วันที่ 26 มี.ค.2568 เวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญมีการอ่านคำวินิจฉัย กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภาของนายสมชาย เล่งหลัก สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 111 (4) ประกอบมาตรา 108 ข. ลักษณะต้องห้าม (1) และมาตรา 98 (5) หรือไม่ นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่มาตรา 82 วรรคสอง คือวันที่ 11 ธ.ค. 2567
จากเหตุที่นายสมชาย ต้องคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ลต สส 338/2567 ลงวันที่ 23 ก.ย. 2567 ที่พิพากษาให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของนายสมชายเป็นเวลา 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา เนื่องจากมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าในการเลือกตั้ง สส. เมื่อปี 2566 นายสมชายซึ่งเป็นผู้สมัครสส. เขต 9 สงขลา พรรคภูมิใจไทย รู้เห็นเป็นใจสนับสนุนให้ลูกน้อง จัดเตรียมเพื่อจะให้เงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง ซึ่งเป็นการทุจริตเลือกตั้ง อันเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส.2561มาตรา73(1) ประกอบมาตรา 138 วรรคหนึ่ง
นายสมชายจึงเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด และศาลรัฐธรรมนูญให้ถือว่าวันที่ตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาว่างลงคือวันที่ศาลอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังตามพ.ร.ป. ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 76 วรรคหนึ่งที่บัญญัติให้คำวินิจฉัยศาลธรรมนูญมีผลในวันอ่านคือวันที่ 26 มี.ค 2568 เป็นวันที่ตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการเลือกว่างลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 107 วรรคสี่
ซึ่งหลังจากนี้ประธานวุฒิสภาจะต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อเลือนบุคคลสำรองในกลุ่มอาชีพนั้นขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน โดยสว.ที่อยู่ในบัญชีสำรองกลุ่ม 19 ลำดับถัดไป ได้แก่ นายธณัชญ์พงศ์ วงศ์มุลาลี