คืนที่ผ่านมา ( 4 พ.ค.)เดนิส โปรโกเปนโก ผู้บัญชาการกองพันอาซอฟ ซึ่งเป็นหนึ่งในกองกำลังยูเครนที่ติดอยู่ในนั้น ได้โพสต์ลงเทเลแกรม ว่าพวกเขากำลังรับมือกับการโจมตีอย่างดุเดือดของกองทัพรัสเซียที่มาจากทุกทาง โดยการกลับมาโจมตีเริ่มขึ้นทันทีที่มีการอพยพพลเรือนชุดแรกออกไปเมื่อ 2 วันก่อน
ก่อนหน้านี้ 1 วัน สมาชิกของกองกำลังอาซอฟนายหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความในลักษณะเดียวกัน เขาบอกว่าติดอยู่ในนี้มาเกือบ 2 เดือนแล้ว ไม่มีโอกาสเห็นแสงเดือนแสงตะวัน
อิสราเอลไม่พอใจหนักหลังรัสเซียพูดบิดเบือนเรื่อง"ยิว"
สหรัฐฯปล่อยน้ำมันสำรอง หลังรัสเซียยื่นคำขาดพลังงาน
โดยการโจมตีจากรัสเซียหยุดไปเพียงวันสองวันและกลับมาหนักอีกครั้ง และภาพที่เขาส่งออกมาจากด้านในมีภาพร่างไร้ชีวิตของพลเรือน 2 คน
ที่ผ่านมา พลเรือนถูกโจมตีได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากเพราะการใช้วิธีถล่มแบบไม่เลือกเป้าของรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม สำหรับในเมืองมาริอูปอลและปราการสุดท้ายของเมืองอย่างโรงงานอาซอฟสตอล ชัดเจนว่าเป้าหมายหลักของรัสเซียอยู่ที่การกำจัดกองพันอาซอฟให้สิ้นซาก
กองพันอาซอฟคือ กลุ่มทหารอาสาที่รวมตัวกันจับอาวุธสู้รบกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่มีรัสเซียหนุนหลังในแคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ ซึ่งเกิดขึ้นหลังรัสเซียผนวกไครเมียเมื่อปี 2014
ฐานหลักหนึ่งของกองพันนี้ คือที่เมืองมาริอูปอล โดยสมาชิกของกองพันนี้ส่วนหนึ่งถูกมองว่ามีแนวคิดแบบนีโอนาซี
อย่างไรก็ตาม ยูเครนไม่มีทางเลือกมากนักในตอนนั้น เนื่องจากต้องรับมือกับการรุกรานของรัสเซียขณะผนวกคาบสมุทรไครเมีย และใช้กองพันอาซอฟเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน-กองกำลังรักษาดินแดนยูเครนในการบุกยูเครนคราวนี้ ชื่อของกองพันอาซอฟถูกรัสเซียพูดถึงว่าเป็นเป้าหมายหลักที่ต้องกำจัด
วันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียเซอร์เก ชอยกู รายงานสถานการณ์ของโรงงานอาซอฟสตอลให้ประธานาธิบดีปูตินได้รับทราบและบอกว่า ขอเวลา 3-4 วันในการกำจัดพวกคลั่งชาติออกไปให้หมด
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาอาซอฟสตอลก็ถูกโจมตีอย่างหนัก จนเลขาธิการสหประชาชาติซึ่งพบกับประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียที่มอสโก เมื่อสัปดาห์ก่อน ได้ร้องขอให้ประธานาธิบดีปูตินสั่งหยุดโจมตี เพื่อเปิดทางให้พลเรือนอพยพออกมา
เมื่อวันที่ 1 ที่ผ่านมาจึงเริ่มมีการอพยพพลเรือนออกมา จนถึงขณะนี้ออกมาได้ประมาณ 344 คนแต่เชื่อว่าด้านในยังมีคนติดอยู่อีกจำนวนหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ไม่มีการพูดถึงชะตากรรมของกองกำลังยูเครนกว่า 2,000 นาย ที่อยู่ด้านใน ซึ่งหลัก ๆ คือหน่วยนาวิกโยธินที่ 36 ของยูเครนรวมถึงกองพันอาซอฟ
ขณะที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีบอกว่า ข้อตกลงหยุดยิงที่ตกลงไว้กับยูเอ็นต้องดำเนินต่อ และรัสเซียต้องหยุดโจมตีอาซอฟสตอลเพื่อรักษาชีวิตของพลเรือนที่อยู่ในนั้น
ล่าสุดมีรายงานว่ารัสเซียยอมที่จะหยุดโจมตีโรงงานอาซอฟสตอลเป็นเวลา 3 วันเพื่อเปิดทางให้พลเรือนอพยพออกอีกครั้ง
โดยจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ 5 -7 พ.ค .ในเวลาเดียวกันคือ 08.00 น - 18.00 น ตามเวลารัสเซีย ในช่วงเวลาดังกล่าวรัสเซียจะมีการหยุดกิจกรรมทางการทหารทุกอย่างและจะถอยออกห่างจากอาซอฟสตอลในระยะที่ทำให้การอพยพปลอดภัยด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่มีการพูดถึงชะตากรรมของกองกำลังยูเครนที่อยู่ในนั้น แต่คาดกันว่ารัสเซียจะโจมตีอย่างหนักหลังพลเรือนชุดนี้ออกไป เพื่อยึดปราการสุดท้ายของมาริอูปอลให้ได้ก่อนถึงวันที่ 9 พฤษภาคมเพื่อฉลองชัยชนะอย่างเป็นทางการในเมืองนี้
สหภาพยุโรปเสนอแผนระงับนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซีย
ส่วนการต่อสู้ในแนวอื่นๆยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักจากเมื่อวานให้ดูแผนที่ภาพรวมอีกครั้งพื้นที่ที่รัสเซียคุมได้มากที่สุดยังคงเป็นในภูมิภาคดอนบาส คือประมาณ 2 ใน 3 แล้ว
จุดที่เป็น Line of contact หรือจุดที่กองกำลัง 2 ตรึงหรือเผชิญหน้ากันคือเส้นประสีเหลืองๆ และบริเวณที่ปะทะกันหนักๆคือ จุดที่เป็นวงกลมสีดำซึ่งไม่ต่างจากเมื่อวานหรือสัปดาห์ที่แล้วมากนักรวมถึงเมืองอีซุมซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของคาร์คีฟที่การต่อสู้ยังหนัก
ขยับลงมาทางใต้กันบ้างมาริอูปอลแดงเกือบหมดยกเว้นที่อาซอฟสตอล และเมืองเล็กบนทะเลอาซอฟก็แดงหมด แปลว่ารัสเซียเข้าไปได้แล้ว
ยาวมาจนถึงเมืองใหญ่อย่างเคอร์ซอนที่รัสเซียเคยยึดได้หมดแต่ยูเครนเริ่มตีกลับคืนมีหลายพื้นที่ที่ยูเครนเริ่มชิงกลับคืนมาแทนการตั้งรับอย่างเดียว
การโต้กลับหรือ Counter Offensive ของยูเครนมีการใช้วิธีการตัดกำลังของรัสเซียเช่น เช่นการถล่มคลังเก็บน้ำมัน
คลังเก็บน้ำมันขนาดใหญ่ในเมืองมาคีฟคาของแคว้นโดเนตสก์ ซึ่งเป็นพื้นที่ครอบครองของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียหนุนหลัง
เจ้าหน้าที่ของเมืองอ้างว่า คลังเก็บน้ำมันนี้ ถูกขีปนาวุธจากยูเครนโจมตีจนเสียหายอย่างที่เห็น
ขณะที่รัสเซียตอบโต้กลับด้วยการทำลายกำลังและโครงสร้างพื้นฐานหรือจุดอุตสาหกรรมของยูเครน
ภาพของการที่โรงงานเหล็กแห่งหนึ่งในเมืองอัฟดีฟกา ของแคว้นโดเนตสก์ที่ถูกขีปนาวุธยิงใส่จนคนงานเสียชีวิตทั้งหมด 10 รายและในวันที่ยูเครนยังสามารถยันกองทัพรัสเซียจนตีกลับในหลายจุดได้ สหรัฐฯ ก็จัดส่งอาวุธให้ต่อเนื่อง
สหรัฐฯ คือ ประเทศที่ให้การสนับสนุนด้านอาวุธกับยูเครนมากที่สุดตั้งแต่เกิดสงครามช่วยไปแล้ว 5 แสนล้าน และกำลังรอสภาคองเกรสอนุมัติเพิ่มอีก 1.1 ล้านล้าน
โดยในช่วงแรก สหรัฐฯ ส่งระบบต่อต้านอากาศยานสตริงเกอร์ หรือจรวดต่อต้านรถถังอย่างจาเวลินให้
และนับตั้งแต่รัสเซียประกาศสงครามในเฟส 2 อาวุธที่สหรัฐส่งให้ยูเครนเป็นอาวุธหนักขึ้น ที่พูดกันมากคือ ปืนใหญ่วิถีโค้งรุ่นเอ็ม 198 ฮาวอิตเซอร์ ที่ประสิทธิภาพสูงมาก ล่าสุดฮาวอิตเซอร์กำลังเดินทางไปที่ยูเครนแล้ว
เจ้าหน้าที่เหล่านาวิกโยธินสหรัฐฯ และกองทัพอากาศสหรัฐฯ กำลังช่วยกันลำเลียงขนปืนใหญ่เอ็ม 777 ฮาวอิตเซอร์ ขึ้นเครื่องบิน ซี-17 โกลบมาสเตอร์ 3 ที่ฐานทัพอากาศ March Air Reserve Base ในรัฐแคลิฟอร์เนีย อาวุธทั้งหมดจะมุ่งหน้าไปที่ชายแดนประเทศยูเครน
การส่งอาวุธให้ยูเครนเกิดขึ้นท่ามกลางการออกมาเตือนและขู่จากรัสเซีย
เมื่อวานนี้รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียออกมาบอกว่า ขอให้สหรัฐและชาตินาโตยุติการส่งอาวุธให้กับยูเครน และบอกด้วยว่า ถ้าไม่หยุด รัสเซียมีความชอบธรรมในการโจมตีขบวนรถขนอาวุธเหล่านั้น
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ การประกาศสงครามเต็มรูปแบบ เรื่องนี้เกิดจากการที่หลายฝ่ายออกมาคาดการณ์กันว่าประธานาธิบดีปูตินจะใช้โอกาสการเฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะประกาศสงครามเต็มรูปแบบกับยูเครน
ล่าสุดทางฝั่งรัสเซียออกมาชี้แจงประเด็นดังกล่าวแล้วโดยคนที่ออกมาให้ข่าวเรื่องนี้คือ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกประจำรัฐบาลรัสเซีย เขากล่าวว่า ทางเครมลินเคยตอบไปแล้วว่าเรื่องแบบนั้นไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน
นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมของรัสเซียก็ได้ปล่อยภาพขบวนรถถังและสรรพาวุธชนิดต่าง ๆ ของรัสเซียที่เคลื่อนเข้าสู่จัตุรัสแดง ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงมอสโก ในช่วงกลางคืนวันพุธที่ผ่านมา เพื่อเข้าร่วมขบวนการซ้อมพิธีสวนสนามพร้อมกับบรรดาทหารจากหลายกองพัน ก่อนพิธีจริงจะเริ่มต้นขึ้นในอีก 4 วันข้างหน้าในการซ้อมครั้งนี้ ไม่อนุญาตให้ประชาชนเข้ารับชม
โควิดวันนี้ (6พ.ค.) ยอดติดเชื้อรายใหม่ 7,705 ราย เสียชีวิต 62 ราย