แนวชายแดนด้านเหนือตอนนี้บริเวณดังกล่าวยูเครนวางกำลังประจำการหนาแน่นเพราะถ้าจะยึดหรือโจมตีกรุงเคียฟอีกรอบ จุดนี้คือจุดที่ใกล้และทำได้ง่ายกว่าแนวชายแดนด้านอื่น 24 กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว กองทัพรัสเซียเคยใช้เส้นทางนี้เป็นเส้นทางหลักสำหรับการเคลื่อนพลยึดกรุงเคียฟ
ในวันนั้นเข้ามาได้แบบง่ายๆเพราะยูเครนไม่มีความพร้อมเลย แตกต่างกับวันนี้ที่ยูเครนมีทั้งทหารและกองกำลังเพื่อป้องกันดินแดนประจำการหนาแน่น
“ไบเดน”เซอร์ไพรส์เยือนกรุงเคียฟ ก่อนครบรอบ 1 ปีสงครามรัสเซีย-ยูเครน
เจ็บแต่จบ! สงครามรัสเซีย-ยูเครน มีโอกาสสิ้นสุดในปีนี้?
กองกำลังเพื่อป้องกันดินแดน หรือ Territorial Defense เป็นกำลังพลสำรองที่ถูกเรียกมาประจำการ รวมไปถึงพลเรือนธรรมดาที่อาสาเข้ามาช่วยทหารประจำการรบ
ตอนนี้กองกำลังเพื่อป้องกันดินแดนของยูเครนมีอยู่ประมาณ 150 กองพันหรือเกือบ 150,000 นาย ซึ่งทั้งหมดได้รับการฝึกรบแล้วก่อนถูกส่งมาประจำการตามจุดต่างๆทั่วประเทศรวมถึงที่นี่
หน่วยที่เราเห็นอยู่นี้คือกองกำลังป้องกันดินแดนที่ประจำการบริเวณโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลห่างจากชายแดนเบลารุสประมาณ 15 กิโลเมตร
หลายคนบอกว่าเตรียมพร้อมแล้วถ้าศัตรูจะบุกเข้ามาอีกรอบ และคราวนี้จะไม่เหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมาที่ทหารรัสเซียผ่านมาได้แบบง่ายๆ
ทำไมจึงมีการวางกำลังที่บริเวณโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ตอนที่บุกยูเครนปีที่แล้ว รัสเซียใช้เชอร์โนบิลเป็นทางผ่านไปกรุงเคียฟ
โดยทัพรัสเซียข้ามชายแดนเบลารุส มุ่งลงใต้มายังเชอร์โนบิล ก่อนจะมุ่งตรงสู่เมืองโคโรสเตน และเข้าประชิดกรุงเคียฟได้ภายในไม่กี่วัน เพราะระยะทางจากเชอร์โนบิลไปกรุงเคียฟประมาณ 130 กิโลเมตรเท่านั้น
สำหรับยูเครนที่นี่จึงเป็นปราการสำคัญมากในการปกป้องเมืองหลวงและมีการวางกำลังแถบนี้ไว้เต็มพิกัด ถึงแม้มีการคาดการณ์ว่า ถ้ามีการโจมตีรอบใหม่ รัสเซียจะไม่โจมตีจากทางนี้ แต่จะไปหนักทางใต้และตะวันออกแทน
ไปดูชายแดนด้านตะวันออก ซึ่งขณะนี้ได้กลายเป็นสมรภูมิหลักของสงครามครั้งนี้ โดยเมืองที่มีการต่อสู้แย่งชิงกันอย่างหนักหน่วงคือเมืองบัคมุตซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของแคว้นโดเนตสก์
บัคมุตเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญเนื่องจากมีถนนที่สามารถเชื่อมไปได้ทั้งทางเหนือหรือทางตะวันตกของภูมิภาคดอนบาส
สำหรับฝั่งยูเครน การเสียเมืองบัคมุตจะทำให้ยูเครนสูญเสียเส้นทางในการขนส่งเสบียงให้กับทหารในภูมิภาคดอนบาส ซึ่งส่งผลเสียต่อยูเครนอย่างมากหากต้องการทำสงครามฤดูหนาว
ส่วนฝั่งรัสเซีย การครอบครองเมืองบัคมุตได้ จะสร้างหลักประกันว่ารัสเซียจะสามารถเคลื่อนทัพต่อไปยังเมืองต่างๆ ได้ง่ายมากขึ้น โดยรัสเซียสามารถมุ่งหน้าไปที่เมืองแฝดคู่สำคัญอย่างครามาทอร์สก์และสลาเวียนสก์ได้ และจะควบคุมแนวรบได้ง่ายขึ้น
การต่อสู้แย่งชิงเมืองเกิดขึ้นมาหลายเดือนแล้ว ตอนแรกคาดว่ารัสเซียจะยึดที่นี่ให้ได้ก่อนวันที่ 24 กุมภาพันธ์เพื่อเป็นสัญญลักษณ์ของชัยชนะเนื่องในวันครบรอบ 1 ปีของสงคราม แต่ก็ยังยึดไม่ได้ ตอนนี้ทั้ง 2 ฝ่ายยังคงประจัญหน้ากันอยู่
ที่นี่กองทัพยูเครน deploy หน่วยรบพิเศษที่เรียกว่าหน่วย Witcher ทำหน้าที่ในการยันกับกองกำลังรัสเซียที่มีกลุ่มแวกเนอร์หรือกลุ่มหทรรับจ้างเป็นกำลังหลักผู้บัญชาการหน่วยบอกว่าในช่วงเดือนที่ผ่านมา ทั้งฝั่งรัสเซียมีการส่งกำลังเข้ามาเพิ่มต่อเนื่อง จำนวนของทหารทางฝั่งรัสเซียมากกว่าของยูเครนหลายเท่าตัว โดยตอนนี้ทหาร 5 นายในหน่วยของเขาต้องรับมือกับทหารรัสเซียประมาณ 100 นาย และนี่ยังไม่นับรวมอาวุธและเครื่องกระสุนซึ่งรัสเซียมีเยอะกว่ามากในขณะนี้
ผู้บัญชาการหน่วย Witcher บอกด้วยว่า รัสเซียอัดหนัก โจมตีหนักมาขึ้นโดยเฉพาะในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่หน่วยของเขาตรึงพื้นที่ได้ และแม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่กดดันอย่างหนัก แต่ในวันครบรอบ 1 ปีของสงครามรัสเซียเล่นใหญ่ก็ยังเชื่อว่าจะรับมือได้ คือสถานการณ์บางส่วนของแนวรบด้านตะวันออกซึ่งเป็นที่ตั้งของภูมิภาคดอนบาส ส่วนด้านสุดท้ายที่รัสเซียเคยยกทัพเข้ามาคือทางด้านใต้ของยูเครน
ในแนวด้านนี้การสู้รบภาคพื้นดินไม่ดุเดือดเท่าทางตะวันออก แต่รัสเซียใช้วิธีตัดกำลังยูเครนด้วยการโจมตีทางอากาศ อย่างเช่นเมื่อวานนี้ที่ใช้การยิงขีปนาวุธกว่า 20 ลูกจากทะเลดำเข้ามาที่แคว้นเคอร์ซอนซึ่งขณะนี้ยูเครนยึดพื้นที่เกือบทั้งหมดคืนมาได้แล้ว ขีปนาวุธลูกหนึ่งไปตกที่ป้ายรถเมล์ที่ย่านการค้าทำให้ผู้เสียชีวิตถึง 5 คน
เมื่อคืนที่ผ่านมาประธานาธิบดีเซเลนสกีสั่งการให้มีมาตราการพิเศษสำหรับพื้นที่ในแคว้นเคอร์ซอนเพื่อเตรียมรับมือการการโจมตีใหญ่ที่อาจจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ นั่นก็คือตั้งแต่วันนี้ 23 กุมภาพันธ์ จนถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ธุรกิจต่างๆรวมถึงหน่วยงานราชการไม่ต้องเข้าที่ทำงานเพื่อป้องกันความเสียหายด้านชีวิตหากมีการโจมตีอาคาร และมีการสั่งการให้ดูแลรักษาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานเป็นพิเศษเนื่องจากจุดดังกล่าวมักตกเป็นพื้นที่เป้าหมายของการโจมตี
นี่คือสถานการณ์ 1 วันก่อนที่จะครบรอบ 1 ปีของสงครามยูเครน จับตาดูว่ารัสเซียจะมีการเปิดปฏิบัติการใหญ่หรือไม่อย่างไรเพื่อเป็นการแสดงจุดยืนว่าการทำสงครามในยูเครนคราวนี้สมเหตุสมผลและมีความจำเป็นแล้ว
และในวันนี้ดิฉันจะเดินทางไปที่เมืองบูชาเพื่อดูสภาพของสถานที่ที่เป็นสัญญลักษณ์ของความโหดร้ายที่เกิดขึ้นของสงครามที่ดำเนินมาครบ 1 ปี และทั้งหมดเรามาติดตามกันในวันพรุ่งนี้ (24 ก.พ.)