สถานีโทรทัศน์ทางการอิหร่านเผยแพร่คลิปความยาวไม่กี่วินาที โดยระบุว่าเป็นการยิงขีปนาวุธทิ้งตัวรุ่น คอร์รัมชาร์ 4 (Khoramshahr 4) ที่ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพ โดยมีพิสัยโจมตีไกล 2,000 กิโลเมตร และสามารถติดตั้งหัวรบที่มีน้ำหนัก 1,500 กิโลกรัมได้
ขณะที่สำนักข่าว IRNA ระบุว่า ขีปนาวุธเชื้อเพลิงเหลวนี้ถูกตั้งชื่อว่า “ไคบาร์ (Kheibar)” ตามป้อมปราการของชาวยิวที่ถูกนักรบมุสลิมทำลายในช่วงเริ่มต้นเผยแผ่ศาสนาอิสลาม
โดยลักษณะเด่นของขีปนาวุธที่พัฒนาขึ้นในประเทศรุ่นนี้คือ ระยะเวลาเตรียมการและยิงที่เร็ว ทำให้เป็นอาวุธเชิงยุทธวิธีได้ด้วย นอกเหนือจากอาวุธเชิงยุทธศาสตร์
อิหร่าน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในชาติตะวันออกกลางที่มีโครงการพัฒนาขีปนาวุธขนาดใหญ่ที่สุด ระบุว่า ขีปนาวุธรุ่นใหม่นี้สามารถไปถึงฐานทัพของศัตรูที่สำคัญที่สุดอย่างอิสราเอลและสหรัฐฯ ในภูมิภาค
กองกำลังแวกเนอร์ส่งมอบเมืองบัคมุตให้รัสเซียหลังยึดได้
นักวิจัยทดสอบแผ่นดินไหวดาวอังคารเผื่อส่งมนุษย์ไปในอนาคต
เกิดเหตุกราดยิง-ใช้มีดยาวแทงเหยื่อในญี่ปุ่น เสียชีวิต 4 ศพ
อิสราเอลมองว่าอิหร่านเป็นภัยคุกคามความอยู่รอดของตน ขณะที่อิหร่านย้ำว่าการพัฒนาขีปนาวุธของตนเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะป้องปรามและตอบโต้สหรัฐฯ อิสราเอล ตลอดจนรัฐที่ไม่เป็นมิตรอื่นๆ ในภูมิภาค
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ผู้บัญชาการกองทัพอิสราเอลเผยว่าอาจดำเนินมาตรการทางทหารต่อโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
แม้จะถูกคัดค้านจากสหรัฐฯ และชาติยุโรป อิหร่านก็ยังยืนยันที่จะพัฒนาโครงการขีปนาวุธเพื่อป้องกันตัวเอง
ความพยายามของชาติมหาอำนาจ 6 ประเทศที่จะรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ทำไว้กับอิหร่านเมื่อปี 2015 ได้หยุดชะงักตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว
ข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งสหรัฐฯ ได้ถอนตัวไปเมื่อปี 2018 จำกัดกิจกรรมด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน เพื่อยืดเวลาที่อิหร่านต้องใช้ในการผลิตวัสดุฟิสไซล์ในระดับที่เพียงพอสำหรับการผลิตระเบิดนิวเคลียร์ 1 ลูกออกไป ขณะที่อิหร่านปฏิเสธว่าไม่เคยคิดครอบครองอาวุธนิวเคลียร์
