9 พ.ย. 67 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีทอดกฐินสามัคคี ที่วัดคลองครุ (ปัฐวิกรณ์) เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร โดยมีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทั้งในรัฐบาลชุดปัจจุบันและรัฐบาลชุดก่อน ๆ มาร่วมงานอย่างคับคั่ง
โดยนายทักษิณ ถวายผ้ากฐิน และถวายตาลปัตร ปักชื่อ “ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี” ซึ่งงานทอดกฐินวันนี้มียอดจัตุปัจจัยรวมเป็นเงินประมาณ 2.2 ล้านบาท
นายทักษิณ ยังให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ช่วย นายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย หาเสียงว่า จะเป็นการไปเยี่ยมประชาชนที่ไม่เคยลืมกันตลอด 17 ปีที่ผ่านมา โดยตั้งใจจะไปถามสารทุกข์สุกดิบ พร้อมกล่าวอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนว่าไม่ได้ปราศรัยมานานแล้ว ไม่รู้จะทำได้หรือไม่ แต่จะไม่มีการปราศรัยโจมตีใคร มั่นใจว่าคนอุดรไม่เคยลืมพรรคเพื่อไทยและยังจำตนเองได้
พร้อมมองว่า การแข่งขันกับพรรคประชาชนที่มี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงฝ่ายตรงข้าม เป็นเรื่องธรรมดาของการแข่งขันทางการเมือง และเป็นความสวยงามของประชาธิปไตย
ส่วนเรื่อง MOU 44 ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นอีกครั้ง นายทักษิณ ระบุว่า MOU 44 คือบันทึกข้อตกลงที่จะคุยกันในเรื่องที่ยังไม่ได้ตกลงกัน ยังไม่เรียกว่าเป็นข้อตกลงที่ไม่ต้องเข้าสภาฯ เพราะเป็นเพียงบันทึกข้อตกลง ที่จะคุยกันในเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายไม่ตกลงกันว่าจะปรับตัวเข้าหากันได้อย่างไร
ซึ่งมีกฎหมายรองรับอยู่ ทั้งกฎหมายระหว่างประเทศ สนธิสัญญาระหว่างสยามกับฝรั่งเศส เพราะฉะนั้นไม่ต้องตกใจไม่มีอะไรเลย บางคนไม่ทราบว่า MOU 44 คืออะไร แต่ขอตีไว้ก่อน ซึ่งการนำประเด็นดังกล่าวมาโจมตีรัฐบาล ก็ไม่เห็นมีอะไรให้ตื่นเต้น
ส่วนที่มีการนำเรื่องดังกล่าวไปเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์ของทักษิณกับประเทศกัมพูชานั้น ทักษิณ ระบุว่า เป็นคนละเรื่องกัน ตอนที่ตนเป็นนายกฯ ก็มีปัญหาเรื่องการบุกเผาสถานทูตไทยประจำกัมพูชา ก็มีการพูดคุยกัน ยืนยันผลประโยชน์ประเทศต้องมาก่อน
นอกจากนี้ ทักษิณยังกล่าวถึงประเด็นการถูกวิพากษ์วิจารณ์ระหว่างพักโทษชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจอย่างติดตลกว่าชั้น 14-15-16 ซึ่งไม่มีอะไร ก็หาเรื่องกันไปเรื่อย ๆ แล้วกัน คนจะหาเรื่อง ตนก็ไม่รู้จะพูดอะไรก็จบ
ส่วนที่ พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส จะออกมาแฉและจะเป็นพยานนั้น ทักษิณ ระบุว่าอยากทำอะไรก็ทำ ส่วนที่เป็นหนึ่งในประเด็นที่ถูก นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ทักษิณถึงกับร้องโอ๊ยก่อนบอกว่า เรารู้อยู่แต่ละคนมีวัตถุประสงค์อะไร ก็เฉย ๆ เย็นไว้โยม แก่แล้ว
ส่วนคำร้องที่ถูกยื่นยุบพรรคเพื่อไทย นายทักษิณ ส่ายหน้า พร้อมกล่าวว่าไม่เห็นมีอะไรต้องกังวล เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง ตามกฎหมาย ประเพณีปฏิบัติ ไม่เห็นต้องสนใจอะไร เราก็ทำงานไป คนจะร้องก็ร้องไป ทั้งนี้พรรคร่วมรัฐบาลยังสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายทักษิณ ระบุว่าไม่เห็นมีอะไร เห็นเขาทำงานกันดี
สำหรับคำร้องที่ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า หลังนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง นายทักษิณ ระบุเพียงว่าไม่มีอะไรเลย โดยย้ำว่าในคืนที่พรรคร่วมเข้าไปบ้านจันทร์ส่องหล้านั้น “ไปกินมาม่า มาม่าอร่อย”
นอกจากนี้ นักข่าวยังถามนายทักษิณ ว่ามองกระแสที่มีต่อตัวนายกรัฐมนตรีอย่างไร หลังถูกโจมตีทั้งที่เพิ่งทำงานได้ไม่ได้ โดย นายทักษิณ กล่าวว่า อย่าเรียกว่ากระแสดีกว่า มันเป็นกลุ่มผู้คน ส่วนใหญ่ก็เป็นขาประจำ และมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องถูกโจมตี ซึ่งนายกฯ เห็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ มันเป็นแบบนี้แหละ
ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ตัวท่านเองกลายเป็นประเด็นให้นายกฯ ถูกโจมตีด้วย นายทักษิณ กล่าวว่าไม่เป็นไร แค่โจมตีตัวเขาคนเดียวดีกว่า ง่ายดี เพราะเขาไม่ได้เป็นอะไร ทั้งนี้ นายทักษิณ ยังได้ประเมินการทำงานของนายกฯ ว่า ดี มุ่งมั่น และก็รู้เรื่องราวของประเทศได้ดีมาก