ปัญหาการนอนหลับผู้สูงอายุ ต้นตอโรคแทรกซ้อนต้องระวัง!
ยิ่งอายุมากขึ้น การนอนหลับยิ่งสั้นลง สาเหตุและวิธีแก้ เช็กก่อนโรคแทรกซ้อนลุกลามทำลายสุขภาพ!
ปัญหานอนไม่หลับอาการที่พบได้บ่อยในวัยผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นภาวะที่เกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย เช่น สูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ นิสัยการนอน หรือแม้แต่โรคประจำตัว เช่น โรคหยุดหายใจขณะหลับ อาการขาอยู่ไม่สุข ความผิดปกติของพฤติกรรมขณะนอนหลับ โรคทางจิตเวช เช่น ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล รวมไปถึงพฤติกรรมและการใช้ชีวิตสมัยใหม่ ที่หลายคนอาจมองข้าม และมองว่าการนอนดึกตื่นเช้าเป็นเรื่องดี แต่อันที่จริงนั้นเวลานอนที่ลดลง ส่งผลให้คุณภาพการนอนหลับและสุขภาพแย่
Freepik/ Drazen Zigic
ผู้สูงอายุนอนไม่หลับ
สาเหตุการนอนไม่หลับของผู้สูงอายุ
- การเปลี่ยนแปลงการนอน ปกติร่างกายคนเราจะมีวงจรการนอน แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่
- ช่วงการนอนหลับธรรมดาโดยที่ไม่มีการกลอกตา Non Rapid Eye Movement (NON-REM) เป็นส่วนของการนอนหลับลึก เพื่อให้อวัยวะต่างๆ ได้ฟื้นฟู ซ่อมแซมตัวเอง สัมพันธ์กับความรู้สึกสดชื่นในตอนกลางวัน
- ช่วงการนอนหลับที่กลอกตาอย่างรวดเร็ว Rapid Eye Movement (REM) ซึ่งเป็นช่วงที่สมองจะทำการจัดเก็บข้อมูลที่เราเรียนรู้มาให้เป็นระเบียบ สร้างความจำระยะยาว และทำให้เกิดการฝัน
วงจรการนอนหลับทั้ง 2 ส่วนนี้ จะเกิดสลับกันไป 5-6 ครั้งทุกๆ คืน แต่เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายเริ่มสร้างสารเมลาโทนิน (melatonin) และโกรทฮอร์โมน (growth hormone) ลดลง ส่งผลให้ผู้สูงอายุนอนหลับตามช่วงการนอนปกติได้ยากขึ้น ต้องใช้เวลามากกว่า 30 นาทีเพื่อนอนให้หลับ ระยะเวลาของการนอนหลับช่วงกลางคืนลดลง มักตื่นกลางดึกบ่อยๆ และตื่นเช้ากว่าปกติ
- ความผิดปกติในช่วงต่างๆ ของการนอน ไม่เกี่ยวข้องกับสาเหตุทางกายอื่นๆ (Primary Sleep Disorder) ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ อาการขาอยู่ไม่สุข มีความผิดปกติของการเคลื่อนไหวแขนขาเป็นระยะ ความผิดปกติของพฤติกรรมการนอนหลับในช่วง REM Sleep ส่งผลรบกวนการนอนทำให้ระยะการนอนหลับลดลง และขาดคุณภาพ
- โรคประจำตัวที่มีผลต่อการนอนในผู้สูงอายุ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคที่ส่งผลให้ปวด เช่น โรคข้ออักเสบ ปวดกล้ามเนื้อและกระดูก โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคปอดบวม โรคเบาหวาน โรคกรดไหลย้อน อาการท้องผูก/ท้องร่วง โรคทางเดินปัสสาวะ ความผิดปกติทางระบบประสาท เช่น โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น
- โรคทางจิตเวช เช่น ซึมเศร้า วิตกกังวล ไบโพลาร์ จิตเภท
พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การงีบหลับช่วงกลางวัน เข้านอนเร็วเกินไป ใช้เตียงสำหรับกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ดูทีวี อ่านหนังสือ เล่นสมาร์ทโฟน ขาดการออกกำลังกายในช่วงกลางวัน ปัญหาชีวิตต่างๆ เช่น การตายของคู่ครอง/คู่สมรส เพื่อน ขาดการเข้าสังคม
- สิ่งแวดล้อมไม่เหมาะสมกับการนอน เช่น มีเสียงรบกวน แสงสว่างมากเกินไป อุณหภูมิเย็น/ร้อน ความชื้น ผ้าปูที่นอนที่ไม่สบาย
- รับประทานยาบางชนิด ยากระตุ้นประสาท ยากล่อมประสาท ยาลดความดันโลหิตบางตัว ยาขยายหลอดลม ยาแก้แพ้
หลักการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ให้อายุยืน สุขภาพกายและใจแข็งแรง
ผลกระทบของการนอนไม่หลับในผู้สูงอายุ
การนอนหลับระยะเวลาสั้นๆ และการตื่นแต่เช้าเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวข้องกับอายุ ในประเทศญี่ปุ่นมีการทำแบบสอบถามการนอนหลับแก่ผู้ใหญ่จำนวน 5,407 คน ที่มีอายุ 45-99 ปี
ผลการศึกษาพบว่าทั้งชายและหญิง อายุที่มากขึ้นสัมพันธ์กับระยะเวลาการนอนหลับที่สั้นลง
ประสิทธิภาพการนอนหลับที่ลดลง และความตื่นตัวช่วงกลางคืนที่เพิ่มขึ้นในผู้ชาย ขณะที่ผู้หญิงมักมีปัญหากับการตื่นกลางดึกและตื่นเช้าเกินไป หากไม่ได้รับการแก้ไขจะส่งผลต่อการเพิ่มความเสี่ยงของการตายจากโรคหัวใจและหลอดเลือด อาจเป็นจุดเริ่มต้นของภาวะซึมเศร้า รวมถึงการทำงานทางกายภาพที่แย่ลง เช่น แรงยึดจับของมือที่ลดลง และเดินช้าลง
ทำให้เสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้มและกระดูกหักมากขึ้น
ถือเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต โดยจากการสำรวจปัจจัยเสี่ยงของการหกล้มในสตรีที่อาศัยอยู่ในชุมชนอายุ 70 ปีขึ้นไป จำนวน 2,978 คน พบว่าระยะเวลาการนอนหลับตอนกลางคืนที่น้อยกว่า 5 ชั่วโมง มีความเสี่ยงของการหกล้มเพิ่มขึ้นถึง 95%
การวินิจฉัยและวิธีแก้นอนไม่หลับในผู้สูงอายุ
- เข้านอนเมื่อง่วงเท่านั้น หากนอนไม่หลับเป็นเวลา 20 นาที ควรลุกไปทำอย่างอื่นที่ห้องอื่น แล้วกลับเข้าห้องนอนเมื่อง่วง
- ควรตื่นนอนเวลาเดิมทุกเช้า ไม่ว่าจะเข้านอนเวลาใดในตอนกลางคืน
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่เพียงพอช่วยเพิ่มความสามารถในการนอนหลับ การออกกำลังกายในตอนเช้าและตอนเย็นช่วยให้นอนหลับสนิทและทำให้คุณภาพการนอนหลับดีขึ้น อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายก่อนนอน
- สภาพแวดล้อมในห้องนอน ทำให้ห้องนอนมืดและเงียบสงบ เสียงและแสง สามารถรบกวนการนอนหลับได้ รักษาอุณหภูมิห้องนอนให้สบายตามความชอบของแต่ละคน
- รับประทานอาหารปกติ 3 ครั้งต่อวัน เมื่อรู้สึกหิว ให้รับประทานของว่างเบาๆ และหลีกเลี่ยงอาหารมื้อหนักก่อนนอน
- จำกัดการดื่มน้ำก่อนนอน เพื่อลดความถี่ในการปัสสาวะระหว่างการนอนหลับ
- จำกัดอาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อาทิ ชาเขียว ชา กาแฟ และช็อกโกแลตไม่เกิน 3 ถ้วยต่อวัน และไม่ควรดื่มในช่วงเย็น หรือก่อนนอน
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งอาจช่วยให้นอนหลับง่ายในช่วงแรก แต่จะรบกวนกระบวนการนอนหลับสนิท รวมถึงทำให้ตื่นแบบไม่สดชื่น
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ โดยเฉพาะในตอนเย็น เนื่องจากนิโคตินทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นและรบกวนการนอนหลับ
- ไม่ใช้ยานอนหลับทุกประเภทที่ซื้อมารับประทานเอง หรือยาแก้แพ้ แก้เมา ที่มีฤทธิ์ทำให้ง่วง เพราะอาจทำให้เกิดอาการสับสน มึนงง ระหว่างวัน ความจำถดถอย และเดินเซ ล้มได้
- ควบคุมสิ่งเร้าต่างๆ เช่น หนังสือ หรือภาพยนตร์ที่ตื่นเต้นมากเกินไป
- หลีกเลี่ยงการงีบหลับในช่วงกลางวัน
- พบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของการนอนไม่หลับ และรักษาอย่างถูกต้อง
การดูแลสุขภาพการนอนหลับของผู้สูงอายุ มีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม และต้องอาศัยความร่วมมือของผู้สูงอายุ และครอบครัวอย่างมาก เพราะการแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ไม่ว่าจะด้วยการใช้ยา หรือการปรับพฤติกรรม จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพ และคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์
ผู้สูงอายุเสี่ยงภาวะขาดน้ำ รุนแรงเสี่ยงหัวใจล้มเหลวไตวายได้!
9 วิธีดูแลผู้ป่วยเบาหวานช่วงหน้าร้อน! ละเลยอาจเสี่ยงถึงชีวิต