เลือกตั้ง อบจ. 2568 ชำแหละรายสมรภูมิ “ธนพร” ฟันพรรคส้มได้แค่ 2 จังหวัด

โดย PPTV Online

เผยแพร่

“ธนพร” เชื่อ ศึกเลือกตั้ง อบจ. พรรคประชาชนอาจชนะแค่ 2 จังหวัด ด้าน “สติธร” คาดพรรคประชาชนไม่ชนะเลย เหตุกติกาไม่เป็นใจ

ศึกเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัดเข้าสู่โค้งสุดท้าย ท่ามกลางสถานการณ์ที่ดุเดือดอย่างยิ่ง หลายฝ่ายต่างจับตาว่า “พรรคเพื่อไทย” หรือ “พรรคภูมิใจไทย” จะคว้าชัยไปมากกว่ากัน รวมถึงให้ความสนใจด้วยว่า “พรรคประชาชน” จะชนะการเลือกตั้งท้องถิ่นได้หรือไม่? และจะเกิดขึ้นในจังหวัดไหน?

พรรคส้มสู้ลำบาก

คุณสติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า เปิดเผยในรายการ คุยข้ามช็อต ทางช่อง PPTV HD 36 วันที่ 28 ม.ค. 68 ว่า

คอนเทนต์แนะนำ
เลือกตั้ง อบจ. 2568 "เทพไท" มองอีสานเดือดสุด ฟาดพรรคประชาชนตีโจทย์ผิด!
เลือกตั้ง อบจ. 2568 เปิดขั้นตอนตรวจสอบรายชื่อ - ไม่ไปใช้สิทธิได้ไหม?
เลือกตั้ง อบจ. 2568 เปิดพื้นที่ 5 ภาค แดง-น้ำเงิน-ส้ม ปะทะเดือดทุกที่

เลือกตั้ง อบจ. 2568 ชำแหละรายสมรภูมิ “ธนพร” ฟันพรรคส้มได้แค่ 2 จังหวัด ช่างภาพพีพีทีวี
พรรคประชาชนลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้ง อบจ.

มีเพียงไม่กี่จังหวัดที่การแข่งขันเป็นแบบสามเส้า คือเพื่อไทย-ภูมิใจไทย-ประชาชน เช่น สุราษฎร์ธานี หรือมุกดาหาร ส่วนที่เหลือที่พรรคประชาชนส่งเป็นแบบตัวต่อตัว ซึ่งสู้ลำบาก

นอกจากนี้ กติกาการเลือกตั้งท้องถิ่นซึ่งระบุว่าไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต ทำให้พรรคประชาชนเสียเปรียบ ซึ่งความจริงอาจมองว่าถูกแล้วก็ได้ คือควรเป็นคนที่อยู่ในท้องถิ่นได้เลือก

“แต่พอยึดตามทะเบียนบ้าน จะให้กลับบ้านไปเลือก สมมติอยู่นนทบุรี 350 วัน ที่เหลือกลับบ้านที่เชียงใหม่ จะให้กลับบ้านไปเลือกนายก อบจ. ก็ใช่เหตุ เพราะเหมือนไม่ได้อยู่พื้นที่นั้น เผลอ ๆ จะลุ้น อบจ. นนทบุรีมากกว่าด้วย เพราะใช้ชีวิตที่นี่ประจำ ที่สำคัญคนที่เลือกพรรคประชาชนส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน ซึ่งกลับบ้านไปเลือกตั้ง อบจ. กันน้อย” อาจารย์สติธรกล่าว

ด้าน รศ.ธนพร ศรียากูล นักวิเคราะห์การเมือง เห็นด้วยว่าพรรคส้มเสียเปรียบเราพะเลือกตั้งล่วงหน้าไม่ได้ มีเคสที่คนตรัง เจอค่าตั๋วเครื่องบินแพง จะกลับไปเลือก เจอค่าตั๋ว 1 หมื่น ต่อให้รักจังหวัดยังไงก็ขอรักกระเป๋าเงินก่อนดีกว่า

“ดังนั้น ในระยะยาว เรื่องกติกาควรมีการทบทวน อำนวยความสะดวกอย่างอื่น เลือกทางไกล หรืออีเมล ต้องหาทาง ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นภาระประชาชน” อาจารย์ธนพรบอก

นักวิเคราะห์การเมืองย้ำว่า เลือกตั้งล่วงหน้ามีผลจริง ๆ “ตอนกาบัตรจริงที่คะแนนยังไม่ดผฌนทางการ หลายเขตพรรคอื่นน้ำอยู่ดี ๆ พอเทบัตรเลือกตั้งนอกเขตพริบตาเดียวพรรคส้มชนะเลย อย่าประมาท เพราะจากข้อมูล 2 ใน 3 ของคนที่เลือกล่วงหน้าเลือกพรรคส้ม ... ที่ผ่านมา พรรคส้มได้แต้มตรงนี้จริง”

พรรคประชาชนจะชนะเลือกตั้ง อบจ. แค่ 2 จังหวัด?

อาจารย์ธนพรฟันธงด้วยความมั่นใจว่า พรรคประชาชนจะได้แค่ 2 จังหวัด คือนครนายก เพราะคนที่ลงส้มคือแชมป์เก่า ที่รวมบ้านใหญ่มาไว้ในตัว จากเดิมลงในนามอิสระ รอบนี้ใส่เสื้อส้ม อีกจังหวัดคือ สมุทรสงคราม แม้มีกลุ่มการเมืองใหม่เก่า อาจไม่ลงตัวกัน แต่อีกค่ายสู้เต็มที่

แต่อีกฉากทัศน์ที่อาจารย์ชนะพรบอกว่าน่าสนใจคือ พรรคประชาชนแพ้ทุกจังหวัด แต่ชนะเชียงใหม่

“เพื่อไทยชนะ 75 จังหวัดก็ได้ แต่ถ้าแพ้เชียงใหม่นะ ที่ชนะมาคนลืมเลย สื่อจะเสนอแต่เชียงใหม่ สัปดาห์ที่ผ่านมา นายน้อยเพลี่ยงพล้ำเรื่องฝุ่น 2.5 นายน้อยจะติดดาบให้พ่อ ครม.เพิ่งอนุมัติงบกลางดับไฟกลาง 620 ล้านบาท หมู่บ้านละ 50,000 บาท แล้วพรุ่งนี้ (29 ม.ค.) นายใหญ่ไป 3 จังหวัดภาคเหนือ เอาเรื่องนี้มาพูดแน่นอน แจกเงินหมื่น ไฟป่านายกฯ อิ๊งสั่งแล้ว ... คำถามคือ ก่อนหน้านี้ทำไมไม่ทำ เรื่องงบไฟป่าจัดทุกปี แต่จังหวะเสนอเข้า ครม. เป็นจังหวะที่ตกเป็นรองทางการเมืองเรื่อง 2.5 พอดี นี่เป็นการเติมกระสุนให้พ่อ” อาจารย์ธนพรบอก

อาจารย์สติธรกล่าวว่า นายทักษิณไปเชียงใหม่ถึง 2 รอบ แสดงออกชัดเจนว่าอยากได้ ซึ่งจากสถานการณ์น่าจะชนะ เพียงแต่อยากชนะขาดด้วย เพราะเป็นจังหวัดสัญลักษณ์ ถ้าชนะขาดลอยสามารถพูดได้อีก 3 ปีว่ากวาดเสียงเชียงใหม่ เอาคืนที่สนามใหญ่เสียไป 7 ที่นั่ง

สนามปราจีนบุรี-สุราษฎร์ธานี ส้มมีโอกาส

รศ.ดร.ธนพรบอกว่า ความจริงแล้วสนามเลือกตั้ง อบจ. ปราจีนบุรี พรรคประชาชนเหมือนจะมีลุ้น เพราะเพิ่งเกิดเหตุกรณี “สจ.โต้ง” ซึ่งมีลักษณะของ “มาเฟียตีมาเฟีย” ซึ่งคนปราจีนเริ่มเบื่อแล้ว ทำให้มีโอกาสที่คนจะหันไปเลือกพรรคประชาชน

อย่างไรก็ตาม อาจารย์สติธรยังคงมองว่าไม่น่าไหว โดยบอกว่าเสียดายแทนพรรคประชาชน ถ้าตัวเลือกดีกว่านี้น่าจะชนะ เพราะสนามใหญ่ได้ สส. 1 เขต อีกเขตสูสีมาก สามารถคาดหวังได้ แต่คนที่ลงไม่ได้โดดเด่นมาก เสียดายแทนคนปราจีนเพราะบ้านใหญ่กำลังคลอนแคลน

ส่วนสมรภูมิภาคอีสาน อาจารย์ธนพรมองว่า เป็นการสู้กันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยโดยเฉพาะ เห็นชัดจากการที่นายใหญ่ออกแรงเอง

อาจารย์สติธรเสริมว่า “อย่างที่ศรีสะเกษ เพื่อไทยเหนื่อย สูสีมาก เพราะพรรคน้ำเงินแข็งแรง รวมถึงจังหวัดฝั่งขวาของโคราช ตั้งแต่บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ จะเป็นน้ำเงินทั้งแถบ”

เขาบอกว่า “รอบนี้พรรคเพื่อไทยอาจดูเหนื่อย แต่อุ่นใจที่ไม่มีพรรคประชาชน เพราะตอนสนามเลือกตั้งระดับชาติเพื่อไทยเหนื่อยนักเพราะมีส้มตัดแดง พอสนาม อบจ. ไม่มีส้ม ก็ต้องมาลุ่นว่าคนที่เลือกส้มจะรักใครมากกว่า ที่อุบลราชธานีส้มรักแดงมากกว่า แดงเลยชนะ ส่วนที่ศรีสะเกษต้องรอดูส้มจะรักใคร”

ขณะที่ทางภาคใต้ อาจารย์ธนพรบอกว่า จังหวัดที่มีไฮไลต์มีอยู่ 2 จังหวัด คือ ภูเก็ต ที่ สส. เป็นพรรคส้มหมด และมียุทธศาสตร์นโยบายสำคัญเรื่องการเปลี่ยนระบบการแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นการเลือกตั้ง

อีกจังหวัดคือ สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีบ้านใหญ่แชมป์เก่า กำนันพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว จากพรรค กับอดีต สส. หลายสมัย โสภา กาญจนะ ซึ่งเป็น เบอร์ใหญ่ทั้งคู่

“แต่ปรากฏว่า คุณสมบัติตัวแทนพรรคประชาชน นายแพทย์จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ หรือหมอมุดสัง เข้าข่ายความเป็น ‘คนสุราษฎร์’ ทุกประการ เรียนหมอ ต่อยมวยหาเงินเรียน เจ้าหน้าที่ อสม. รพ.สต. รู้จักหมด โปรไฟล์ดี ดังนั้นสุราษฎร์ธานีอาจเป็นโอกาสของพรรคประชาชน” อาจารย์ธนพรบอก

อาจารย์สติธรเสริมว่า หมอมุดสังมีจุดเด่นตัวบุคคลช่วยเสริม เพราะ อบจ. กระแสอย่างเดียวไม่พอ ต้องใกล้ชิด ประชาชนคุ้น ซึ่งหมอมุดสังตอบโจทย์ และต้องดูว่าโค้งสุดท้ายบ้านใหญ่แผ่วหรือไม่

ส่วนที่ภูเก็ตนั้นอาจารย์สติธรบอกว่า พรรคประชาชนน่าจะพ่ายแพ้ เพราะก้าวไกลเคยได้ สส. เนื่องจากที่ 2 3 และ 4 แย่งคะแนนกันเอง วันนี้เหลือแค่สองพรรคชนกัน ฝั่งบ้านใหญ่ทำงานเป็น โชว์ผลงานได้ ภายใต้งบประมาณที่ มีชื่อชั้น เป็นบ้านใหญ่ที่ทันสมัยมีประสิทธิภาพ ทำให้สนามภูเก็ตพรรคส้มไม่น่าเกิด สุราษฎร์ธานีมีลุ้นมากกว่า

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ