แม่ยกปชป. รับ ยุค "จุรินทร์"ขาลงที่สุด


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เรื่องของนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กลายเป็นเอฟเฟกต์กลับมาทิ่มแทงพรรคประชาธิปัตย์อย่างเลี่ยงไม่ได้ ล่าสุด วันนี้มีการจัดประชุมนัดแรก ของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ขณะที่ ผู้สนับสนุนพรรค เปิดใจ ว่า ตั้งแต่ติดตามพรรคประชาธิปัตย์มา ยุคปัจจุบัน ถือเป็นขาลงมากที่สุด

ไปไล่เรียงที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ก่อน วันนี้ ( 21 เม.ย.2565 )มีการจัดประชุมนัดแรกของ คณะกรรมการตรวจสอบสมบัติของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ กรณีนายปริญญ์ เริ่มต้นเเล้ว เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา โดยการประชุมถูกจัดเป็นแบบโต๊ะกลม มีคณะกรรมการที่ร่วมหารือทั้งหมด 9 คน เป็นคนภายในพรรค 5 คน และบุคคลภายนอกที่เคลื่อนไหวเรื่องสิทธิสตรี 4 คน

ไลน์ ปชป. เดือด เรียกร้องตรวจจริยธรรมกรรมการบริหารพรรค

เหยื่อนักการเมืองห่วง ตร. ทำลายหลักฐาน หลังนัดชี้จุดแต่ไม่ให้เข้า

พร้อมทั้งมีการเปิดภาพหนังสือลาออก ของนายปริญญ์ ซึ่งขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ตั้งแต่ 14 เมษายนที่ผ่านมารวมถึงมีการย้ำว่า ต่อให้ลาออกไปแล้ว พรรคก็จะยังให้คณะกรรมการที่ตั้งขึ้น โดยก่อนการประชุม น.ส.รัชดา ธนาดิเรก กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบฯ ยอมรับว่า ก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ข้อสรุปอย่างไร แต่ต้องรอดูรายละเอียดก่อน

ส่วนเรื่องที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ อ้างว่า มีตำรวจยศ พลตำรวจตรี เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ทำให้มีการคาดเดาว่าอาจเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์

นางรัชดา ชี้แจงว่า นายษิทรา จะพูดยังไงก็ได้ แต่ขอยืนยันว่าพรรคมีจุดยืนไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม  ย้ำว่าเรื่องนี้ พรรคได้รับความเสียหายมาก แม้ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวของนายปริญญ์

พีพีทีวี สัมภาษณ์พิเศษ นางกาญจนี วัลยะเสวี หรือ ติ๊งต่าง เจ้าของฉายาไฮโซสปอร์ตคลับ และแกนนำกลุ่มชาวไทยหัวใจรักสงบ ผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ มองว่า ตั้งแต่สนับสนุนพรรคมาหลาย 10 ปี ไม่เคยเห็นพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในช่วงขาลง เท่ายุคนี้เลย

นางกาญจนี ยังบอกว่าหากหัวหน้าพรรคคนปัจจุบันและกรรมการบริหารพรรคฯ ไม่ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบเชื่อว่าสถานการณ์พรรคจะยิ่งแย่ลง  พร้อมหวังว่าจะมีกรรมการบริหารพรรคลาออกเกินกึ่งหนึ่ง เพื่อให้มีการเลือกคณะกรรมการฯ และหัวพรรคใหม่ ซึ่งคนที่เหมาะสมที่จะเป็นหัวหน้าพรรคตอนนี้เพื่อกู้สถานการณ์มองว่ามีแค่ นายชวน หลีกภัย เมื่อสถานการณ์สงบก็ค่อยเหลือหัวหน้าพรรคใหม่มาทำหน้าที่ต่อ

อีกคนที่เจอ ปัญหา ปริญญ์ เอฟเฟกต์ คือ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพราะ เมื่อ 2 - 3 วัน ที่ผ่านมา ในสื่อสังคมออนไลน์ มีการเผยแพร่รูปของนายวิษณุ พร้อมกับข้อความ ที่เขียนว่า "ถึงจะข่มขืนใคร ก็ไม่ถือเป็นความผิด เพราะเขาเป็นคนดี เขารักชาติ"   รูปนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง  จนทำให้ล่าสุด นายวิษณุ ออกมาชี้แจง ยืนยันว่า "ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยพูดอะไรแบบนี้" และ ที่ผ่านมาไม่เคยพูดถึงคดีของนายปริญญ์เลย

นายวิษณุ ตำหนิว่าการปล่อยภาพและข้อความดังกล่าว ว่าเป็น  ข่าวเท็จ ข่าวบิดเบือน เฟกส์นิวส์ และ ให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องไปดำเนินการตรวจสอบ หากพบต้นตอจะดำเนินคดีทันที

ส่วนความคืบหน้าเรื่องคดีความ  พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล วันนี้ ให้สัมภาษณ์ ระบุว่า ตอนนี้ คนายปริญญ์ มีผู้เสียหายแจ้งความ ดำเนินคดีแล้ว 15 ราย หลังจากนี้จะมีการเรียกนายปริญญ์ มารับทราบข้อกล่าวหาและสอบปากคำเพิ่มเติม

ส่วนกระแสข่าวว่ามีผู้เสียหายบางคนถอนแจ้งความ ยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่มี ส่วนที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ในฐานะทนายความ บอกว่า ติดต่อผู้เสียหายบางคนไม่ได้ พล.ต.ท.สำราญ ย้ำว่า ตำรวจยังติดต่อผู้เสียหายได้ทุกคน

ขณะที่ดราม่าเรื่อง มีอดีตตำรวจยศนายพล พยายามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยาน พล.ต.ท.สำราญ บอกว่า ยังไม่พบข้อมูลเรื่องนี้ หากถามว่า การไปคุยไปแนะนำกับผู้เสียหายทำได้หรือไม่  พล.ต.ท.สำราญ บอกว่า ไม่ทราบ เพราะ ไม่รู้ว่าคุยกันอย่างไร แต่ขอให้คำมั่นว่า หากพบว่ามีใครข่มขู่หรือยุ่งเกี่ยวกับพยานและผู้เสียหาย ตำรวจพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำหรับคดีของนายปริญญ์ ตอนนี้ มีผู้เสียหายแจ้งความแล้ว 15 ราย ที่ พล.ต.ท.สำราญ บอก คือ คดีเฉพาะในความรับผิดชอบของตำรวจนครบาล คือ  แบ่งเป็น คดีของ สน.ลุมพินี 14 ราย คดีของสน.ห้วยขวาง 1 ราย ส่วนอีก 2 ราย อยู่ในท้องที่ จ.เพชรบุรี และ จ.เชียงใหม่ ส่วนอีก 1 ราย เป็นคดีความที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ  รวมทั้งหมดตอนนี้มีผู้เสียหาย 18 คน ที่เข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ

ส่วนคนล่าสุดที่เพิ่งเปิดข้อมูลออกมา  คือ ผู้เสียหายที่ปัจจุบัน อายุ 45 ปี เธอเล่าให้ทนายตั้มฟังว่า เหตุการณ์ที่เธอเจอ เกิดขึ้นเมื่อปี 2545 ตอนนั้น อายุ 25 ปี

เธอบอกกับทนายตั้มว่า รู้จักกับนักการเมืองคนนี้ที่อังกฤษ ขณะนั้นเธอกำลังศึกษาปริญญาโทอยู่ และนักการเมืองคนนี้ฝึกงานที่ Bank of England จากนั้นมีการหลอกล่อว่า สามารถพาเธอไปพูดคุยกับผู้บริหาร เพื่อให้มาทำงานที่ธนาคารแห่งนี้ได้ หลังโทรคุยกันหลายครั้ง ก็มีการนัดหมายกันที่อพาร์ตเมนต์

เมื่อไปถึงก็ถูกนักการเมืองคนดังกล่าว ทำร้ายร่างกาย ลวนลาม และข่มขืน

ทนายตั้มเล่าเพิ่มเติมว่า ผู้เสียหายคนนี้เล่าว่า ตอนเกิดเหตุ เธอเครียดมาก ถึงขนาดผมโกนหัวตัวเอง และ ลดน้ำหนัก เพราะอยากจะเปลี่ยนตัวเองทั้งหมด ไม่อยากเป็นคนเดิม พร้อมทั้งลาออกจากงาน ย้ายเมืองไปอยู่ที่อื่นเลย

ส่วนสาเหตุที่ติดต่อทนายตั้มมา เพราะ เห็นข่าวที่เมืองไทย อยากเล่าเพื่อให้ข้อมูล และอยากให้ทนายตั้มช่วยผู้เสียหายที่เมืองไทยให้เต็มความสามารถ เพราะเห็นใจผู้ถูกกระทำ ส่วนเธอก็จะกลับไปดำเนินการทางคดีที่เกิดขึ้นในประเทศอังกฤษต่อด้วยตัวเอง

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP การเมือง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ