เตือน! ซดน้ำ“หม่าล่า” ระวังท้องเสีย-ลำไส้แปรปรวน แนะทริคกินให้สุขภาพดี
หน้าฝนแบบนี้หลายคนคงมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวอยากซดน้ำร้อนๆให้คล่องคอ หม่าล่า เป็นอีกหนึ่งทางเลือกอันดับต้นๆ เพราะรสชาติเผ็ดชาเป็นเอกลักษณ์ทำให้ครองใจใครหลายคนได้ไม่ยาก อีกทั้งยังฮิตไม่ตกเทรนด์ แต่ขอเตือนสายซดน้ำนะคะ ว่าอย่าซดเพราะอาจทำให้เกิดลำไส้แปรปรวน ปัญหาแผลในกระเพาะอาหาร หรือโซเดียมสูงเกินได้ แนะวิธีกินหม่าล่าให้อร่อยแถมสุขภาพดีด้วย!
จากกรณีผู้ใช้บัญชี TikTok @jayandyui ซึ่งเป็นเจ้าของร้านชาบูหม่าล่าชื่อดังโพสต์คลิปตอบลูกค้าที่มาถามเรื่องการขอเติมน้ำซุปหม่าล่า โดยระบุว่า น้ำซุปหม่าล่าแบบจีนแท้ๆ จะผัดจากน้ำมันและสมุนไพรเครื่องเทศต่างๆ ยิ่งต้ม ยิ่งเผ็ด ยิ่งเค็ม เพราะจริงๆ แล้วซุปหม่าล่าไม่แนะนำให้ซด ถ้าเราซดอาจจะมีผลต่อลำไส้เราได้ เพราะมันเผ็ดร้อนมาก ไปกินที่เมืองจีนก็เติมเป็นซุปใส หรือน้ำชา หากเพิ่มเบสหม่าล่าส่วนใหญ่ก็ต้องเพิ่มเงินค่ะ แต่ไม่แนะนำให้เพิ่มนะคะสงสารไตลูกค้า ที่เมืองจีนจะนิยมเอาไว้ต้มลวกเนื้อ ลวกหมู ลวกผักเฉยๆ
อาหารเร่งแก่ก่อนวัยตีนกาถามหา ก่ออนุมูลอิสระ ผิวขาดน้ำ-ทำลายคอลลาเจน
เตือน!ไม่ควรใช้ปากกาเขียนถุงโจ๊ก-อาหาร หวั่นสีทะลุถุงก่อมะเร็ง!
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ระบุว่า หม่าล่า (麻辣)หมายถึงรสชาติของเมนูที่ใส่เครื่องเทศนี้เข้าไป ตามความหมายของอักษรสองตัวว่า 麻 (má) หม่า แปลว่าชา และ 辣 (là) ล่า แปลว่าเผ็ด รวมๆ แล้วเมนูนี้จะให้รสที่ เผ็ดและชา ซึ่งทั้งสองรสนี้มาจากเครื่องเทศ “ฮวาเจียว – 花椒” (huājiāo) ที่เป็นการผสมผสานกันระหว่างเปลือกของเมล็ดเครื่องเทศ Sichuan peppercorn โดยเอาแค่เปลือกมาใช้ โดยบดรวมกับเครื่องเทศชนิดอื่น ได้แก่ โป๊ยกั๊ก กานพลู อบเชย เฟนเนล ขาดไม่ได้คือพริกเพื่อให้รสชาติที่เผ็ดแสบเพิ่มเติม
ประโยชน์ของเครื่องเทศหม่าล่า
เครื่องเทศนี้ จะ “ไม่ได้มีผลต่อสุขภาพชัดเจน” แต่เครื่องเทศหลากชนิดที่ผสมกันอยู่นี้ แม้จะใช้อยู่ในปริมาณที่น้อยๆ แต่ในเมล็ดเครื่องเทศเหล่านี้จะมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มาก ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการย่อยอาหารได้ดีขึ้น และลดปัญหาท้องอืดลงได้
เมนูหม่าล่าในประเทศไทย เป็นเมนูยอดฮิตที่ไม่มีวันตาย และขายกันอย่างแพร่หลายและร้านค้าแผงลอย มีอาหารประเภทต่างๆ ให้ผู้บริโภคเลือกกินได้อย่างหลากหลาย ขณะที่เครื่องปรุงหรือน้ำซอสนั้น หลายเจ้าจะใช้เครื่องปรุงสำเร็จที่มีการผสมเกลือเข้าไปด้วย ให้รสชาติมีมิติที่หลากหลายขึ้น นอกจากเผ็ด ชาแล้วยังมีเค็มตัดเข้ามา ซึ่งช่วยให้รสชาติอาหารโดยรวมอร่อยขึ้นได้ แต่ขอให้ระวังเรื่องโซเดียมรสชาติเฉพาะตัวของหม่าล่า มักพบว่าผู้ขายจะขายคู่กับเครื่องดื่มประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม น้ำหวานสมุนไพร หรือแม้กระทั่งเครื่องดื่มแอลอฮอล์
“พริก” แซ่บได้แต่พอดีเป็นประโยชน์ ป้องกันโรคพาร์กินสัน-มะเร็งปอด
การกินเมนูหม่าล่าให้สุขภาพดีด้วยหลัก 4 ข้อ
- เลือกเมนูเนื้อสัตว์แบบไม่ติดมัน เช่น อกไก่ กุ้ง สันในหมู ปลา หลีกเลี่ยงเมนูเนื้อสัตว์แปรรูป เช่นไส้กรอก เบคอน ปูอัด
- สัดส่วนอาหารให้ได้ปริมาณผักมากกว่าเนื้อ เช่น เลือกเมนูผัก 4 ไม้ ร่วมกับเมนูเนื้อสัตว์ 2 ไม้
- ระวังการเติมเครื่องปรุงที่มากเกินไป แม้ว่าหม่าล่าเองจะมีโซเดียมไม่มาก แต่บางร้านค้าอาจมีการเพิ่มเกลือเข้าไปด้วย ทำให้มีโซเดียมเพิ่มขึ้นเกินความจำเป็น ขณะเดียวกันหม่าล่าที่มากเกินไปอาจกระตุ้นให้ผู้ที่มีปัญหาแผลในกระเพาะอาหาร ลำไส้แปรปรวนหรือโรคเกี่ยวกับลำไส้นั้น อาการกำเริบได้ จึงควรหลีกเลี่ยงและใช้วิธีเดียวกันกับการหลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดในผู้ที่มีความเสี่ยงจากการบริโภค
- เลือกรับประทานน้ำเปล่า หรือโซดาเปล่า เป็นเครื่องดื่มแทนน้ำหวานหรือน้ำอัดลม
ทั้งนี้ไม่ควรซดซุปหม่าล่าเพียวๆ นะคะเพราะอาจจะให้แสบร้อนกลางอกกระตุ้นลำไส้แปรปรวนทางที่ดีหากต้องการซดน้ำให้ผสมน้ำซุปกระดูกหมูหรือน้ำใสลงไป หรือ มีแยกน้ำซุปเป็นถ้วยเล็กๆเอาไว้ซดก็ได้นะคะ ทางที่ดีเอาไว้ลวกเนื้อสัตว์ลวกผักก็พอไม่ต้องซดเข้าไปนะคะ เตือนด้วยความหวังดีกลัวจะนอนปวดท้องอีกหลายวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : TikTok @jayandyui และ สสส.
"อะฟลาท็อกซิน" สารก่อมะเร็งตับมักปนเปื้อนในอาหาร-วิธีหลีกเลี่ยง
เครียดท้องอืดบ่อย สัญญาณ “ลำไส้แปรปรวน” แพทย์ชี้ไม่เชื่อมโยงมะเร็งลำไส้