เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ โดยการเลือกตั้งรอบแรกจะจัดขึ้นในวันที่ 30 มิถุนายน และรอบที่ 2 คือวันที่ 7 กรกฎาคม
ประธานาธิบดีมาครงระบุว่า นี่ถือเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก แต่เหนือสิ่งอื่นใด นี่คือการแสดงความมั่นใจ ความไว้ใจในตัวพลเมืองชาวฝรั่งเศส ถึงความสามารถในการตัดสินใจที่บยุติธรรมที่สุดให้กับตัวเอง และคนรุ่นหลัง
มาครงกล่าวว่า "การตัดสินใจครั้งนี้ค่อนข้างจริงจัง และยากลำบาก แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการแสดงความมั่นใจ ความมั่นใจในตัวคุณ พลเมืองชาวฝรั่งเศสของผม ความสามารถของชาวฝรั่งเศสในการตัดสินใจเลือกสิ่งที่ยุติธรรมที่สุดสำหรับตัวเอง และคนรุ่นต่อ ๆ ไป ความมั่นใจในตัวเรา ประชาธิปไตย เพื่อที่จะมอบเสียงให้กับประชาชนที่มีอำนาจสูงสุด ไม่มีอะไรที่ผู้ที่นิยมระบอบสาธารณรัฐทำได้ดีไปกว่าข้อตกลงใด ๆ วิธีแก้ไขปัญหาที่ไม่มั่นคงใด ๆ นี่คือเวลาสำหรับการชี้แจงที่จำเป็นอย่างยิ่ง"
ทั้งนี้ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังจากผลเอ็กซิตโพลออกมาปรากฎว่า พรรคเรอแนซ็องส์ (Renaissance Party) ของเขา กำลังจะพ่ายแพ้ให้กับพรรคฝ่ายขวาจัด ในการเลือกตั้งรัฐสภายุโรป
โดยผลเอ็กซิลโพลเบื้องต้นชี้ว่า พรรคขวาจัดแห่งชาติแรสแอสเซมบลีเมนต์ เนชันแนล (RN) ได้คะแนนเสียง 31.5 % ซึ่งได้มากกว่าพรรคเรอแนซ็องส์ ของประธานาธิบดีมาครงที่ตามมาเป็นอันดับ 2 ถึง 2 เท่า อยู่ที่ 15.2 %แซงหน้าพรรคสังคมที่ตามมาเป็นอันดับ 3 ด้วยคะแนนเสียง 14.3 %
ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคฝ่ายขวาจัด ภายหลังจากการประกาศของประธานาธิบดีมาครง มารีน เลอแปน อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสถึง 2 สมัยจากพรรคฝ่ายขวาจัดได้กล่าวแสดงความยินดีต่อการตัดสินใจดังกล่าวของประธานาธิบดีมาครง โดยเธอย้ำว่า เธอพร้อมจะปกครองประเทศ หากชาวฝรั่งเศสไว้ใจเธอ
นอกจากนี้ มารีน เลอแปน ยังให้คำมั่นสัญญาด้วยว่า เธอพร้อมจะสร้างประเทศขึ้นใหม่ พร้อมปกป้องผลประโยชน์ของฝรั่งเศส และยุติการอพยพย้ายถิ่นฐานของผู้อพยพจำนวนมาก ตลอดจนให้ความสำคัญกับฝรั่งเศสเป็นอันดับแรก และเริ่มกระบวนการฟื้นฟูอุตสาหกรรมของประเทศ
ผู้นำฝรั่งเศสประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ หลังเสี่ยงแพ้เลือกตั้งสภายุโรป