พลจัตวา แพทริก ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า จากข้อมูลจนถึงขณะนี้ ยังไม่พบข้อมูลที่บ่งชี้ว่าการตกของเครื่องบินที่นาย เยฟกินี พริโกซิน หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างรัสเซีย “แวกเนอร์กรุ๊ป” ร่วมเดินทางไปด้วย มีสาเหตุจาการถูกยิงด้วยขีปนาวุธแบบพื้นดินสู่อากาศ
โดยในขณะนี้หน่วยงานด้านข่าวกรองของสหรัฐฯ กำลังวิเคราะห์ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินลำนี้ตก ซึ่งเจ้าหน้าที่รายหนึ่งได้เปิดเผยว่า การวิเคราะห์ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่า สาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดคือการจงใจวางระเบิด
โดยหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เชื่อว่าประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย อาจรู้เห็นกับแผนสังหารนาย พริโกซิน ซึ่งเชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตทั้ง10คนจากเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันพุธ
ส่วนกระทรวงกลาโหมอังกฤษเชื่อว่าผู้ที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้คือสำนักงานความมั่นคงรัฐบาลกลางรัสเซียหรือFSB ซึ่งในอดีตคือหน่วยสืบราชการลับ KGB ในยุคสหภาพโซเวียต
ขณะที่ ประธานาธิบดี ปูติน ได้แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตทั้ง 10 คน และได้พูดถึงนายพริโกซินว่าเป็นบุคคลที่มีความสามารถ แม้ทำผิดพลาดร้ายแรงหลายครั้ง
ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ ( 24 ส.ค.)หน่วยข่าวกรองกระทรวงกลาโหมยูเครนได้โพสต์วิดีโอคลิปปฏิบัติการพิเศษในภูมิภาคไครเมียที่รัสเซียยึดมาจากยูเครนตั้งแต่ปี 2014
ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นผลงานของกองทัพเรือและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองยูเครนที่เดินทางด้วยเรือยนต์เล็กๆ ในช่วงเวลากลางดึกเพื่อนำธงชาติไปติดไว้ที่ดินแดนไครเมีย โดยจุดที่ชุดปฏิบัติการพิเศษขึ้นฝั่งอยู่ด้านทิศตะวันตกของปลายคาบสมุทรไครเมีย
โดยหน่วยข่าวกรองกระทรวงกลาโหมยูเครนยืนยันว่าปฏิบัติการที่เกิดขึ้นนี้ประสบความสสำเร็จตามเป้าหมายและสร้างความเสียหายให้กับฝ่ายรัสเซียทั้งในด้านกำลังพลและอุปกรณ์ต่างๆ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด
สำหรับการเผยแพร่คลิปวิดีโอภารกิจครั้งนี้ยังเกิดขึ้นกับวันครบรอบ 32 ปีที่ยูเครนประกาศอิสรภาพจากสหภาพโซเวียตเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ปี 1991
ส่วนเมื่อวานนี้ ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ได้แถลงต่อที่ประชุมนานาชาติว่าด้วยภูมิภาคไครเมีย โดยย้ำว่าการยึดครองไครเมียของรัสเซียจะต้องยุติลง พร้อมทั้งแสดงความมั่นใจว่ากองทัพยูเครนจะยึดคืนแอดนดังกล่าวกลับมาได้เหมือนกับพื้นที่อื่นๆ
ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานว่ายูเครนได้พยายามยิงขีปนาวุธโจมตีสถานที่พลเรือน แต่ระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถยิงสกัดขีปนาวุธลูกนี้เอาไว้ได้ขณะเคลื่อนที่อยู่บนท้องฟ้าเหนือภูมิภาคคาลูกา (Kaluga) ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมอสโกไม่ถึง 200 กิโลเมตร
โดย ท่าอากาศยานวนูโคโว ( Vnukovo) และท่าอากาศยานโดโมเดโดโว (Domodedovo) ในกรุงมอสโก ได้สั่งระงับเที่ยวบินต่างๆ ไว้ชั่วคราว