ตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและยูเครนก็อยู่ในสภาวะที่ไม่สู้ดี หลังรัสเซียเคยใช้ข้ออ้างว่ายูเครนขับไสไล่ส่งประธานาธิบดีวิกเตอร์ ยานูโควิช (ซึ่งมีรัสเซียเป็นแบ็กอัป) อย่างไม่เป็นธรรม และนำทัพมายังคาบสมุทรไครเมีย ตอนใต้ของยูเครน จนสุดท้ายผนวกไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ
หลังจากนั้น รัสเซียยังคงทิ้งกองกำลังไว้ที่แนวชายแดนด้านตะวันออกของยูเครน และยังคงมีการปะทะกันมาจนถึงปัจจุบัน ตลอดเกือบสิบปี มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 14,000 คน บาดเจ็บหลายหมื่นคน และผู้พลัดถิ่นมากกว่า 1 ล้านคน
“ไบเดน”ยังเชื่อรัสเซียบุกยูเครนในเร็ววัน
นาโต-สหรัฐฯ ชี้ ไร้หลักฐานรัสเซียถอนทหาร และยังเสริมทัพอีก 7,000 นาย
สาเหตุ "รัสเซียบุกยูเครน” ไทม์ไลน์สรุปที่มาความขัดแย้ง
เมื่อครั้งความขัดแย้งปะทุขึ้นในภาคตะวันออกของยูเครนเมื่อปี 2014 มีผู้คนหลายพันคนเข้าร่วมกองกำลังทหารอาสา เพื่อสนับสนุนกองทัพยูเครนที่อ่อนแอในขณะนั้น ในบรรดากองกำลังอาสานี้ “มีชาวรัสเซียรวมอยู่ด้วย”
และตอนนี้ เมื่อกองทัพรัสเซียเข้ามาคุกคามชายแดนยูเครนอีกครั้ง ชาวรัสเซียที่อาศัยอยู่ในยูเครนเหล่านี้ก็บอกว่า พวกเขาพร้อมที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้กับรัฐบาลของพวกเขาเองอีกครั้ง
นาโต-พันธมิตร ไม่เชื่อรัสเซียถอนทหาร เร่งเพิ่มกำลังจุดสำคัญ
นิกิตา มาเกฟ วัย 37 ปี มีพื้นเพจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในรัสเซีย แต่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน กล่าวว่า “รัฐบาลของผมกำลังก่ออาชญากรรมในดินแดนของยูเครน ไม่ใช่ด้วยความช่วยเหลือของ 'กองกำลังอาสาสมัคร' แต่เป็นกองทัพจริง ๆ ของรัสเซีย ... ในฐานะพลเมืองของรัสเซีย ผมไม่ต้องการเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในอาชญากรรมนี้ ... นี่เป็นการตัดสินใจโดยที่ (รัฐบาลรัสเซีย) ไม่ถามเราก่อน”
เมื่อปี 2014 มาเกฟได้เข้าร่วมกับกองกำลังอาสาของกลุ่ม Azov ซึ่งเป็นกลุ่มขวาจัดในยูเครน เคยมีชื่อเสียงในทางลบว่ามีความเกี่ยวพันกับนีโอนาซี แต่ปัจจุบันเป็นกลุ่มทหารอาสาที่พยายามหนีจากภาพลบเดิม ๆ
ปัจจุบันกลุ่ม Azov ซึ่งเป็นเหมือนกองทัพระดับรากหญ้า กำลังช่วยฝึกระเบียบ การใช้อาวุธ และการฝึกแบบทหารให้กับพลเรือนในยูเครนเพื่อรับมือกรณีที่รัสเซียตัดสินใจเปิดฉากโจมตี
ระเบิดลงยูเครนตะวันออก โรงเรียนเสียหาย
ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน นั้น ไม่ค่อยเป็นที่นิยมชมชอบนักในหมู่คนกลุ่มขวาจัดและกลุ่มรัสเซียชาตินิยมสุดโต่ง โดยอ้างว่า ปูตินไม่ได้ยึดประโยชน์ของชาวรัสเซียเป็นสำคัญ
เซอร์เก โครอตกิก หนึ่งในคนที่เข้าร่วมทหารอาสาต่อต้านรัสเซียเมื่อปี 2014 และเป็นเพื่อนร่วมรบกับมาเกฟ บอกว่า “เป็นเวลานานมากแล้วที่ผมต่อต้านรัฐบาลรัสเซีย ซึ่งกดขี่ชาวรัสเซีย ... จากมุมมองของผม นี่ไม่ใช่สงครามกับรัสเซีย แต่เป็นสงครามกับระบอบการปกครองของปูติน”
ตั้งแต่ปี 2014 ยูเครนได้ปกป้องสมาชิกกลุ่มฝ่ายขวาสุดโต่งที่ต่อต้านรัสเซีย อย่างไรก็ตาม จำนวนชาวรัสเซียรักชาติหัวสุดโต่งที่ต่อต้านปูตินนั้นมีอยู่เพียงหลักร้อยคนเท่านั้น เมื่อเทียบกับกลุ่มชาตินิยมรัสเซียหลายพันคนที่อยู่ในกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่มีรัฐบาลรัสเซียคอยหนุนหลัง ทั้งนี้ ในหมู่ชาวรัสเซียที่ต่อสู้เพื่อยูเครนนั้น ไม่ใช่ทุกคนที่มีความคิดขวาจัด
เมื่อมีความกังวลว่า รัสเซียอาจจะบุกยูเครน มาเกฟและโครอตกิกกล่าวว่า พวกเขาพร้อมที่จะกลับสู่สนามรบ
“อายุและสุขภาพของผมยังเอื้ออำนวย ดังนั้นหากมีอะไรเกิดขึ้น ผมจะมีส่วนร่วมอย่างแข็งขัน แต่ผมเชื่อว่ารัสเซียไม่น่าจะบุกเข้ามา ... รัสเซียมีวิธีการอื่น ๆ ที่หลบซ่อนจากสายตาได้ดีกว่า” โครอตกิกกล่าว
นาโต-สหรัฐฯ ชี้ ไร้หลักฐานรัสเซียถอนทหาร และยังเสริมทัพอีก 7,000 นาย
เขามองว่า มีความเป็นไปได้มากที่รัสเซียจะพยายามใช้แรงกดดันทางเศรษฐกิจเพื่อทำให้ยูเครนอดอยากและกระตุ้นความไม่สงบภายในแทน
เรียบเรียงจาก Al Jazeera
ภาพจาก AFP