เมืองลีมานที่ยูเครนยึดคืนได้ครั้งนี้ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแคว้นโดเนตสก์ จากแผนที่จะเห็นได้ว่า เมืองแห่งนี้เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญทางตะวันออกของประเทศในฐานะศูนย์กลางการขนส่งทางรางของรถไฟ
รัสเซียยึดเมืองลีมานไว้ได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และใช้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางการขนส่งกำลังบำรุงรวมถึงเก็บเสบียงสำหรับการทำการรบในแคว้นโดเนตสก์ โดยกองทัพรัสเซียประจำการทหารไว้ในเมืองนี้ถึง 5,000 นาย
ผู้นำยูเครน เผยข่าวดี ยึดดินแดนกลับมา ได้อย่างต่อเนื่อง
รัสเซีย ถอนทหารออกจากเมืองสำคัญทางตอนเหนือภูมิภาคโดเนตสก์ หลั่นถูกกองกำลังยูเครนปิดล้อม
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมากองทัพยูเครนพยายามโจมตีกองทัพรัสเซียอย่างหนัก และเริ่มรุกคืบพื้นที่บริเวณนี้ได้มากขึ้น จนกระทั่งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ฝั่งยูเครนสามารถขับไล่กองทัพรัสเซียออกไปจากเมืองได้ทั้งหมด
ด้านอิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมของรัสเซียแถลงยอมรับว่า กองทัพรัสเซียได้สั่งถอนกำลังทหารออกจากเมืองจริง เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะถูกทหารของยูเครนโอบล้อม
หลังกองทัพรัสเซียถอยร่นจากเมืองไปไม่กี่ชั่วโมง ทางการยูเครนได้โพสต์คลิปวิดีโอหลายคลิปที่แสดงให้เห็นว่ากองกำลังยูเครนได้เข้าควบคุมเมืองลีมานได้โดยสมบูรณ์
คลิปนี้เผยให้เห็นทหารยูเครนที่ยืนอยู่หน้าอาคารที่ทำการของเมืองลีมาน จากวิดีโอจะเห็นว่าข้างหน้าของทหารยูเครนมีธงของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนสาธารณรัฐโดเนตสก์วางอยู่กับพื้น และมีทหารอีกหลายคนอยู่บนยอดตึก
ทหารยูเครนได้พูดว่าพวกเขาปลดปล่อยลีมานสำเร็จแล้ว ก่อนที่ในช่วงท้ายของคลิป ทหารที่อยู่บนยอดตึกได้โยนธงชาติของรัสเซียและโดเนตสก์ลงมา
นอกจากจะมีการโยนธงที่เป็นสัญลักษณ์ของรัสเซียแล้ว ทหารยูเครนยังมีการทำลายป้ายที่เป็นภาษารัสเซียด้วย
ในคลิปนี้จะเห็นได้ว่าทหารยูเครนได้อ่านป้ายข้อความภาษารัสเซียที่ติดอยู่บนอาคารของสถานีตำรวจ หลังจากนั้น ทหารยูเครนรายนี้ก็ได้งัดป้ายดังกล่าวทิ้งทันที
การเสียเมืองลีมานคือหนึ่งในความพ่ายแพ้ทางทหารที่ร้ายแรงที่สุดอีกครั้งของรัสเซีย นับตั้งแต่เปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อ 7 เดือนที่แล้ว
หลังจากนี้คาดว่ากองทัพยูเครนจะเคลื่อนทัพเข้าสู่เมืองเครมินา และซีเวโรโดเนตสก์ ก่อนที่จะเคลื่อนเข้าไปยังเมืองอื่น ๆ ที่เหลือของแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ที่อยู่ติดกันได้
ทั้งแคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ เพิ่งจะถูกรัสเซียประกาศผนวกไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ที่จตุรัสแดงในกรุงมอสโก และมีผู้ที่สนับสนุนผู้นำรัสเซียเข้ามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก
แต่การที่ยูเครนรุกคืบได้เช่นนี้ แสดงให้เห็นว่า สิ่งที่ประธานาธิบดีปูตินประกาศกับสถานการณ์จริงในพิ้นที่ ต่างกันโดยสิ้นเชิง
นอกเหนือจากโดเนตสก์และลูฮันสก์แล้ว อีกสองแคว้นที่ปูตินประกาศผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียคือ เคอร์ซอนและซาโปริซเชีย
ตอนนี้สถานการณ์ในเคอร์ซอนเริ่มคล้ายกับที่เมืองลีมาน เนื่องจากกองทัพยูเครนโจมตีรัสเซียหนักขึ้นเพื่อยึดคืนพื้นที่
จากแผนที่จะเห็นได้ว่า ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างหนักตลอดแนวพื้นที่ทางปีกตะวันตกของแม่น้ำดนีเปอร์ และทางฝั่งยูเครนสามารถปิดล้อมพื้นที่ทางทิศเหนือของพื้นที่ปีกตะวันตกได้แล้ว เท่ากับว่าตอนนี้กองทัพยูเครนสามารถปิดล้อมกองทัพรัสเซียได้แล้ว
ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนออกมาประกาศว่าสามารถยึดบางส่วนของเคอร์ซอนได้แล้ว
นักวิชาการด้านสงครามศึกษาคาดว่า ยูเครนจะรุกคืบหนักและพยายามยึดพื้นที่คืนให้ได้มากที่สุดก่อนจะถึงฤดูหนาว
โดยเป้าหมายหลักของยูเครนขณะนี้คือ 4 ดินแดนที่รัสเซียเพิ่งจะมีการประกาศผนวกไปอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นั่นก็คือ โดเนตสก์ ลูฮันสก์ ซาโปริซเซีย และเคอร์ซอน
หลายฝ่ายพูดไปในทิศทางเดียวกันว่า ยูเครนน่าจะสามารถยึดพื้นที่คืนได้ เพราะมีกำลังใจที่ดีและมีอาวุธที่ไม่ขาดมือ ประกอบกับการที่รัสเซียกำลังขาดแคลนกำลังทหารประจำการอย่างหนัก ทำให้ต้องประกาศระดมพลสำรอง จนนำไปสู่การประท้วงและการหนีออกนอกประเทศของชาวรัสเซียนับแสนคน
แม้ว่ารัสเซียจะกำลังเสียเปรียบในสนามรบ แต่นักวิเคราะห์ได้อธิบายถึงเหตุผลในการผนวกดินแดนของประธานาธิบดีปูตินในครั้งนี้ไว้อย่างน่าสนใจ
โดยนักวิเคราะห์มองว่าแรงจูงใจในการผนวกดินแดนทั้ง 4 ของยูเครนเป็นเป้าหมายทางการเมือง เพราะประธานาธิบดีปูตินต้องการแสดงให้ชาวรัสเซียเห็นว่า “ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร” ที่รัสเซียทุ่มเทมากว่า 8 เดือนนั้น มีความคืบหน้า
อย่างไรก็ดี เดวิด เปเตรอุส อดีตนายพล และอดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ วิเคราะห์ว่า ตอนนี้ผู้นำรัสเซียกำลังพ่ายแพ้และสถานการณ์ในสนามรบก็ไม่น่าเปลี่ยนไปมากกว่านี้แล้ว เพราะทางฝั่งยูเครนมีอาวุธและการจัดกำลังที่ดีกว่า
พล.อ.เปรเตอุสกล่าวว่า แม้ว่าผู้นำรัสเซียจะระดมพลหรือใช้อาวุธนิวเคลียร์ก็ไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ การที่รัสเซียเสียเมืองลีมานไปเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะที่นี่เป็นพื้นที่ส่งกำลังบำรุงของรัสเซีย และนี่หมายความว่ารัสเซียจะแพ้ในสนามรบอื่น ๆ จนสุดท้ายผู้ที่เกี่ยวข้องจะรับรู้ถึงความพ่ายแพ้นี้ และท้ายที่สุดรัสเซียจะต้องเปิดการเจรจาสงบศึกเอง
สิ่งนี้เกิดขึ้นในวันที่การผนวกดินแดนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความอยู่รอดของประธานาธิบดีปูติน เพราะเป็นเพียงทางเดียวที่สามารถนำมาโน้มน้าวชาวรัสเซียให้เชื่อว่า สิ่งที่เรียกว่า “ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร” ประสบความสำเร็จ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม กองทัพรัสเซียยังถูกตีจนถอยร่นมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้นำของเชชเนีย ที่เป็นพันธมิตรของยูเครนออกมาเสนอทางเลือกให้ผู้นำรัสเซีย
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาหลังจากรัสเซียต้องถอนทหารออกจากเมืองลีมาน พันธมิตรคนสำคัญของปูตินอย่างผู้นำเชเชนออกมาเสนอว่า รัสเซียควรใช้วิธีการที่แรงขึ้นอย่างเช่นอาวุธนิวเคลียร์ที่จำกัดวงโจมตี หรือ Low Yield Nuclear Weapon เพื่อสั่งสอนยูเครน
นิวเคลียร์ชนิดจำกัดวงโจมตีนี้ จะเป็นนิวเคลียร์ด้านยุทธวิธีหรือ Tactical Nuclear Weapon ซึ่งมีขนาดเล็ก และเน้นทำลายเป้าหมายในพื้นที่เจาะจงอย่างเรือ เครื่องบิน หรือฐานบัญชาการเป็นหลัก
อย่างไรก็ดี อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐฯ ระบุว่า ถ้ารัสเซียทำตามคำแนะนำของผู้นำเชเชนจริง สหรัฐฯ และพันธมิตรอาจใช้วิธีการตอบโต้ ด้วยการทำลายกองกำลังและอาวุธยุทธโธปกรณ์ของรัสเซียให้สิ้นซาก รวมถึงจมกองเรือในทะเลดำทั้งหมด