ฐานทัพอากาศรัสเซีย 2 แห่งถูกโจมตี เชื่อเป็นฝีมือยูเครน

โดย PPTV Online

เผยแพร่

ฐานทัพอากาศรัสเซีย 2 แห่ง ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนยูเครนหลายร้อยกิโลเมตรถูกโจมตี รัสเซียเผยเป็นฝีมือโดรนของยูเครน

เมื่อวันจันทร์ (5 ธ.ค.) เกิดเหตุระเบิดที่ฐานทัพอากาศ 2 แห่งในรัสเซีย ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนยูเครนไปหลายร้อยกิโลเมตร โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซียอ้างว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นจากยูเครนส่งโดรนบินข้ามพรมแดนมาก่อเหตุ

แต่รัสเซียเผยว่า การโจมตีดังกล่าวสร้างความเสียหายได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถยิงสกัดโดรนเหล่านั้นเอาไว้ได้

"ยุโรป" เริ่มเผชิญวิกฤตพลังงานในฤดูหนาว

รัสเซีย ลั่น ไม่รับเพดานราคาน้ำมันที่ชาติตะวันตกกำหนด

รัสเซีย ออกโรงปรามนาโตหากส่ง"แพทริออต"ให้ยูเครน

“ในเช้าวันที่ 5 ธ.ค. รัฐบาลยูเครนพยายามทำให้เครื่องบินพิสัยไกลของรัสเซียใช้การไม่ได้ จึงโจมตีฐานทัพอากาศ “ไดกิเลฟโว (Dyagilevo)” ในภูมิภาคไรยาซาน (Ryazan) และฐานทัพอากาศ “เองเกลส์-2 (Engels-2)” ในภูมิภาคซาราตอฟ (Saratov) ด้วยอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ที่ผลิตในโซเวียต” กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุ

ภูมิภาคซาราตอฟอยู่ห่างจากกรุงมอสโก เมืองหลวงของรัสเซียประมาณ 720 กิโลเมตร ส่วนภูมิภาคไรยาซานอยู่ห่างจากกรุงมอสโก เพียงประมาณ 150 กิโลเมตร ทั้ง 2 ภูมิภาคนี้อยู่ห่างจากพรมแดนยูเครนไปหลายร้อยกิโลเมตร 

มีรายงานว่า ที่ฐานทัพอากาศไดกิเลฟโวมีเจ้าหน้าที่ของกองทัพเสียชีวิต 3 นาย บาดเจ็บอีก 6 นาย หลังจากรถบรรทุกน้ำมันที่จอดอยู่บริเวณลานจอดเครื่องบินรบเกิดการระเบิด

สำหรับฐานทัพอากาศเองเกิลส์-2 นั้น เป็นฐานของกองบินทิ้งระเบิดหนักที่ 121 ของรัสเซียเช่นกัน ซึ่งที่นี่มีฝูงบินทิ้งระเบิด Tu-95 และ Tu-160 ซึ่งรัสเซียใช้ในการทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน

ขณะที่ฐานทัพอากาศไดกิเลฟโว เป็นฐานของกองบินทิ้งระเบิดหนักที่ 121 ซึ่งเชื่อว่ามีเครื่องบินรบที่ใช้โจมตียูเครนประจำการอยู่ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นฐานสำหรับกองบินบรรทุกน้ำมัน Il-78 เพียงแห่งเดียวของรัสเซีย ซึ่งเป็นหน่วยที่รับผิดชอบการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในเชิงกลยุทธ์

อิกอร์ โคนาเชนโก โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่า โดรนของยูเครนบินอยู่ในระดับต่ำ และถูกยิงสกัดไว้ได้โดยระบบป้องกันภัยทางอากาศ ทำให้มีเศษชิ้นส่วนโดรนตกลงมาสร้างความเสียหายเล็กน้อยให้กับเครื่องบิน 2 ลำ

โคนาเชนโกระบุว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นการก่อการร้าย และการที่รัฐบาลยูเครนโจมตีสนามบินทหารทั้งสองแห่งนี้มีจุดประสงค์เพื่อทำให้เครื่องบินรบระยะไกลของกองทัพรัสเซียไม่สามารถใช้งานได้

ฝ่ายยูเครนยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นต่อข้อกล่าวหาของรัสเซีย อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุที่ฐานทัพอากาศทั้ง 2 แห่งถูกโจมตี กองทัพรัสเซียได้ทำการตอบโต้ด้วยการระดมยิงขีปนาวุธถล่มเป้าหมายต่าง ๆ ทั่วยูเครน ซึ่งนับเป็นการโจมตีด้วยขีปนาวุธระลอกที่ 8  ในรอบ 8 สัปดาห์ และเกิดขึ้นห่างจากครั้งล่าสุด 2 สัปดาห์

โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยว่าสามารถโจมตีเป้าหมายสำเร็จ 17 แห่ง ส่วนฝ่ายยูเครนระบุว่ายิงสกัดขีปนาวุธรัสเซียเอาไว้ได้ 60-70 ลูก แต่การโจมตีระลอกล่าสุดของรัสเซียในยูเครน ทำให้เกิดไฟดับเป็นวงกว้าง และมีผู้เสียชีวิต 2 ศพในภูมิภาคซาโปริสเซีย

ด้านผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า “หากเรื่องนี้เป็นฝีมือของยูเครนจริง” น่าจะมีเป้าหมายอยู่ 2 ประการ

ร็อบ ลี เจ้าหน้าที่อาวุโสของสถาบันวิจัยนโยบายต่างประเทศ กล่าวว่า “จากที่ตั้งของฐานทัพอากาศ เชื่อว่าเครื่องบินในฐานทัพเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการทิ้งระเบิดในยูเครนเมื่อเร็ว ๆ นี้”

ดังนั้น การโจมตีฐานทัพเองเกิลส์-2 ของยูเครนมีแนวโน้มที่จะมีวัตถุประสงค์เพื่อขัดขวางแผนการของรัสเซียที่จะโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน “ยูเครนเตือนมาหลายสัปดาห์แล้วว่ารัสเซียกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีด้วยขีปนาวุธระลอกใหม่ต่อระบบพลังงานของตน นี่อาจเป็นการขัดขวางแผนการล่วงหน้า”

ส่วนการโจมตีฐานทัพไดกิเลฟโวนั้น ลีประเมินว่า “ถ้ารัสเซียสูญเสียเครื่องบินบรรทุกน้ำมัน Il-78 นั่นอาจเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดสำหรับรัสเซีย การผลิตเครื่องบินบรรทุกน้ำมันใหม่นั้นเป็นเรื่องที่ช้าอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น นี่อาจเป็นแผนสร้างความเสียหายมากที่สุดสำหรับรัสเซีย”

ลีเสริมว่า หนึ่งในประเด็นหลักที่กองทัพอากาศรัสเซียต้องให้ความสนใจขณะนี้คือ เครื่องบินหลายลำไม่ได้อยู่ในโรงเก็บเครื่องบิน ทำให้พวกมันตกเป็นเป้าโจมตีได้ง่าย “เป็นที่ชัดเจนว่ารัสเซียไม่ได้เตรียมแผนป้องกันฐานทัพอากาศที่อยู่ลึกเข้าไปในประเทศ” และเป็นการแสดงให้เห็นว่ายูเครนมีศักยภาพมากพอที่จะทำการโจมตีไปไกลถึงกรุงมอสโก

ลีเชื่อว่า โดรนน่าจะถูกปล่อยจากภายในดินแดนของรัสเซียเอง “การโจมตีด้วยอากาศยานไร้คนขับมีระยะค่อนข้างสั้น และพวกมันคงไม่สามารถบินตรงจากยูเครนมาได้ไกลขนาดนั้น”

การโจมตีที่เกิดขึ้น แม้รัสเซียจะพยายามโทษยูเครน แต่ก็เกิดกระแสตีกลับมาที่กองทัพ เพราะถูกมองว่าไร้ศักยภาพในการปกป้องฐานทัพของตัวเอง

 

เรียบเรียงจาก CNN / The Guardian

ภาพจาก AFP

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ