โดยทางตอนใต้ ยุทธศาสตร์สำคัญทางตอนใต้มี 3 เมืองคือ เมืองเคอร์ซอน เมืองมาริอูปอล และเมืองซาโปริซเซีย
ในจำนวนนี้มี 2 เมืองเป็นเมืองท่าทางทะเล ส่วนอีกเมืองเป็นเมืองริมแม่น้ำดนีเปอร์ มีความสำคัญในการขนส่ง นั่นหมายความว่าถ้ารัสเซียยึดได้จะปิดทางออกทางทะเลและตัดเส้นทางการลำเลียงเสบียงและอาวุธ รวมถึงจะทำให้กองทัพของรัสเซียทางใต้เชื่อมต่อกับทางตะวันออกได้ด้วย ตอนนี้ 1 ใน 3 เมืองหลักตกอยู่ในการควบคุมของรัสเซียแล้ว นั่นคือเมืองเคอร์ซอน และล่าสุดรัสเซียอ้างว่ายึดเมืองมาริอูปอลได้แล้ว
ภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นในเมืองมาริอูปอล การโจมตีเมืองมาริอูปอลของรัสเซียมุ่งเป้าไปที่สถานที่ราชการและการทำลายสาธารณูปโภค ทำให้ขณะนี้ระบบต่างๆ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เช่น ขาดแคลนน้ำ ไฟฟ้าดับเกือบทั้งเมือง ผู้คนต้องอยู่อย่างหนาวเหน็บเพราะไม่มีเครื่องทำความร้อน
วาดิม บอยเชนโก นายกเทศมนตรีเมือง ระบุว่า ตอนนี้กองทัพรัสเซียปิดล้อมเมืองไว้ทุกด้าน และตั้งแต่ถูกรัสเซียโจมตีในช่วง 7 วันที่ผ่านมา วันนี้คือวันที่ยากลำบากที่สุด
มาริอูปอล มีประชากรกว่า 4 แสนคน เป็นเป้าหมายหลักของกองทัพรัสเซีย เพราะมีท่าเรือที่เชื่อมต่อทะเลอาซอฟ และยังอยู่ติดกับแคว้นโดเนตสก์ในภูมิภาคดอนบาส ซึ่งเป็นพื้นที่ของกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนรัสเซีย ที่สำคัญที่นี่เป็นฐานที่มั่นและจุดกำเนิดของกองกำลังอาซอฟ กลุ่มขวาจัดที่รัสเซียระบุว่าต้องการกำจัด
ทั้งนี้ไม่ไลกจากเมืองมาริอูปอลมาทางทิศตะวันตก มีเมืองที่ติดกับแม่น้ำดนีเปอร์นั่นคือ เมืองซาโปริซเซีย เมืองนี้ต้องจับตาดูเป็นพิเศษ เพราะเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และขณะนี้ที่กำลังถูกกองทัพรัสเซียโจมตีอย่างหนักจนเกิดเพลิงไหม้
ทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ IAEA ระบุว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้าในขณะนี้อันตรายมาก เพราะอาจเกิดหายนะทางนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เดี๋ยวเราจะมีรายละเอียดในช่วงถัดไป
อีกจุดสำคัญคือ เมืองเคอร์ซอนทางตอนใต้ของประเทศ เมืองนี้ไม่ไกลจากไครเมีย และเมื่อวานนี้กองกำลังรัสเซียระบุว่าสามารถยึดเมืองได้แล้ว วันนี้ปรากฏภาพของชาวเมืองออกมาเข้าแถวรอรับอาหาร เนื่องจากการปิดล้อมของรัสเซียกำลังทำให้เกิดวิกฤตขาดแคลนอาหาร
การบุกยึดเมืองเคอร์ซอนได้ ทำให้คาดกันว่าเมืองต่อไปที่เป็นเป้าหมายคือเมืองนิโคลาเยฟที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของเคอร์ซอน และห่างไปเพียง 70 กิโลเมตรเท่านั้น และข้อมูลจาก สถาบันสงครามศึกษาของสหรัฐฯ ชี้ว่า หากยึดเมืองนิโคลาเยฟได้ เป้าหมายต่อไปคือเมืองโอเดสซา ซึ่งหากยึดได้จะเท่ากับว่ารัสเซียยึดเมืองสำคัญทางตอนใต้ได้หมด
ข้ามมาฝั่งตะวันออก รัสเซียกำลังมุ่งเป้ามาที่เมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของประเทศ คล้ายคลึงกับหลายเมือง การปะทะตลอด 7 วันที่ผ่านมาทำให้ชาวเมืองขาดแคลนอาหารและสิ่งของจำเป็น อาสาสมัครต้องเร่งทำงานกันอย่างหนัก
เริ่มต้นด้วยความเสียหาย ภาพจากเมื่อวานที่เผยให้เห็นสภาพของตึกรามบ้านช่องหลังเมืองคาร์คีฟถูกกองกำลังรัสเซียโจมตี มีรายงานว่าพนักงานดับเพลิงต้องเร่งดับไฟที่เกิดขึ้นหลายจุด
ชาวยูเครนเล่าว่า คาร์คีฟกำลังวิกฤต เพราะในช่วง 2 วันที่ผ่านมารัสเซียระดมการโจมตีทางอากาศมาอย่างไม่หยุดหย่อน
ส่วนผู้คนก็กำลังแย่ เพราะเครียดและกังวลกันจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ
ตอนนี้ผู้คนต้องช่วยกันเท่าที่ทำได้ ร้านอาหารหลายแห่งในคาร์คีฟ บรรดาพ่อครัวแม่ครัวพร้อมใจกันทำอาหารแจกให้ชาวเมือง รวมถึงยังบริการส่งอาหารให้กับทหารยูเครนที่ประจำการอยู่แนวหน้าด้วย ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตจากการโจมตี ช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมาในคาร์คีฟมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกราว 34 คน
ช่วงหลายวันที่ผ่านมามีรายงานอย่างต่อเนื่องว่ากองกำลังรัสเซียมุ่งหน้ามาสู่กรุงเคียฟ ล่าสุดคาดกันว่ากองกำลังรัสเซียใกล้เข้ามามากยิ่งขึ้น โดยขณะนี้พวกเขาห่างจากกรุงเคียฟเพียง 30 กิโลเมตรเท่านั้น
ภาพล่าสุดจากบริษัทแมกซาร์เมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมา เผยให้เห็นขบวนของกองกำลังรัสเซียที่มีความยาวมากถึง 64 กิโลเมตร กำลังจ่อรอที่จะเข้าสู่เมืองหลวง แม้จะเคลื่อนที่ได้ช้าลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็คืบหน้า และขณะนี้หัวขบวนอยู่ห่างจากเมืองหลวงเพียงแค่ 30 กิโลเมตรเท่านั้น
และเมื่อวานนี้มีภาพวิดีโอที่เผยให้เห็นถึงความเสียหายของอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง ในเมืองโบโรดยานกา เมืองเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากกรุงเคียฟไปราว 50 กิโลเมตรเท่านั้น โดยชาวบ้านท้องถิ่นบอกว่า ถูกโจมตีจากรัสเซียอย่างหนักเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
อีกจุดที่ถูกโจมตีทางอากาศอย่างหนักคือบริเวณชานเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงเคียฟ รายงานจากตำรวจระบุว่า พื้นที่นี้เกิดความเสียหายหลายจุด
ปิดท้ายที่ความเสียหายในเมืองเชอร์นิกอฟ เมืองทางตอนเหนือของยูเครนที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเคียฟ วิดีโอบันทึกความเสียหายเผยให้เห็นว่า รัสเซียโจมตีพื้นที่ของพลเรือน และล่าสุดเมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมา ที่กรุงเคียฟเสียงระเบิดยังคงดังขึ้นเป็นระยะๆ ส่วนบางพื้นที่มีควันไฟด้วย ตามถนนหนทางยังคงเงียบเหงา ผู้คนหลีกเลี่ยงที่จะออกจากบ้าน ท่ามกลางข่าวลือว่ากองกำลังรัสเซียเคลื่อนพลเข้ามาใกล้เมืองหลวงมากขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่วันนี้ทีมข่าวได้พูดคุยกับคุณกัลยา รามฤทธิ์ คนไทยที่เพิ่งอพยพออกจากเมืองหลวงอย่างกรุงเคียฟ มาที่เมืองลวิฟได้ หลังจากที่พยายามหาทางออกมาเป็นเวลาหลายวัน เนื่องจากจุดที่คุณกัลยาอาศัยอยู่นั้นมีทหารยูเครนป้องกันการบุกจากทหารรัสเซียอย่างแน่นหนา ทำให้การเดินทางเข้า-ออกจากพื้นที่ไปยังสถานีรถไฟ เพื่อต่อรถไปยังเมืองลวิฟค่อนข้างยากลำบาก
ขณะที่การโจมตีทางอากาศเริ่มเกิดบ่อยขึ้น ทำให้เธอต้องลงไปหลบอยู่ในหลุมหลบภัยภายในที่พักเป็นเวลากว่า 7 วัน ก่อนที่จะหารถเพื่อไปยังสถานีรถไฟได้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
แม้ตอนนี้ตัวของคุณกัลยาจะเดินทางถึงเมืองลวิฟอย่างปลอดภัยแล้ว จากการประสานงานช่วยเหลือจากทั้งคนไทยในยูเครนและสถานทูตไทย แต่ก็ยังกังวลถึงความปลอดภัยของเพื่อนรุ่นพี่คนไทยที่ยังติดอยู่ที่ชานเมืองของกรุงเคียฟ ที่ยังไม่สามารถหาทางออกจากพื้นที่ได้