จากกรณีที่ นพ.สวัสดิ์ อภิวัจนีวงค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ปฏิบัติราชการแทนปลัด สธ.ลงนามในคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขที่ 125/2566 เรื่อง ย้ายข้าราชการ ซึ่งเป็นการโยกย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ผู้อำนวยการโรงพยาบาล (รพ.) จะนะ ถูกคำสั่งให้ย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ รพ.สะบ้าย้อย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สงขลา โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนาม คือ วันที่ 25 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ภายหลัง นพ.สุภัทร ได้เปิดเผยว่า การโยกย้ายครั้งนี้มีนัยยะทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง
"อนุทิน" ไม่ขอเลือกอยู่ข้างใคร ระหว่าง "บิ๊กตู่" และ "บิ๊กป้อม"
การเมือง 2566 ปีแห่งการเลือกตั้ง ศึกวัดกำลัง "บิ๊กตู่ - บิ๊กป้อม"
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง เป็นเรื่องของข้าราชการประจำ เพราะรัฐมนตรีไม่ได้ลงไปรู้จักกับ ผอ.รพ.ชุมชน
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีนัยยะทางการเมือง เพราะนพ.สุภัทร ได้ออกมาพิพากษ์วิจารณ์เรื่องนโยบายกัญชา เรื่องการควบคุมโควิด-19 นายอนุทิน กล่าวว่า ฝ่ายการเมืองจะไปหวั่นไหวกับทุกเรื่องได้อย่างไร การเมืองเมืองดูแลเรื่องนโยบายฝ่ายปลัดกระทรวง ให้ไปถ่ายทอดยังข้าราชการต่อไป ซึ่งหากนโยบายใดไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ถูกระเบียบก็สามารถเลือกไม่ปฏิบัติตามได้ ดังนั้นอย่าเอารัฐมนตรี เอาเรื่องการเมืองเข้าไปข้องเกี่ยวนายอนุทิน ยังระบุว่า ไม่ได้สอบถาม ถึงเหตุผลการสั่งย้าย เพราะเราไม่ก้าวก่ายการทำงานกัน เพราะเป็นอำนาจของท่านปลัดสธ. โดยไม่ต้องรายงานมาที่ รมว.สธ.
ส่วนการเคลื่อนไหวจากพรรคก้าวไกล แสดงความไม่เห็นด้วยกับคำสั่งย้ายดังกล่าว โดยตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการโยกย้ายด้วยเหตุผลทางการเมืองหรือไม่ เนื่องจากนายแพทย์สุภัทรเป็นข้าราชการที่ทำงานเป็นปากเสียงแทนประชาชน นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าหากคนที่ไม่เข้าใจ ก็อาจคิดว่าเป็นเรื่องการเมือง แต่คนที่เข้าใจจะรู้ว่าเป็นเรื่องของการทำงาน เป็นอำนาจของปลัดสธ.ในการบริหารจัดการ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง
นายอนุทิน ยังกล่าวต่อว่า ทำไมไม่มองว่าการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนภารกิจ หน้าที่เป็นเรื่องปกติในระบบราชการ โดยหากนพ.สุวรรณ บอกว่าตัวเองมีผลงาน มีความเก่ง ก็ยิ่งดีใหญ่ จะได้ไปพัฒนา รพ.ที่ต้องการพัฒนา ยิ่งได้คนเก่งไป ยิ่งเป็นผลดีกับชาวบ้าน กับกระทรวงสาธารณสุข อย่างสมัย 2 ปีที่แล้ว ที่ นพ.ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ที่ย้ายจาก ผอ.รพ.ขอนแก่น ไป รพ.ร้อยเอ็ด ที่ตอนแรกบอกว่าแย่แน่นอน แต่ทุกวันนี้ รพ.ร้อยเอ็ด กลายเป็น รพ.ที่มีประสิทธิภาพ เรื่องนี้อยู่กับบุคคล คนเก่งไปอยู่ไหนก็ได้ เหมือน รมว.สธ. อยู่ไหนก็ทำความเจริญได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกย้ายไปไหน ถ้าเรามีความมั่นใจว่า ตอนที่เราอยู่ เราทำความเจริญ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เราไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาทำอะไร หลังจากที่เราย้ายไปแล้ว เวลาที่ใครถูกย้ายแล้วโวยวาย ส่วนใหญ่ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า อาจทำอะไรไม่ดีไม่งามไว้ แล้วกลัวคนมาตรวจสอบ
“นายก” ย้ำความสัมพันธ์พี่น้อง-การเมืองคนละเรื่อง ยันจะยุบสภาหรือครบเทอมไม่กระทบ ส.ส.
ผู้สื่อข่าวยังถามต่อว่า นพ.สุภัทร บอกว่าตนเองถูกย้ายไปในพื้นที่ที่ทุรกันดารกว่าเดิม เพราะอาจเป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า นั่นก็เป็นเรื่องที่ย้อนแย้งกับเหตุผลที่บอกว่า นพ.สุภัทร มีความสามารถ เสียสละ เราก็ต้องไปพัฒนาพื้นที่ให้มีความเจริญ ให้ประชาชนได้ประโยชน์ ซึ่งก็เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประธานชมรมแพทย์ชนบทไม่ใช่หรือ ตนไม่ได้เกลียดหรือรัก เป็นคนรู้จักกัน อันที่เขาทำดีเราก็ชื่นชม ส่วนที่เขากล่าวหาผู้บังคับบัญชา ตนก็รู้สึกว่าทำไม่ถูก แต่ไม่ใช่หน้าที่ของตนที่จะไปตักเตือนหรือไปลงโทษ เพราะสายการบังคับบัญชามีหลายขั้นและเป็นอำนาจที่ที่ปลัดสธ. ไม่ใช่จบที่ตน
รมว.สธ.ที่ชื่อ อนุทิน โดยเนื้อผ้าแล้ว จะสั่งงานเรื่องนโยบายที่ปลัดคนเดียว ไม่เคยก้าวก่ายการทำงานกัน
ถามต่อว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่า หนึ่งในสาเหตุที่ นพ.สุภัทร ถูกย้ายเพราะมีการตรวจเจอความผิดปกติของการสั่งซื้อเอทีเค (ATK) นายอนุทิน กล่าวว่า สำหรับเรื่องเอทีเค รมว.สธ. และปลัดสธ.คนที่แล้ว นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต เป็นคนสั่งห้ามไม่ให้ซื้อเอทีเคราคาแพง อย่างที่ รพ.จะนะ ซื้อชุดตรวจราคาสูง ร่วมกับพรรคการเมือง แจกบัตรคิว โดยใช้ทรัพยากรของกระทรวง ซึ่งตนไม่ได้ว่าอะไรเพราะประชาชนได้ประโยชน์
ทำไมเวลาที่ตัวเองกล่าวหาผู้บังคับบัญชาในสายงาน ท่านปลัดสธ.ก็ไม่ได้ให้ใครวางพวงหรีด เราแมนๆ หน่อย เป็นลูกผู้ชาย อันนี้พี่สอนน้อง เวลามีอะไรเราต้องแมนๆ แต่ รมว.สธ. แมนมาก
เมื่อถามถึงว่าจะมีการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม รพ.สะบ้าย้อย หรือ รพ.จะนะ เร็วๆ นี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่มีแผนในตอนนี้