อาหารเสี่ยงไขมันพอกตับ กินเยอะเสี่ยงโรคอ้วน-ตับแข็ง ทำลายสุขภาพ!
รู้หรือไม่ ? ไทยคนป่วยด้วยภาวะไขมันพอกตับเยอะแต่ไม่รู้ตัว เพราะอาจเกิดจากพฤติกรรมเสพติดอาหารฟาสฟู้ดทอดๆ มันๆ แนะ 5 กลุ่มอาหารกินเยอะเสี่ยงไขมันพอกตับลุกลามตับแข็ง-มะเร็งตับได้!
ตับอวัยวะสำคัญและถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาอวัยวะภายใน ซึ่งมีหน้าที่สำคัญมากมากหากตับมีปัญหาก็เหมือนเปราะป้องกันร่างกายถูกทำลาย หนึ่งในภัยเงียบที่ทำร้ายตับและคนไทยเป็นเยอะแต่ไม่รู้ตัว คือภาวะไขมันพอกตับ ที่มักมาพร้อมกับโรคอ้วน เนื่องจากการบริโภคไขมันเลวและคาร์โบไฮเดรตในปริมาณมากเกินกว่าร่างกายจะเผาผลาญได้หมดและเป็นจุดเริ่มต้นของภาวะตับอักเสบ ตับแข็ง มะเร็งตับ
Freepik/wirestock
Junk Food
5 กลุ่มอาหารเสี่ยงไขมันพอกตับ!
- อาหารคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง พิซซ่า อาหารขยะ (Junk Food)เป็นต้น
- อาหารที่มีรสหวานมาก เช่น น้ำหวาน ชานม น้ำอัดลม กาแฟ ชาเขียวชงที่ใส่น้ำตาล ครีมเทียม เยอะๆ
- ผลไม้ที่มีน้ำตาลฟรุกโตสปริมาณมาก เช่น มะม่วงสุก ทุเรียน
- อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น ของทอด ไอศกรีม เป็นต้น
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ผู้ที่มีความเสี่ยงประเภทน้ำหนักตัวเกิน ชอบปาร์ตี้ ดื่มกินหนักๆ ติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี ถ้าไม่อยากเป็นโรคไขมันพอกตับ จนนำไปสู่โรคตับแข็ง ก็ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสียใหม่
- เลิกสูบบุหรี่ หรือไม่อยู่ในสถานที่ที่มีควันบุหรี่
- เลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- ดื่มน้ำสะอาดมากๆ จิบน้ำบ่อยๆ
- กินอาหารที่มีประโยชน์ ลดการกินของหวาน ของมัน
- ออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 160 นาที
- ระวังเรื่องน้ำหนักตัวอย่าให้เกินมาตรฐาน
- ขับถ่ายเป็นประจำ ระวังอย่าให้ท้องผูก
- หากมียาที่ต้องกินประจำควรปรึกษาแพทย์รักษาโรคที่เป็นอยู่ เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน ให้อยู่ในภาวะที่ปกติที่สุด
“ชาเขียว” ออกฤทธิ์ช่วยลดความอ้วนและระดับน้ำตาลในเลือด
การเลือกกินอาหารที่มีเส้นใยสูงและขจัดสารพิษออกจากตับ ก็นับเป็นทางเลือกที่ดีมากกว่า ทั้งนี้แนะนำว่าอย่ากินยานอกเหนือตามที่แพทย์สั่งเพราะอาจเป็นภาระของตับได้ อย่างไรก็ตามอาหารข้อห้ามต่างๆไม่ใช่ไม่ควรกินทั้งหมดแต่อยากให้กินแต่พอดี ออกกำลังกายควบคู่กันเพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์
ขอบคุณข้อมูลจาก :โรงพยาบาลเปาโล และ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
“กาแฟ”เครื่องดื่มคาเฟอีน-สารต้านอนุมูลอิสระเต็มแก้ว-ใครบ้างไม่ควรกิน!
“อะฟลาท็อกซิน”สารก่อมะเร็งที่เพียง 1 ไมโครกรัมเสี่ยงทำลายตับ อันตรายถึงชีวิต