จากกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร จนกลายเป็นประเด็นที่คนในสังคมให้ความสนใจนั้น
ก่อนหน้านี้ ครม.มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ที่จัดทำโดยกระทรวงการคลัง และได้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตรวจพิจารณา โดยหลังตรวจพิจารณาแล้ว ยังคงหลักการตามที่ ครม.อนุมัติไว้ แต่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรายละเอียดให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น 4 ประเด็นหลัก คือ
1.กำหนดให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้รักษาการตามกฎหมายร่วมกัน
จากเดิม นายกฯ เป็นผู้รักษาการตามกฎหมาย
2.เพิ่มเติมหน้าที่และอำนาจของ คกก. นโยบาย ในการพิจารณาเรื่องสำคัญที่ต้องเสนอ ครม.
3.กลไกการได้มาซึ่งผู้อำนวยการ โดยให้ คกก. นโยบายแต่งตั้ง
จากเดิม - คกก. นโยบายแต่งตั้ง โดยความเห็นชอบของ ครม.
4.กรอบนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรที่ คกก. นโยบายเสนอแนะต่อ ครม.
ในข้อนี้ มีข้อย่อย 12.ข้อ เราจะยกตัวอย่างเฉพาะข้อที่มีการกำหนดขึ้นใหม่ เช่น พื้นที่กาสิโน ต้องไม่เกิน 10% ,ต้องมีมาตรการป้องกันการฟอกเงิน ระบบควบคุมกาสิโน ที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ และ มีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากกาสิโน ,ห้ามผู้รับใบอนุญาตหรือบุคคลใดจ้างหรือให้ผลประโยชน์ตอบแทนอื่นใดแก่บุคคลอื่น หรือเพิ่มยอดหรือจำนวนคนเล่นพนันในกาสิโน หรือเพื่อเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในการเล่นพนันในกาสิโน
ในกฎข้อที่กำหนดไว้ว่า คนไทยที่จะเล่นพนัน ต้องมีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน ก็ยังคงอยู่ และเพิ่มกฎว่า ต้องผ่านการตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ คกก. บริหาร กำหนด ด้วย
ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่จะส่งเสริมการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยวของประเทศเป็นหลัก และจะดำเนินการตาม พ.ร.บ.อย่างเคร่งครัด