นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงภาพรวมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 (ประชุมงบฯ ปี 69) วาระ 2-3 เมื่อ 13 ส.ค. 68 ว่า การประชุมเป็นไปด้วยดีไม่มีปัญหาอะไรเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ รัฐมนตรีที่เป็น สส. ก็มาอยู่ในสภาฯ แม้องค์ประชุมจะเกินไป 10 กว่าเสียง
เมื่อวานมีคนทั้งเจ็บและป่วยหลายคนมานอนข้างล่างเพื่อรอใช้สิทธิ์โหวต ทุกคนทำหน้าที่อย่างเต็มที่ แม้แต่ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยที่ไม่สบายก็ยังมา
ซึ่งองค์ประชุมก็เป็นไปตามอย่างที่คาดหวัง ซึ่งจบที่มาตรา 14 ในงบของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และวันนี้น่าจะสามารถดำเนินการต่อไปได้และการประชุมก็ราบเรียบไม่ได้มีปัญหาอะไรส่วนพรรคประชาชนในฐานะฝ่ายค้านก็ได้รับความร่วมมือกันดี สิ่งที่พยายามควบคุมคือเรื่องเวลาและสุดท้ายก็เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ วันนี้หวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากสส.ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลทำงานร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะขยายเวลาการพิจารณามากกว่า 3 วัน นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องขยายเวลา วันแรก ๆ สส. ยังแรงดีคนอภิปรายยังเยอะ วันนี้ก็จะต้องควบคุมร่วมกันทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลในการทำงาน เพื่อดูแลเรื่องเวลาซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุด และเชื่อว่าการทำงานร่วมกันไม่มีปัญหาเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งถ้าถึงเวลาที่เห็นสมควรกับเนื้อหาแล้วก็จะพักการประชุม
ส่วนสุดท้ายถ้าหากมีการโหวตคว่ำร่างนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ขออย่าไปคิดแบบนั้น ตนเชื่อว่าทุกฝ่ายรู้ ว่าถ้างบฯไม่ผ่านสภาฯ จะเกิดความเสียหายอย่างไร หน้าที่ของฝ่ายค้านเป็นธรรมดาที่เขาไม่เห็นด้วย ตอนเราเป็นฝ่ายค้านปกติก็ไม่เห็นด้วย
ดังนั้น ฝ่ายรัฐบาลพรุ่งนี้ (15 ส.ค. 68) ก็ต้องเตรียมพร้อมเต็มอัตราศึกของเรา แม้ว่าจะเกินมา 10 เสียงก็มั่นใจว่าจะผ่านได้ไม่เป็นปัญหา ฝ่ายค้านก็ไม่จำเป็นต้องมีมติเห็นชอบ เขาจะไม่เห็นด้วยก็เป็นเรื่องปกติ เราเข้าใจกันในฐานะที่อยู่สภาฯ มานานว่าทุกฝ่ายจะต้องเดินไปในทิศทางไหน
เมื่อถามถึงกระแสข่าว ที่นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชนออกมาเปิดเผยว่ามีการซื้อเสียงฝ่ายค้านนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตนอยากให้นางสาวศิริกัญญาเปิดเผยชื่อหรือถ้ามีคลิปก็เปิดเผยได้เลย ตนเป็นกรรมการจริยธรรมสภาจะได้สอบสวน
นายวิสุทธิ์กล่าวว่า "คนที่จะไปติดต่อให้มาโหวตฝั่งรัฐบาลควรเป็นผมไม่ใช่คนอื่นต้องบอกว่าใครอย่าไปปิดบังไว้ คนไม่ดีทำผิดจริยธรรม ก็ต้องมาเปิดเผยให้สังคมได้รับรู้ว่าพรรคไหนเป็นใครใครพูด ยิ่งมีคลิปเสียงยิ่งต้องมาเปิดให้รู้ว่าใครว่าจริงหรือไม่"
"แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาในฝ่ายการเมือง ที่ต้องมีเรื่องนี้เป็นปกติการกล่าวหากันบ้างก็ชี้แจงกันไปแต่ไม่ใช่ศัตรู ศัตรูของนักการเมืองคือความยากจนของประชาชน เพราะฉะนั้นมั่นใจว่าทำงานร่วมกันได้ตรวจสอบกันได้เป็นเรื่องปกติ" นายวิสุทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่าตัวเลขที่เกินมา 10 เสียงจำเป็นต้องซื้อเสียงเพิ่มหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่ต้องซื้อแล้วเห็นว่าเสียงแล้วเป็น 10 ล้านแพงเกินไปมันไม่ใช่ วันนี้ถึงเวลาก็อยู่กันครบเสียงก็เกินอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องที่ซื้อเสียงก็คงไม่มี
เพราะฉะนั้นแจ้งมาที่ตนได้ในฐานะกรรมการจริยธรรม จะได้ช่วยตรวจสอบคนไม่ดีออกไปจากการเมืองเรา เพราะฉะนั้น ให้เปิดเผยอย่าไปเกรงใจเขาเลยทุกคนจะได้รู้ว่าใครทำ แล้วจะได้ตรวจสอบว่าจริงหรือไม่จริง พูดแบบนี้คลุมเครือมันก็ไม่หมดไป