วันนี้ 15 ธ.ค. 2567 ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน. 6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึง เพื่อจะออกเดินทางไปเยือนประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 15 - 16 ธ.ค. 2567 และเข้าร่วมการประชุมหารือประจำปี แอนนวล คอนซัลเทชัน ครั้งที่ 7 ที่เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย ตามคำเชิญของดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายก ฯ ประเทศมาเลเซีย
โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายก ฯ และรมว.คมนาคม , นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายก ฯ และรมว.มหาดไทย , นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ , นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา , นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ , น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม , นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายก ฯ
สำหรับการเยือนประเทศมาเลเซียในครั้งนี้เป็นการสานต่อนโยบายของรัฐบาลไทยในการคงความใกล้ชิดกับประเทศมาเลเซีย ในทุกระดับ โดยเฉพาะความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่บริเวณชายแดน
ช่วงหนึ่งนายกฯให้สัมภาษณ์กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีพูดถึงพรรคร่วมรัฐบาลบางคนทำตัวเป็นอีแอบไม่ร่วมพิจารณากฎหมายภาษี
โดยมองว่านายทักษิณน่าจะพูดจากประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ทำงานที่มีพรรคร่วมอยู่ด้วยกัน ต้องร่วมมือซึ่งกันและกัน ขอความช่วยเหลือได้ทุกเมื่อกับหัวหน้าพรรคร่วมทุกพรรค และตนคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร วันนั้นมีหลายท่านติดภารกิจ จึงคิดว่านายทักษิณพูดในทำนองที่ว่าถ้ามีเรื่องอะไรร่วมก็ต้องช่วยกัน เป็นแนวคิดในวงกว้างแบบนั้นมากกว่า
เมื่อถามว่าไม่ได้ส่งสัญญาณอะไรถึงใครเป็นพิเศษใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร ตอบว่า “ไม่นะคะ ไม่ได้รู้สึกว่าส่งถึงใคร เพราะหลาย ๆ ท่านก็ทราบว่าลา”
เมื่อถามว่านายทักษิณได้ยินอะไรมาแล้ว เป็นห่วงนายกฯหรือไม่นั้น นางสาวแพทองธาร ระบุว่าตน ไม่ทราบเหมือนกัน จริง ๆ คิดว่าไม่และน่าจะมีอะไร นายทักษิณน่าจะพูดจากประสบการณ์ของตนเองนั่นแหละ ว่าพรรคร่วมต้องเหนียวแน่น แบบนั้นมากกว่า
ส่วนกรณีฝ่ายค้านออกมาพูดว่ารัฐบาลไม่มีเสถียรภาพและสั่นคลอน นางสาวแพทองธาร หัวเราะเล็กน้อยก่อนตอบว่า "ฝ่ายค้านชมกันบ้าง ก็ได้ จะได้เกิดบรรยากาศดี ๆ ขึ้นในประเทศค่ะ"