จัดการกลิ่นตัวแรงหน้าร้อนให้อยู่หมัด ทวงความมั่นใจ ลดกลิ่นอับ!
หลายคนที่มีกลิ่นตัวอาจไม่รู้ตัว แต่นั้นอาจบั่นทอนความมั่นใจได้ โดยเฉพาะหน้าร้อนที่มีปัจจัยกระตุ้นหลายอย่าง แนะวิธีการดับกลิ่นตัว!
ในช่วงอากาศร้อนอบอ้าว หลายคนอาจสังเกตได้ว่า คนรอบข้างของเรากลิ่นตัวแรงมากขึ้น หรือเป็นเราเอง ที่มีกลิ่นตัวซึ่งตามธรรมชาตินั้น มนุษย์ทุกคนจะมีกลิ่นตัวโดยธรรมชาติซึ่งจะเป็นกลิ่นจางๆ แต่เมื่อมีสิ่งกระตุ้นบางอย่างก็จะทำให้กลิ่นตัวแรงขึ้นอย่างช่วยไม่ได้
ชนิดของต่อมผลิตเหงื่อ
- ต่อมเหงื่อที่อยู่กระจายใต้ผิวหนังทั่วร่างกาย
มีหน้าที่ผลิตเหงื่อเพื่อระบายความร้อนจากภายในร่างกาย
"เหงื่อออกตอนกลางคืน" ปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม อาจเป็นสัญญาณบอกโรค!
เทคนิคดูแลผู้สูงอายุช่วงหน้าร้อน อะไรควรทำ ? อะไรควรเลี่ยง

ดังนั้นต่อมเหงื่อชนิดนี้จะหลั่งเหงื่อออกมาเมื่อร่างกายอยู่ในที่ที่มีความร้อนหรือเมื่อเราออกกำลังกาย เพื่อควบคุมไม่ให้ความร้อนในร่างกายนั้นสูงเกินไป
- ต่อมเหงื่อชนิดที่พบที่บริเวณรักแร้และขาหนีบหลังหูหรือซอกคอ
มีหน้าที่ในการสร้างกลิ่นซึ่งเป็นลักษณะทางเพศแบบหนึ่งของคนเรา สารที่หลั่งจากต่อมกลิ่นประกอบด้วย กรดไขมันหลายชนิด มีลักษณะเหลวข้น ปกติจะไม่มีกลิ่น แต่เมื่อหลั่งออกมาด้านนอกของผิว แล้วพบกับเชื้อแบคทีเรีย หรือจากที่เรากินอาหารกลิ่นแรงๆ ก็ก่อให้เกิดกลิ่นตัวได้
ทั้งนี้กลิ่นตัวมักจะมาจากต่อมกลิ่น ต่างกับเหงื่อที่มาจากต่อมเหงื่อ กลิ่นตัวอาจมาร่วมกับภาวะเหงื่อออกมากหรือไม่ก็ได้ จะสังเกตได้ว่า คนที่เพิ่งออกกำลังกายเสร็จใหม่ๆ บางคนมีกลิ่นตัว บางคนไม่มี ในขณะที่บางคนไม่มีเหงื่อแต่มีกลิ่นตัวแรงมากก็มี แสดงว่าสาเหตุการเกิดกลิ่นตัวไม่ใช่เรื่องของเหงื่อ แต่มีปัจจัยอื่นๆ ที่สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ
- สาเหตุภายนอก มีเชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อราที่ผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่มีต่อมกลิ่น
- สาเหตุภายในร่างกาย มีการขับสารบางอย่างออกมาจากต่อมกลิ่นและต่อมเหงื่อ เช่น
- ความเครียด
- การมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน
- การรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรงหรืออาหารที่มีรสเผ็ดพวกเครื่องเทศ กระเทียม
- การดื่มแอลกอฮอล์
- การใช้ยารักษาภาวะซึมเศร้า
- ภาวะร่างกายหลั่งเหงื่อมากผิดปกติ
- โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคตับหรือโรคไต เป็นต้น
"อากาศร้อนจัด" กระตุ้นปวดหัว แนะพักผ่อนให้เพียงพอผ่อนคลายความเครียด
การรักษาป้องกันการมีกลิ่นตัว
- การรักษาสุขอนามัยให้สะอาด ล้างทำความสะอาดบริเวณรักแร้ ขาหนีบ จะช่วยลดปริมาณสารก่อกลิ่นที่หลั่งจากต่อมกลิ่นได้
- สวมใส่เสื้อผ้า ที่เบาสบาย ไม่ให้เกิดกลิ่นอับไม่พึงประสงค์
- เลือกใช้สบู่ฆ่าเชื้อเพื่อช่วยลดปริมาณแบคทีเรีย แต่ไม่ควรใช้สบู่บ่อยเพราะอาจทำให้ผิวแห้งและการระคายเคืองได้
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่ร้อนจัด อับชื้น อากาศไม่ถ่ายเท
- การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ใช้หลังจากทำความสะอาดร่างกายแล้ว สำหรับคนที่แพ้น้ำหอมควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีกลิ่นหอม หรือเลือกใช้สารส้มแทนได้
- การโกนขนบริเวณรักแร้หรือทำเลเซอร์กำจัดขน เพื่อป้องกันแบคทีเรียและการสะสมของสารก่อกลิ่น
หากดูแลตัวเองเบื้องต้นไม่สามารถจัดการกับกลิ่นได้ แนะนำว่าสามารถ การฉีด Botulinum toxin โดยแพทย์จะฉีดสารนี้ที่ใต้ผิวหนังบริเวณรักแร้ เพื่อลดการทำงานของต่อมกลิ่น เป็นวิธการรักษาที่ได้ผลดี แต่มีราคาสูง หรือการผ่าตัดเอาต่อมกลิ่นออก เป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลดี แต่อาจมีผลข้างเคียงหลังการรักษา เช่น มีแผลเป็น การติดเชื้อ จึงขอให้ทำการรักษาโดยศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเท่านั้น
กลิ่นตัวส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอย่างไรบ้าง?
ส่วนใหญ่คนที่มีกลิ่นตัวมักจะไม่ได้กลิ่นของตัวเอง แต่กลิ่นจะไปรบกวนผู้คนรอบข้าง และเป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับการบอกให้เจ้าตัวรู้ จึงควรเป็นคนที่ใกล้ชิด เช่น คนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิทที่จะช่วยกระซิบบอก อย่างจริงใจ เพื่อให้หาแนวทางการรักษาสุขลักษณะ หรือ แนวทางการรักษา เพิ่มคุณภาพชีวิตให้หน้าร้อนนี้เหงื่อออกแค่ไหนก็มั่นใจได้!
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลพญาไท 2
6 กลุ่มเสี่ยงฮีทสโตรกผู้สูงอายุ-ดื่มแอลกอฮอล์ ทำไมถึงเสี่ยงมากกว่า?
หลักการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ให้อายุยืน สุขภาพกายและใจแข็งแรง