นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "มีข่าวว่าเจ้าหน้าที่ สตง. คนหนึ่ง ไปเสนอเงินให้ผู้ว่า สตง. 300,000 บาท เพื่อเลื่อนตำแหน่งให้ตัวเอง จนเจ้าหน้าที่ สตง. คนนั้นถูกให้ออกจากราชการ ฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ในการไปเสนอเงินให้ผู้ว่า สตง. มี กกต. คนหนึ่งไปด้วย ถามกันเยอะว่า กกต. คนนั้นเป็นใคร ก็คนที่ชอบกินไวน์ไงครับ"
"ถ้าบ้านเมืองเดินมาถึงขนาดที่องค์กรอิสระอย่าง กกต. ไปอยู่ด้วยในการติดสินบน ลองคิดในมุมกลับสิครับว่า แล้วนักการเมืองจะติดสินบนกกต.ได้หรือเปล่า? บ้านเมืองนี้ เลวร้ายขนาดนี้แล้วหรือครับ"
นอกจากโพสต์ดังกล่าวแล้ว นายนิพิฏฐ์ ยังโพสต์อีกว่า "สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ต้องออกมาเปิดเผยว่า กกต.คนไหนถูกแจ้งความดำเนินคดีอยู่บ้าง ด้วยคดีอะไร ยิ่งเงียบยิ่งทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กร"
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายนิพิฏฐ์ ถึงประเด็นที่โพสต์ โดยระบุว่า ประเด็นข้าราชการ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. ที่ถูกไล่ออกเนื่องจากไปให้สินบนผู้ว่าการ สตง. ข้าราชการรายนี้มีชื่อปรากฏตามที่สื่อนำเสนออยู่แล้ว แต่ประเด็นที่ลึกลงไปกว่านั้นคือ ในวันที่ข้าราชการคนนี้ไปให้สินบนผู้ว่าฯ สตง. ด้วยเงิน 300,000 บาท เพื่อเลื่อนตำแหน่ง ได้ไปพร้อมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ท่านหนึ่ง
ซึ่ง กกต. ท่านนี้เป็นคนชอบดื่มไวน์ ถึงขั้นมีตู้แช่ไวน์ไว้ในห้องทำงาน และเคยถูก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดและแจ้งข้อกล่าวหาว่ามีความประพฤติร้ายแรงกรณีใช้ไฟหลวงแช่ไวน์ไว้ในห้องทำงาน เชื่อว่าถ้าใครตามข่าวจะทราบทันทีว่า กกต. ท่านนี้คือใคร แต่ขณะนี้ กกต. ท่านนี้ก็ยังทำงานอยู่ที่ กกต. ตามปกติ
เมื่อถามว่าการที่ กกต. ร่วมวงในการจ่ายสินบนผู้ว่าฯ สตง. กกต.อาจได้รับสินบนด้วยหรือไม่ นายนิพิฏฐ์ บอกว่า ข้าราชการ สตง. ท่านนี้ไม่น่าจะจ่ายสินบนให้กับ กกต. แต่การไปร่วมวงด้วย เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม
ผู้สื่อข่าวสอบถามต่ออีกว่าแหล่งข่าวที่ให้ข้อมูลมาเชื่อถือได้หรือไม่ นายนิพิฏฐ์ บอกว่า มีหลักฐานยืนยันแน่นอน แต่เป็นหลักฐานที่ได้มาอีกทอดหนึ่ง แต่ยืนยันได้ว่าแหล่งข้อมูลเชื่อถือได้ 100%
นายนิพิฏฐ์ บอกอีกว่า พฤติกรรมของ กกต. รายนี้สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติ เพราะ กกต. คือองค์กรอิสระมีไว้สำหรับถ่วงดุลระบบราชการ และถ่วงดุลเสียงข้างน้อย เมื่อก่อนเมื่อเสียงข้างมากตัดสินอย่างไรเรื่องก็จบ แต่ปัจจุบันมี กกต. เข้าไปถ่วงดุลตรวจสอบอีกครั้ง เพราะฉะนั้นองค์กรอิสระต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์
แต่การที่บุคคลในองค์กรอิสระไปร่วมในขบวนการการติดสินบน พฤติการณ์เหล่านี้ไม่เหมาะสม แต่คงไม่ฟันธงว่า กกต. ท่านนี้รู้เห็นเป็นใจกับการให้สินบน แค่อาจจะร่วมอยู่ในขบวนการ จึงเป็นข้อระแวงว่าไปร่วมด้วยในการเสนอสินบนให้ผู้ว่าฯ สตง. คำถามต่อไปคือ กกต.มีหน้าที่ตัดสินเรื่องใดเรื่องหนึ่ง คนที่มีอำนาจตัดสินควรไปติดสินบนด้วยได้หรือไม่
นายนิพิฏฐ์ บอกอีกว่า ประเด็นการติดสินบนผู้ว่าฯ สตง. ผู้ที่มีอำนาจตรวจสอบก็คือ ป.ป.ช. แต่ขณะนี้ องค์กร ป.ป.ช.ที่มีอำนาจตรวจสอบองค์กรอิสระอื่นด้วยกันก็ยังไม่ได้แสดงความน่าเชื่อถือ
ยกตัวอย่างการตรวจสอบประเด็นการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร ที่โรงพยาบาลตำรวจ ประเด็นนี้ผ่านมาเป็นปีแล้วแต่ยังไม่สรุปไม่ได้ว่าป่วยจริงหรือป่วยทิพย์ ขณะนี้ความน่าเชื่อถือขององค์กรอิสระพังทลายหมดแล้ว แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ป.ป.ช. ตั้งเรื่องสอบสวนข้อเท็จจริงประเด็น กกต. ไปร่วมวงติดสินบน ก็มีหลักฐานในมือพร้อมมอบให้ ป.ป.ช. แต่ย้ำว่าหลักฐานที่ได้มาได้มาอีกทอดหนึ่ง