ส่อง 6 เทรนด์ “สุขภาพ-สุขภาวะ” น่าจับตามองในปี 2566
ส่อง 6 เทรนด์ “สุขภาพ” (Health) และ “สุขภาวะ” (Well-being) ที่น่าจับตามองและคาดว่าจะมาแรงในปี 2566
“สุขภาพ” (Health) และ “สุขภาวะ” (Well-being) ที่ดี เป็นหนึ่งในเป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ที่สหประชาชาติร่วมกันกำหนดขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ภายในปี 2573
โดยเป้าหมายของ “สุขภาพ” คือสภาพร่างกายที่แข็งแรงปราศจากโลก ในขณะที่ “สุขภาวะ” หรือเรียกอีกอย่างให้เข้าใจง่ายๆ ว่า “ความเป็นอยู่ที่ดี” คือความสมดุลในทุกมิติ
ส่อง 10 เทรนด์ “อาหารเพื่อสุขภาพ” มาแรงปี 2566
แนวโน้มเทรนด์สุขภาพ ปี 2023 ที่มีโควิดเป็นปัจจัยเปลี่ยนแปลงสำคัญ!
5 เมนูกินแล้วหลับง่าย แก้อาการนอนไม่หลับ
สาเหตุที่สหประชาชาติร่วมกันกำหนดขึ้นมาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น เพราะสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีต่างมีผลกระทบต่อมวลมนุษยชาติโดยส่ง ซึ่งจะส่งผลไปยังชุมชน สังคม เศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และโลกในภาพรวมด้วย
แต่เทรนด์สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ ซึ่งคาดว่าจะมาแรงในปีหน้า หรือปี 2566 จะมีอะไรบ้างนั้น เราได้รวบรวมข้อมูลมาจากเว็บไซต์ Stylist มีรายละเอียดที่น่าสนใจ ดังนี้
1.) “NAD+” นวัตกรรมฟื้นฟูผิวหนังและกล้ามเนื้อ
การเพิ่มขึ้นของอาหารเสริมคอลลาเจน ทำให้นักโภชนาการหลายคนรู้สึกไม่พอใจ เนื่องจากมีอาหารเสริมไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่พิสูจน์แล้วว่าร่างกายสามารถดูดซึมได้ ทำให้เกิด “NAD+” หรือนวัตกรรมแห่งการฟื้นฟูผิวและกล้ามเนื้อขึ้นมา ด้วยการค้นพบใหม่ ที่เชื่อกันว่าเป็นวิทยาการที่ก้าวหน้าและดูมีประสิทธิผลมากกว่า จึงคาดการณ์ว่านวัตกรรมใหม่นี้จะมาแรงในปี 2566
2.) โปรตีนหมัก
เราทุกคนต่างรู้กันดีว่า อาหารหมักดองนั้นดีต่อสุขภาพของลำไส้ แต่ตอนนี้นอกจาก “กิมจิ” “ชาหมัก” และ “คีเฟอร์” แล้ว ยังมีโปรตีนหมักด้วยที่มาแรงไม่แพ้กัน
การหมักดอง เป็นวิธีการถนอมอาหารรูปแบบหนึ่งที่จะใช้จุลินทรีย์ ยีสต์ รา หรือแบคทีเรียมาทำปฏิกิริยากับอาหาร อาหารที่ได้จากการหมัก เมื่อทานเข้าไปจะกระตุ้นให้โปรไบโอติกเจริญเติบโต ทำให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายของเราได้ดีขึ้น จึงดีต่อสุขภาพช่องท้องของเรานั่นเอง
แต่ด้วยเทรนด์การกินอาหารทดแทนเนื้อสัตว์เติบโตขึ้น ผู้คนควานหาแหล่งโปรตีนใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพราะเชื่อว่าหนทางนี้จะยั่งยืนกว่าและดีต่อโลกด้วย ตลาดของพืชตระกูลถั่วและธัญพืชจึงขยายออก และเกิดการนำถั่วมาหมัก อย่าง “เทมเป้” เมนูถั่วเหลืองหมัก แหล่งอาหารโปรตีนสูง กลายเป็นอาหารที่เริ่มได้รับความนิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพ และคาดว่าจะมาแรงในปี 2566
3.) อาหารเสริมสุขภาพดวงตา
ที่ผ่านมาหลายคนมักดูแลลำไส้ จิตใจ กล้ามเนื้อ และหัวใจกันเป็นส่วนใหญ่ แล้วดวงตาล่ะ มักถูกมองข้ามไป แต่ล่าสุด Holland และ Barrett พบว่าในปี 2565 เริ่มมีผู้คนเริ่มมองหาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพดวงตาเพิ่มขึ้น 24% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในปี 2566
4.) เนยถั่วผสมธัญพืช
แทนที่จะทาเนยถั่วธรรมดาๆ ลงบนขนมปัง ในอนาคตคาดว่าเราจะได้เห็นเนยถั่วเมล็ดฟักทอง หรือเนยถั่วเมล็ดทานตะวันกัน การผสมผสานแบบใหม่นี้กำลังเป็นที่นิยม นอกจากจะดีต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังอุดมไปด้วยสารอาหาร แถมอร่อยอีก ถือเป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่มักหลีกเลี่ยงการกินธัญพืช
5.) วิตามินสำหรับผู้ป่วยภาวะถุงน้ำในรังไข่
ผู้หญิง 1 ใน 10 คน เป็นผู้ป่วยภาวะถุงน้ำในรังไข่ (PCOS) และ อีกหลายคนประสบปัญหาฮอร์โมนผิดปกติ หลายคนจึงหันไปมองหา “อิโนซิทอล” หรือ “วิตามินสำหรับบำรุงไข่ เพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์” ซึ่งเป็นอาหารเสริมที่ควบคุมฮอร์โมนและอินซูลิน เพื่อรักษาภาวะถุงน้ำในรังไข่ได้
แม้ว่า “อินโนซิทอล” จะเป็นอาหารเสริมที่มีมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ด้วยผู้หญิงต้องการข้อมูลที่ถูกต้องมากขึ้นเรื่อยๆ วิตามินสำคัญนี้จึงกลายเป็นหนึ่งในอาหารเสริมที่มีการค้นหาในปี 2565 มากที่สุด และคาดว่าจะถูกค้นหาอย่างต่อเนื่องในปี 2566 นี้
6.) ออกกำลังกายแบบหนักสลับเบา (GRIT)
การออกกำลังกายแบบหนักสลับเบา (GRIT) กำลังเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หลังมีผลการวิจัยยืนยันว่าช่วยบรรเทาอาการของโรคลำไส้แปรปรวน (IBS) หรือผู้ที่มีระบบย่อยอาหารไม่ดีได้ ใครที่กำลังสนใจรูปแบบการออกกำลังกายแบบหนักสลับเบาที่ทำเองได้ง่ายๆ เราได้นำมาฝากกัน
โดยให้ออกกำลังกายตามท่าด้านล่างนี้ โดยทำต่อเนื่อง 45 วินาที หยุดพัก 15 วินาที แล้วทำซ้ำ 3-4 รอบ หรือแล้วแต่ความสามารถของเรา
- ท่า Glute bridge คือ นอนราบกับพื้น ชันเข่าทั้ง 2 ข้างขึ้น แขนวางแนบพื้น แล้วค่อยๆ ยกสะโพกขึ้น
- ท่า Bird Dogs คือ วางมือและขาทั้ง 2 ให้ตั้งฉากกับพื้น จากนั้นยกแขนซ้ายและขาขวาขึ้นให้ขนานกับพื้น ต่อด้วยการยกแขนขวาและขาซ้ายขึ้น ทำสลับกันไป
- ท่า Dead bug คือ นอนชันเข่าทั้ง 2 ข้างขึ้น แล้วชูแขนทั้ง 2 ข้างขึ้นฟ้า เมื่อแขนตั้งตรงไม่มีอาการส่ายไปมา ให้เกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้อง แล้วค่อย ๆ ยกขาทั้งสองข้างขึ้นพร้อมทั้งงอเข่าร่วมด้วยอย่างช้า ๆ
- ท่า Low Lunge คือ วางแขนตั้งฉากกับพื้น ก้าวขาข้างใดข้างหนึ่งไปข้างหน้าระหว่างมือ ลดเข่าอีกข้างหนึ่งลง ปลายเท้าราบ จากนั้นหมุนเท้าขาที่ก้าวออกไปก่อนนั้นให้ขนานไปกับด้านหน้า ลดสะโพกลง จากนันค่อยๆ ลดศอกทั้งสองลงที่พื้น วางมือไปด้านหน้า แขนตั้งฉาก แล้วค่อยๆ เหยียดไปด้านหน้าสุดแขน ยืดหลัง ลดศีรษะลงวางที่พื้น แล้วคลายท่า ทำสลับข้าง
ขอบคุณข้อมูลจาก : Stylist และ MTEC
บอกลาโควิด19 ปีนี้ ? ไปต่อปี 2566 ? กับโลกวิถีใหม่ที่ไม่มีผลแพ้ชนะ
เปิดเทคนิคกดจุดง่ายๆ บรรเทาอาการ “จาม-ไอ-คัดจมูก” จากภูมิแพ้