นาง ฮานนา มัลยา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครนเปิดเผยว่ากองกองทัพรัสเซียได้รุกเข้าใกล้พื้นที่ทางใต้ของเมืองสวาโทฟ (Svatove) ในภูมิภาคลูฮานสก์ ทางภาคตะวันออกของประเทศ โดยได้โจมตีหมู่บ้าน 2 แห่งอย่างหนัก
นอกจากนี้ในภูมิภาคโดเนตสก์ ที่อยู่ทางภาคตะวันออกของยูเครนเช่นกัน กองทัพรัสเซียยังเคลื่อนกำลังรุกประชิดอีก 3 พื้นที่ประกอบไปด้วย อัฟดิฟกา มารินกา และลีแมน
รัสเซียเตือนสหรัฐฯ อย่าติดอาวุธนิวเคลียร์ให้โปแลนด์
ผอ.ซีไอเอ ย่องเงียบเยือนยูเครน คาดแบ่งปันข่าวกรองสู้รัสเซีย
ผู้นำยูเครน สั่งเสิรมแนวป้องกัน ชายแดนทางตอนเหนือติดกับเบลารุส
ส่วนที่เมืองบัคมุต นางมัลยาร์ ระบุว่าทหารยูเครนได้รุกคืบตามแนวทิศใต้ของเมือง ซึ่งประสบความสำเร็จบางส่วน
ขณะที่สถานการณ์สู้รบทางภาคใต้ กำลังทหารยูเครนได้เคลื่อนกำลังอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อรุกประชิดพื้นที่โดยรอบเมืองเบอร์เดียนสก์ (Berdiansk) และเมืองเมลิโทพอล (Melitopol) แต่ยังเผชิญกับอุปสรรคจากการต่อต้านอย่างหนักจากกองทัพรัสเซีย ที่ส่งกำลังทหารเข้ามาเพิ่มเติมและวางกับระเบิดไว้ตามเส้นทางต่างๆ
ส่วนพลเอก วาเลรี ซาลูซนี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของยูเครน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเมื่อวันศุกร์ แสดงความผิดหวังที่ชาติพันธมิตรตะวันตกดำเนินการอย่างล่าช้าในการทำตามคำสัญญามอบอาวุธแก่ยูเครน
โดย พลเอก ซาลูซนี ย้ำว่าเครื่องบินขับไล่ F-16 เป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของปฏิบัติการรุกกลับเพื่อยึดคืนดินแดนที่สูญเสียไปให้กับรัสเซีย แต่จนถึงตอนนี้ยูเครนยังเฝ้ารอเครื่องบิน F-16 ที่ชาติพันธมิตรเคยให้สัญญาไว้
ขณะเดียวกัน เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ยูเครนเปิดเผยว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถสกัดการโจมตีด้วยโดรนครั้งใหม่ที่เล็งเป้าหมายเล่นงานกรุงเคียฟ ได้ทั้งหมด" โดยกองทัพอากาศยูเครน ได้ออกแถลงการณ์เปิดเผยว่าขีปนาวุธร่อนของกองกำลังรัสเซีย 3 ลูก และโดรนโจมตีที่ผลิตโดยอิหร่าน 8 ลำ
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านของยูเครนอย่างโปแลนด์ ได้แสดงตั้งข้อสังเกตต่อการที่กลุ่มทหหารรับจ้างรัสเซีย “แวกเนอร์ กรุ๊ป” เข้าไปลี้ภัยในเบลารุส หลังยุติแผยบุกกรุงมอสโก
โดย นาย สตานิสลาฟ ซาริน (Stanislaw Zaryn) เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของรัฐบาลโปแลนด์ เชื่อว่าเป้าหมายที่แท้จริงของกลุ่มแวกเนอร์ไม่ใช่การเข้าไปตั้งหลักในเบลารุส แต่เพื่อปฏิบัติภารกิจที่มุ่งเป้ามาที่โปแลนด์ รวมทั้งลิทัวเนีย และ ยูเครน
ขณะที่ทำเนียบขาว เปิดเผยว่าในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯมีกำหนดการเดินทางไปเยือนหลายประเทศของยุโรปทั้งอังกฤษ ลิทัวเนียที่กำลังเป็นเจ้าภาพการประชุมนาโตระหว่างวันที่ 11-12 ก.ค.นี้ และ พบกับผู้นำกลุ่มประเทศนอร์ดิกในกรุงเฮลเซงกิ ประเทศฟินแลนด์
โดยประเด็นสำคัญของการประชุมนาโตในลิทัวเนียคาดว่าจะมีทั้งการรับยูเคนรนเข้าเป็นสมาชิก และ ประเด็นที่เกี่ยวกับสวีเดน ซึ่งตุรกียังมีท่าทีคัดค้านการรับเข้าเป็นสมาชิก