เมื่อวานนี้ (23 ก.พ.) แมม บุญเฮง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกัมพูชา รายงานว่า มีเด็กหญิงวัย 11 ปีรายหนึ่ง เสียชีวิตหลังติดเชื้อไวรัส H5N1 หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “ไข้หวัดนก” นับเป็นผู้ติดเชื้อรายแรกในรอบเกือบ 10 ปีนับตั้งแต่ปี 2014
เด็กหญิงรายนี้อาศัยอยู่ในจังหวัดไพรแวง ทางตะวันออกของเมืองหลวงกรุงพนมเปญ มีอาการไอและไข้ขึ้นสูง และได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไข้หวัดนกในวันที่ 16 ก.พ. และรับการรักษาในสถานพยาบาลในจังหวัด
ต่อมาอาการของเด็กหญิงทรุดลง จึงส่งตัวมารับการรักษาในโรงพยาบาลเด็กแห่งชาติในพนมเปญ แต่เสียชีวิตในท้ายที่สุดเมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา
ตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ไข้หวัดนกได้แพร่ระบาดในหลายพื้นที่ทั่วโลก ฟาร์มสัตว์ปีกหลายแห่งได้รับผลกระทบ ทำให้มีนกตายมากกว่า 200 ล้านตัว ทั้งจากโรคระบาดและจากการกำจัดเพื่อป้องกันโรค
นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานพบการแพร่กระจายของไข้หวัด H5N1 ไปยังสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมกลุ่มตัวมิงค์ นาก และแมวน้ำ แม้ความเสี่ยงต่อมนุษย์ยังคงอยู่ในระดับต่ำ แต่ “ต้องได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิด”
มีรายงานว่า เด็กหญิงกัมพูชาที่เสียชีวิตรายนี้ อาศัยอยู่ใกล้กับเขตอนุรักษ์ ซึ่งมีโอกาสที่จะสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์ที่อาจติดเชื้อ และขณะนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำลังนำตัวอย่างนกที่ตายในบริเวณใกล้เคียงไปทำการตรวจสอบ ว่ามีเชื้อไวรัส H5N1 อยู่หรือไม่
โดยทั่วไป ผู้ที่ติดเชื้อไข้หวัดนกมักจะทำงานในฟาร์มสัตว์ปีกหรือสัมผัสใกล้ชิดกับนกที่ติดเชื้อ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกัมพูชาเรียกร้องให้ประชาชนในประเทศไม่จับนกและสัตว์อื่นที่ตายหรือป่วย และให้ติดต่อสายด่วนทันทีหากสงสัยว่าตัวเองหรือผู้อื่นติดเชื้อ
ล่าสุดวันนี้ (24 ก.พ.) สื่อกัมพูชารายงานว่า พบผู้ติดเชื้อรายที่ 2 แล้ว เป็นชายวัย 49 ปี ซึ่งเป็นพ่อของเด็กหญิงที่เสียชีวิต เบื้องต้นยังไม่ยืนยันว่าเป็นการติดเชื้อจากสัตว์ หรือจากคนสู่คน
เรียบเรียงจาก Khmer Times / The Guardian
ภาพจาก AFP