"ชีส"ควรกินวันละกี่แผ่น? กินเยอะระวังคอเลสเตอรอลพุ่ง-โซเดียมกระจาย

ชีสเป็นอาหารที่ผลิตจากนม ดังนั้น ชีสจึงมีปริมาณแคลเซียมที่สูง อุดมไปด้วยโปรตีนและวิตามินดี ที่ส่งผลดีต่อมวลกระดูก และอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุนได้ โดยเฉพาะเชดด้าชีส ซึ่งในปริมาณ 100 กรัมจะมีแคลเซียมประมาณ 710 มิลลิกรัม

ประโยชน์ของชีสที่กินได้แต่พอดี

• ป้องกันปัญหาฟันผุ

มีงานวิจัยบางชิ้นที่พบว่า เชื้อแบคทีเรียบางชนิด อย่างโพรไบโอติกที่อยู่ในชีส อาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดฟันผุได้ โดยในการทดลองกับอาสาสมัคร 74 คน 

ไขความลับของชีส หลังกระแส “ชีสบอร์ด” มาแรงติดเทรนด์โซเชียล

รู้จัก “แอสปาร์แตม” ที่ WHO เตรียมขึ้นบัญชีสารก่อมะเร็ง-สุขภาพพัง

ในช่วงอายุ 18–35 ปี พบว่าเมื่อรับประทานชีสปริมาณ 75 กรัมต่อวัน ปริมาณเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของฟันผุ และยีสต์ที่เป็นสาเหตุของปัญหาช่องปากมีปริมาณลดลง

• ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน

มีงานวิจัยบางชิ้นที่พบว่าชีสอาจส่งผลให้ร่างกายได้รับกรดไขมันทรานส์ปลามิโทเลอิก (Trans–palmitoleic Acid) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่สามารถพบได้ในผลิตภัณฑ์นม ที่อาจช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานได้ นอกจากนี้ ชีสยังอาจช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล ระดับอินซูลิน ลดความเสี่ยงการอักเสบต่าง ๆ และเพิ่มความไวต่ออินซูลินได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะหากรับประทานมากเกินไป จะทำให้ผู้รับประทานได้รับไขมันอิ่มตัวมากเกินไป

• ช่วยในการลดน้ำหนัก

ชีสในปริมาณที่พอเหมาะอาจช่วยให้ควบคุมน้ำหนักตัวได้ เนื่องจากไขมันที่ได้จากการรับประทานชีสอาจส่งผลให้อยู่ท้องนานขึ้น และไม่รู้สึกหิวบ่อย แต่ทั้งนี้ก็ควรเลือกรับประทานชีสที่ไขมันต่ำในรับประทานที่พอเหมาะเช่นกัน นอกจากนี้ยังเป็นอาหารที่มักพบไพรไบโอติก (Probiotic) ซึ่งเป็นสารอาหารที่ดีแต่อสุขภาพลำไส้ด้วย

7 คุณประโยชน์ของการกินอาหารแบบญี่ปุ่น ป้องกัน “โรคไขมันพอกตับ”

ข้อควรระวังในการกินชีส 

• ชีสเป็นอาหารที่มีปริมาณไขมันอิ่มตัว และคอเลสเตอรอลสูง โรคหัวใจ โรคความดัน โรคอ้วน และไขมันอุดตัน ดังนั้นพยายามเลือกรับประทานแต่ชีสไขมันต่ำ ซึ่งจะมีคอเลสเตอรอลต่ำไปด้วย ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ ควรจำกัดปริมาณการรับประทานชีสให้พอเหมาะ ไม่เกินวันละ1-2 แผ่น หรือ 100 กรัม เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากชีสได้อย่างเต็มที่
• ชีสบอกประเภทมีเกลือในปริมาณที่สูง อย่าง cheddar cheese 1 แผ่น น้ำหนักประมาณ 28 กรัม ใน 1 แผ่นมีโซเดียม 183 mg ไขมัน 9.3 กรัม ซึ่งหากกินเยอะแน่นอนว่าไตทำงานหนักแน่ๆ 
• ควรเป็นชีสที่ทำสดใหม่ เช่น คอตเทจชีส เพราะมีโปรตีนที่ดีกับสุขภาพในปริมาณมาก แต่ทั้งนี้ก็ควรรับประทานในปริมาณที่น้อย
• ควรกินชีสคู่กับโปรตีน อย่างเนื้อไก่ หรืออาหารที่มีไฟเบอร์สูง
• ผู้มีภาวะย่อยน้ำตาลแล็กโทสบกพร่องผู้ที่แพ้นม ผู้ที่แพ้โปรตีนเคซีนควรหลีกเลี่ยงการรับประทานชีสด้วยนะคะ

ส่วนเบอร์เกอร์ชีส 20 แผ่นที่เป็นกระแสอยู่ขณะนี้ หากใครอยากลองท้าทายชาเลนจ์ขอให้แบ่งกินเป็นมื้อๆ อย่ากินทีเดียวหมด เพราะเบอร์เกอร์ 1 ชิ้น พลังงานสูงถึง 2,000 แคลอรี(เท่ากับแคลอรีที่ต้องการในแต่ละวัน) โซเดียมสูงถึงประมาณ 4,000 มิลลิกรัม (มากกว่าที่ร่างกายต้องการวันละ2,000มิลลิกรัม) หรือทางที่ดีขอคนช่วยหารออกเป็น 4 ส่วนกำลังดีนะคะและไม่ควรกินบ่อยมากนัก หากเสียดายก็ลองเก็บชีสเอาไว้ทำเมนูอื่นก็คุ้มไม่แพ้กัน ที่สำคัญถึงแม้ชีสจะอร่อยแค่ไหนก็ควรกินอาหารให้หลากหลายเพื่อสุขภาพที่ดีนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : pobpad

"อะฟลาท็อกซิน" สารก่อมะเร็งตับมักปนเปื้อนในอาหาร-วิธีหลีกเลี่ยง

กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกวัน ระวังโซเดียมทะลุ เสี่ยงโรคหัวใจ-ไตวาย