป็นภาวะที่อันตราย ทำให้ผู้ป่วยเหนื่อยมากและเสียชีวิตได้ในที่สุด ทั้งนี้ ยังมีรายงานพบอีกว่า ในคนที่เป็นโรค COPD 100 คน จะมีคนที่เสียชีวิตจากโรคหัวใจมากถึง 25-33 คน ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่เยอะมากทีเดียว นอกจากนั้นแล้ว ผู้ที่มีลิ่มเลือดอุดตันในปอด หากเกิดในภาวะเฉียบพลัน สามารถทำให้หัวใจหยุดเต้นหรือทำให้หัวใจด้านขวาวายฉับพลันได้ หรือในกรณีเรื้อรังก็สามารถทำให้เกิดภาวะความดันเลือดในปอดสูงได้
ในทางกลับกัน โรคหัวใจชนิดต่างๆ ก็ส่งผลต่อปอดด้วยเช่นกัน เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจากหลอดเลือดหัวใจตีบ ลิ้นหัวใจตีบหรือรั่วมากจนบีบเลือดออกจากหัวใจได้ไม่ดี โรคหัวใจเหล่านี้ทำให้หัวใจทำงานได้ไม่ปกติ ซึ่งอาจส่งผลให้เลือดคั่งค้างที่หัวใจ และล้นกลับไปที่ปอด ไปอยู่ในถุงลมของปอด ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมปอดได้ในที่สุด ปอดไม่สามารถแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ ผู้ป่วยจะมีอาการหายใจหอบเหนื่อย เหนื่อยจนนอนราบไม่ได้ และ/หรือต้องตื่นขึ้นมาหายใจหลังจากหลับไปแล้ว ซึ่งภาวะนี้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ถ้ารักษาไม่ถูกต้องและทันท่วงที ทั้งนี้ หากพบโรคปอดเหล่านี้กับโรคหัวใจร่วมกัน จะส่งผลให้ผู้ป่วยมีอัตราการตายมากขึ้นได้อีกด้วย
โรคปอดเกี่ยวอะไรกับหลอดเลือดสมอง
สองโรคนี้มีความเสี่ยงของการเกิดโรคร่วมกัน คือ การสูบบุหรี่ จึงมีโอกาสที่จะพบโรคของทั้งสองระบบเช่นเดียวกันในคนกลุ่มนี้ในส่วนของโรคปอดเองก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ เช่น การเกิดโรคลิ่มเลือดอุดตันในปอด (Pulmonary Embolism) ร่วมกับภาวะผนังกั้นหัวใจรั่ว อาจมีการหลุดของลิ่มเลือดในปอดผ่านทางหลอดเลือดดำจากปอดไปยังสมอง ทำให้เกิดอาการหลอดเลือดสมองอุดตันได้ หรือลิ่มเลือดนั้นอาจเกิดจากภาวะเลือดหนืด ทำให้เกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดหลายตำแหน่งของร่างกาย ตำแหน่งที่พบได้บ่อย คือ หลอดเลือดปอด หลอดเลือดที่ขา และหลอดเลือดสมอง อีกทั้งโรคมะเร็งหลายชนิด รวมถึงมะเร็งปอด ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดลิ่มเลือดด้วยเช่นกัน
ในทางตรงกันข้าม ผู้ป่วยที่เกิดโรคหลอดเลือดสมองและมีความทุพพลภาพ มีการเคลื่อนไหวร่างกายได้น้อยลง ก็อาจเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดที่ขา และหากมีการหลุดของลิ่มเลือดจากขาไปสู่ปอด ก็อาจส่งผลให้เกิดภาวะหลอดเลือดดำอุดตันที่ปอดตามมาได้ด้วยเช่นกัน
มะเร็งปอด ไอเรื้อรังแบบไหนสัญญาณเตือน ลุมลามไปอวัยวะไหนได้บ้าง?
ความเสี่ยงต่อโรคเหล่านี้
- ความดันโลหิตสูง
- ไขมันในเลือดสูง
- โรคเบาหวาน
- มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐาน
- สูบบุหรี่
- ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
- มีภาวะเครียดอยู่ตลอด
- อายุมากกว่า 50 ปี ขึ้นไป
- มีประวัติคนในครอบครัวโดยเฉพาะญาติสายตรงป่วยเป็นโรคดังกล่าว
ในบางครั้งเราอาจพบโรคเหล่านี้ได้ในผู้ป่วยที่อายุน้อยลง โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงร่วมกันหลายข้อ ถึงแม้ว่าผู้ป่วยรายนั้นจะออกกำลังกายอย่างหนัก ก็ยังสามารถพบโรคเหล่านี้ได้ จะเห็นได้ว่าทั้ง 3 ระบบหรืออวัยวะนี้มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่อง หากมีความเสี่ยงของโรคใดโรคหนึ่งแล้ว ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคของอีกสองระบบที่เหลือได้เช่นกัน ทั้งนี้ สามารถรับการตรวจคัดกรองโรคก่อนมีอาการป่วยได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ได้ เช่น
- การตรวจ CT calcium scoring หรือ การตรวจคราบหินปูนในหลอดเลือดหัวใจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เพื่อคัดกรองโรคทางระบบหัวใจและหลอดเลือด
- การตรวจ Carotid Duplex Ultrasounds หรือ การตรวจหลอดเลือดที่คอ เพื่อคัดกรองโรคทางสมองและระบบประสาท
- การตรวจ CT chest screening Low Dose หรือ การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่ปอดแบบใช้ปริมาณรังสีต่ำ เพื่อคัดกรองโรคทางระบบทางเดินหายใจ
ทั้งนี้เราสามารถดูแลตัวเองด้วยการควบคุมปัจจัยเสี่ยงที่สามารถควบคุมได้ เช่น ความดัน น้ำตาล และไขมันในเลือด การสูบบุหรี่ การลดน้ำหนัก เป็นต้น และค้นหาโรคเชิงรุกที่เกิดขึ้นในระยะแรกเริ่ม โดยการพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจคัดกรอง และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคและลดความรุนแรงหากเกิดโรคหรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจส่งผลต่อในระบบอื่นๆ ที่มีความสัมพันธ์กัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรพยาบาลสมิติเวช
ฟื้นฟูปอดหลังหายโควิด19 ฝึกหายใจ-ออกกำลังกายอย่างไรให้ปอดแข็งแรง
31 พฤษภาคม “วันงดสูบบุหรี่โลก” ชวนนักสูบลด ละ เลิก บุหรี่ทุกชนิด