เมนูชะลอโรคไต ลดเค็ม เลี่ยงโซเดียม เบารสจัด เพิ่มประสิทธิภาพรักษาได้!
“โรคไต” ต้องให้ความใส่ใจในการกินอาหาร มากกว่าโรคประจำตัวอื่นๆ เพราะหากกินตามใจอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ เช็กลิสต์หลักการกินชะลอโรคได้ที่นี้!
หัวใจสำคัญในการดูแลผู้ป่วยโรคไต คือ การลดเค็ม จำกัดการรับโซเดียมให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งผู้ป่วยโรคไตยังมีความเฉพาะเจาะจงของการกำหนดสารอาหารในการรับประทานต่อวัน เช่น โปรตีน โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และแร่ธาตุต่างๆ ตามระยะของโรคที่เป็นมากกว่าโรคทั่วไป
การควบคุมอาหารอย่างถูกต้องตั้งแต่ระยะเริ่มแรกของโรค และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีไตเสื่อมอยู่ในระยะ 3 เป็นต้นไปจึงสำคัญ เพราะถ้าหากกินถูกหลักจะช่วยชะลอการเสื่อมของวัย ยืดอายุต่อไปได้
“น้ำพริก”เมนูเพิ่มการกินผักแบบไม่ฝืน เลือกโปรตีนถูกประโยชน์มากกว่า!
อาหารโซเดียมสูงเพิ่ม “อาการบวมน้ำ” กินเยอะเสี่ยงโรคไต ความดันสูง

กินแบบไหนช่วยชะลอไตเสื่อมได้
โซเดียม
การลดเค็มคือหลักการสำคัญในการดูแลผู้ป่วยโรคไต แนะนำว่าควรรับประทานเกลือน้อยกว่า หรือเท่ากับ 1 ช้อนชาต่อวัน หรือ โซเดียมน้อยกว่า 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน
- ลดการเติมเครื่องปรุง เช่น น้ำปลา ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม เกลือ ผงชูรส
- หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป (processed meat) เช่น ไส้กรอก เบคอน กุนเชียง แหนม หมูยอ เพราะมีเกลือและไขมันสูง
- หลีกเลี่ยงเบเกอรี่ ขนมอบ เนื่องจากมีการใส่ผงฟูหรือเบกกิ้งโซดาในการทำขนมซึ่งมีโซเดียมเป็นส่วนประกอบ
- อาหารแช่แข็ง ของหมักดอง ขนมกรุบกรอบ ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ
โปรตีน
ควรเลือกโปรตีนคุณภาพดี เช่น ไข่ขาว เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เช่น เนื้อปลา อกไก่ สันในไก่ สันในหมู ในปริมาณที่เหมาะสมกับระยะของโรค โดยปริมาณโปรตีนในหนึ่งวันที่ผู้ป่วยโรคไตควรได้รับในแต่ระยะของโรคนั้น มีดังนี้
- ระยะ 1-3A - ไม่จำเป็นต้องมีการจำกัดโปรตีน แต่ให้รับประทานได้เป็นปกติ ในสัดส่วน 1.0-1.2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน
- ระยะที่ 3 B-5 และยังไม่ได้ล้างไต อาจจะต้องมีการเลือกชนิดและควบคุมประมาณการบริโภคโปรตีน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ไตทำงานหนัก รวมถึงช่วยดูแลและชะลอการเสื่อมของไตได้ดี โดยรับประทานสารอาหารประเภทโปรตีนได้ไม่เกินวันละ 0.6-0.8 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน
- โรคไตที่มีการล้างไตแล้ว อาจกินโปรตีนเป็นปกติได้ หรืออาจรับประทานโปรตีนได้ถึง 1.3-1.4 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน เพื่อชดเชยโปรตีนที่สูญเสียไประหว่างการล้างไตด้วยได้
ฟอสฟอรัส
ผู้ป่วยที่มีไตเสื่อมในระยะ 3 ขึ้นไป จะมีการขับฟอสฟอรัสได้น้อยลง ดังนั้น ผู้ป่วยที่มีไตเสื่อมในระยะที่ 3 ขึ้นไปหรือมีระดับฟอสฟอรัสในเลือดสูง
หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีฟอสฟอรัสสูง
- อาหารจำพวกนม
- โยเกิร์ต
- นมถั่วเหลือง
- ไข่แดง
- เครื่องในสัตว์
- ปลากรอบ
- เต้าหู้
- ข้าวโอ๊ต
- ข้าวกล้อง
- ขนมปังโฮลวีต
- ธัญพืชต่างๆ เช่น งาขาว งาดำ เมล็ดฟักทอง
- รวมถึงถั่วต่างๆ น้ำอัดลมสีเข้ม น้ำแร่ ขนมปัง ไอศครีม
แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีฟอสฟอรัสต่ำได้ เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว วุ้นเส้น เส้นหมี่ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ ไข่ขาว เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน น้ำขิง น้ำมะนาวโซดา ในสัดส่วนที่เหมาะสม
สารอาหารสำคัญช่วยบำรุงสมองผู้สูงอายุ ลดภาวะสมองเสื่อม
โพแทสเซียม
ผู้ป่วยที่มีไตเสื่อมในระยะที่ 3 ขึ้นไป จะมีการขับโพแทสเซียมได้น้อยลง ดังนั้น ผู้ป่วยที่มีไตเสื่อมในระยะที่ 3 ขึ้นไปหรือมีระดับโพแทสเซียมในเลือดสูง
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโพแทสเซียมสูง
- ผักสีเข้ม เช่น บล็อกคโคลี่ คะน้า หัวปลี กะหล่ำดอก แครอท
- ผลไม้ เช่น ส้ม ทุเรียน แตงโม มะละกอ แก้วมังกร ฝรั่ง ขนุน
แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีโพแทสเซียมต่ำ จำพวกผัก เช่น กะหล่ำปลี ยอดมะระ ผักกาดขาว ผักบุ้ง มะเขือยาว ผลไม้ เช่น เงาะ มังคุด สับปะรด แอปเปิ้ล ในสัดส่วนที่เหมาะสม
ไขมัน
- กินอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันคาโนล่า น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันมะกอก เนื้อปลาทะเล
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันหมู น้ำมันมะพร้าว เนย กะทิ เครื่องในสัตว์ หมูสามชั้น
เมนูอาหารแนะนำ
อาหารที่มีส่วนผสมของโปรตีนคุณภาพดีและมีรสจืด เช่น ข้าวต้มไก่ ไก่ผัดพริกหยวก ต้มข่าเห็ด ยำวุ้นเส้น สเต็กปลากระพง สลัดเปรี้ยวหวาน ผัดยอดมะระหมูสับ ต้มจืดผักกาดขาววุ้นเส้น เป็นต้น (เลี่ยงการปรุงที่ไม่จำเป็น)
เนื่องจากโรคไตนั้นมีความจำเพาะของโรคมาก แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางโรคไตโดยตรงจะดีที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
อาหารลดอาการปวดกล้ามเนื้อ เหมาะสำหรับคนเป็นออฟฟิศซินโดรม
วิจัยพบ แอลคาร์นิทีน เพิ่มอัตราเผาผลาญ ลดมวลไขมัน เสริมมวลกล้ามเนื้อ