การเลือกตั้งเพื่อหาประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว โดยช่วงเวลาที่ผ่านมามีประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าไปแล้ว 78 ล้านคน ซึ่งลดลงจากการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2020 ซึ่งครั้งนั้นมีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ามากถึง 110 ล้านคน
ศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 มี 7 รัฐสวิงสเตทที่ต้องจับตามอง ได้แก่ แอริโซนา จอร์เจีย มิชิแกน เนวาดา นอร์ทแคโรไลนา เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน ซึ่งมักจะเป็นจุดชี้ขาด
ทั้งนี้ เมื่อชาวอเมริกันไปคูหาเลือกตั้ง พวกเขาจะกาเลือกผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีคนที่ตนชื่นชอบ แต่จริง ๆ แล้วพวกเขากำลังลงคะแนนเสียงให้บุคคลกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า “ผู้เลือกตั้งประธานาธิบดี”
หากผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใดได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่จากประชาชนในรัฐ (ยกเว้นรัฐเมนและเนแบรสกา) ผู้สมัครคนนั้นจะได้คะแนนผู้เลือกตั้ง (Electoral Vote) ทั้งหมดของรัฐนั้น ๆ ตามกฎ “Win Take All” และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ได้รับคะแนนเสียงจากผู้เลือกตั้งมากที่สุดจะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีนั่นเอง
โดยผู้เลือกตั้งมีจำนวนทั้งหมด 538 คน หมายความว่า ผู้สมัครต้องได้รับคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง คือ 270 เสียง จึงจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี
โดยในรัฐที่ไม่ใช่สวิงสเตทนั้น จะทำให้แฮร์ริสการันตีคะแนน Electoral Vote ไว้ได้ที่ 226 คะแนน ขณะที่ทรัมป์จะมี Electoral Vote ที่ได้แน่นอนอยู่ 219 คะแนน
อัจฉริยะแฉ! ตร.หิ้วสอบคนใกล้ชิดทนายตั้มตัวย่อ "บ" รับสารภาพหมดเปลือก!
วันที่ 6 พ.ย. 2024
"ทรัมป์" ชนะอย่างไม่เป็นทางการแล้ว!
17.35 น. CNN ประกาศ "ทรัมป์" ชนะในรัฐวิสคอนซิน ทำให้มีคะแนน Electoral Vote 276 เสียง เกินกึ่งหนึ่งแล้ว ถือเป็นผู้ชนะอย่างไม่เป็นทางการ
รัสเซีย-อิหร่านไม่ยินดียินร้าย "ทรัมป์" เป็นประธานาธิบดี
ขณะที่หลายประเทศออกมาแสดงความยินดีกับทรัปม์ ทางฝั่งรัฐบาลอิหร่านระบุว่า ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างผู้ที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ฟาติเมห์ โมฮาเจรานี โฆษกรัฐบาลอิหร่าน “มีการวางแผนมาตรการที่จำเป็นไว้ล่วงหน้าแล้ว” ไม่ว่าใครจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ และกล่าวอีกว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ “ไม่มีความเกี่ยวข้อง” กับอิหร่าน และ “นโยบายทั่วไปของสหรัฐและอิหร่านไม่มีการเปลี่ยนแปลง”
ขณะที่โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ดมิทรี เปสคอฟ กล่าวว่า ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ไม่มีแผนจะแสดงความยินดีกับ โดนัลด์ ทรัมป์ และเสริมว่า “อย่าลืมว่าเรากำลังพูดถึงประเทศที่ไม่เป็นมิตรซึ่งเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อมในสงครามต่อต้านรัฐของเรา”
เปสคอฟกล่าวว่า รัสเซียกำลังเฝ้าติดตามการเลือกตั้งของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด และไม่น่าจะให้การประเมินอย่างเป็นทางการจนกว่าจะได้เห็น “คำพูดและการกระทำที่เป็นรูปธรรม” ของผู้นำคนใหม่ “ยังคงต้องรออีกบ้าง เนื่องจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบันจะอยู่ในตำแหน่งนานเกือบ 1 เดือนครึ่ง”
เปสคอฟยังบอกว่า “เรากล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า สหรัฐฯ อยู่ในตำแหน่งที่จะช่วยยุติความขัดแย้งได้ แน่นอนว่าสิ่งนี้ไม่สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืน”
เมื่อถูกถามว่าทรัมป์อาจรู้สึกไม่พอใจที่ปูตินไม่แสดงความยินดีหรือไม่ โฆษกเครมลินกล่าวเสริมว่า “แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ความสัมพันธ์จะแย่ลงไปกว่านี้ ความสัมพันธ์ในปัจจุบันอยู่ในจุดต่ำสุดในประวัติศาสตร์แล้ว”
เดโมแครตสิ้นหวัง
ในช่วงเวลาที่ทรัมป์ประกาศชัยชนะ บรรยากาศที่มหาวิทยาลัยโฮวาร์ด ซึ่งเป็นจุดรวมพลของกลุ่มผู้สนับสนุน กมลา แฮร์ริส และพรรคเดโมแครตก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ผู้สนับสนุนทั้งหมดพากันเดินทางกลับบ้าน หลายคนทิ้งธงชาติสหรัฐฯ ไว้ตามรายทาง
ขณะที่ในเวลา 16.30 น. ตามเวลาประเทศไทย แฮร์ริสชนะเพิ่มในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ทำให้ Electoral Vote ตอนนี้ตามทรัมป์อยู่ที่ 219 เสียงต่อ 266 เสียง
ผู้นำโลกแสดงความยินดี
หลังทรัมป์ประกาศชัยชนะ ผู้นำประเทศต่าง ๆ ได้ออกมาเคลื่อนไหวแสดงความยินดี
เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส โพสต์ข้อความว่า “ขอแสดงความยินดีกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมที่จะทำงานร่วมกันอย่างที่เราเคยทำร่วมกันเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ด้วยความเชื่อของคุณและของผม ด้วยความเคารพและความทะเยอทะยาน เพื่อความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น”
ด้าน เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ระบุว่า “ขอแสดงความยินดีกับการกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์! การกลับมาครั้งประวัติศาสตร์ของคุณสู่ทำเนียบขาวถือเป็นจุดเริ่มต้นใหม่สำหรับอเมริกา และเป็นการกลับมามุ่งมั่นอย่างแข็งแกร่งอีกครั้งต่อพันธมิตรอันยิ่งใหญ่ระหว่างอิสราเอลและอเมริกา”
ขณะที่ วิกเตอร์ ออร์บัน นายกรัฐมนตรีฮังการีและพันธมิตรของ โดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความยินดีกับผลการเลือกตั้งของสหรัฐฯ “สวัสดีตอนเช้าฮังการี! บนเส้นทางสู่ชัยชนะอันงดงาม ชัยชนะอยู่ในกระเป๋าแล้ว”
ทางฝั่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เคียร์ สตาร์เมอร์ แสดงความยินดีกับทรัมป์ โดยบอกว่า “ขอแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีทรัมป์ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ ผมหวังว่าจะได้ร่วมงานกับคุณในปีต่อ ๆ ไป ในฐานะพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุด เรายืนเคียงบ่าเคียงไหล่กันเพื่อปกป้องค่านิยมร่วมกันของเราในเรื่องเสรีภาพ ประชาธิปไตย และการประกอบการ ตั้งแต่การเติบโตและความปลอดภัยไปจนถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยี ผมรู้ดีว่าความสัมพันธ์พิเศษระหว่างอังกฤษและสหรัฐฯ จะยังคงเจริญรุ่งเรืองต่อไปทั้งสองฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติกในอีกหลายปีข้างหน้า”
"ทรัมป์" ประกาศชัยชนะ
เวลา 14.30 น. ตามเวลาประเทศไทย โดนัลด์ ทรัมป์ ปรากฏตัวที่จุดรวมพลผู้สนับสนุนพรรครีพับลพินในเวสตต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา และขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ คาดเตรียมประกาศชัยชนะ
ทรัมป์กล่าวว่า “เราจะช่วยประเทศของเราให้หายดี” และให้คำมั่นว่าจะแก้ไขปัญหาชายแดน โดยเสริมว่าเขาและพรรคของเขาสร้างประวัติศาสตร์ด้วยเหตุผลบางอย่าง
ทรัมป์ประกาศชัยชนะและให้คำมั่นว่าจะนำ “ยุคทอง” มาสู่สหรัฐฯ “นี่คือการเคลื่อนไหวที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน และพูดตรงๆ ว่า ผมเชื่อว่านี่คือการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ไม่เคยมีอะไรที่เหมือนอย่างนี้มาก่อนในประเทศนี้ และบางทีอาจจะมากกว่านั้นด้วยซ้ำ”
เขาบอกว่า “และตอนนี้มันกำลังจะไปถึงระดับความสำคัญใหม่ เพราะเราจะช่วยประเทศของเรา เราจะช่วยประเทศของเรา ... เรามีประเทศที่ต้องการความช่วยเหลือ และมันต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก เราจะแก้ไขพรมแดนของเรา เราจะแก้ไขทุกอย่างเกี่ยวกับประเทศของเรา และเราสร้างประวัติศาสตร์ด้วยเหตุผลบางอย่างในคืนนี้ และเหตุผลก็คือเราเอาชนะอุปสรรคที่ไม่มีใครคิดว่าเป็นไปได้ และตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าเราได้บรรลุเส้นทางการเมืองที่เหลือเชื่อที่สุดแล้ว”
ผลเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 “โดนัลด์ ทรัมป์” คว้าชัย นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัย 2
ผลฟุตซอลทีมชาติไทย แพ้ เวียดนาม ศึกชิงแชมป์อาเซียน
5 แหล่งวิตามินปราการผิว ช่วยบำรุงลดรอยด่างดำ เหี่ยวย่นช่วยชะลอวัย
"ทรัมป์" เข้าใกล้เป้าหมาย คว้าชัยใน "เพนซิลเวเนีย"
14.05 น. ตามเวลาประเทศไทย สำนักข่าว CNN รายงานว่า อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นรัฐสำคัญในสมรภูมิการเลือกตั้ง โดยในรัฐเพนซิลเวเนียมีคะแนนเสียงเลือกตั้ง Electoral Vote ทั้งหมด 19 คะแนน ทำให้ทรัมป์ขาดอีกเพียง 5 คะแนนจะเป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้
"ทรัมป์" เก็บชัยสวิงสเตทรัฐที่สอง "จอร์เจีย"
12.40 น. ตามเวลาประเทศไทย สำนักข่าว CNN รายงานว่า ทรัมป์เก็บชัยในรัฐสวิงสเตทแห่งที่ 2 สำเร็จ นั่นคือรัฐจอร์เจีย โดยหลังนับคะแนนเสียงไป 98% ทรัมป์นำแฮร์ริสอยู่ที่ 51% ต่อ 48% ถือเป็นการพลิกกลับมาชนะอย่างยิ่งใหญ่ เพราะเมื่อ 4 ปีที่แล้ว โจ ไบเดน จากเดโมแครตเป็นฝ่ายคว้าชัยในรัฐนี้
ส่งผลให้คะแนน Electoral Vote ตอนนี้ทรัมป์นำแฮร์ริสอยู่ที่ 246 ต่อ 187 เสียง ขาดอีกเพียง 24 คะแนนเท่านั้นทรัมป์จะได้เป้นประธานาธิบดี
ขณะเดียวกัน ในเวลา 13.00 น. ตามเวลาประเทศไทย คูหาเลือกตั้งในรัฐอะแลสกา ซึ่งเป็นรัฐสุดท้ายของการเลือกตั้ง ได้ประกาศปิดหีบเรียบร้อย อะแลสกามีฐานเสียงพรรครีพับลิกัน ทำให้คาดว่าทรัมป์จะได้ Electoral Vote เพิ่มอีก 3 เสียง
"แฮร์ริส" เก็บเสียงเพิ่มได้ที่ "ฮาวาย"
12.00 น. ตามเวลาประเทศไทย รัฐฮาวายปิดหีบเลือกตั้ง โดยแฮร์ริสเป็นผู้ชนะ ทำให้คะแนน Electoral Vote ตอนนี้ตามทรัมป์อยู่ที่ 182 ต่อ 230 เสียง อย่างไรก็ตามอีกเพียง 40 คะแนนทรัมป์จะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ
"นอร์ทแคโรไลนา" สวิงสเตทแรก ตกเป็นของ "ทรัมป์"
11.40 น. ตามเวลาประเทศไทย CNN รายงาน "ทรัมป์" คว้าชัยในสวิงสเตทแรกคือ "รัฐนอร์ทแคโรไลนา" ได้แล้ว โดยนับคะแนนไปแล้ว 90% นำอยู่ 51% ต่อ 48% ได้ Electoral Vote เพิ่ม 16 เสียง
หลังประกาศดังกล่าว บรรยากาศที่สำนักงานใหญ่ของกมลาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ฝูงชนเงียบลง แทบไม่มีเสียงโห่เลย มีเพียงเสียงถอนหายใจ ผู้สนับสนุนหลายคนรีเฟรชหน้าโทรศัพท์ของพวกเขา บางกลุ่มดูเหมือนกำลังจะตัดสินใจกลับบ้าน เนื่องจากยังไม่แน่ชัดว่าแฮร์ริสจะกล่าวปราศรัยต่อฝูงชนหรือไม่
4 รัฐฐานที่มั่นเดโมแครต ปิดคูหาเลือกตั้ง
11.00 น. ตามเวลาประเทศไทย รัฐแคลิฟอร์เนีย ไอดาโฮ ออริกอน และรัฐวอชิงตัน ปิดคูหาเลือกตั้ง ทำให้เหลือเพียงฮาวายและอะแลสกาเท่านั้นที่ยังไม่ปิดหีบ
แคลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่มี Electoral Vote มากที่สุดคือ 54 เสียง ซึ่งที่ผ่านมาเป็นของพรรคเดโมแครตมาโดยตลอด และปีนี้เดโมแครตยังคงได้เสียงส่วนนี้ไป ทำให้ Electoral Vote ของแฮร์ริสพุ่งขึ้นมาเป้น 145 เสียงต่อ 211 เสียง
"ทรัมป์" คว้าชัยต่อเนื่องในหลายรัฐ
10.40 น. ตามเวลาประเทศไทย ทรัมป์ชนะในรัฐไอโอวาและแคนซัส ทำให้มี Electoral Vote นำแฮร์ริสอยู่ที่ 207 ต่อ 91 เสียง
10.25 น. ตามเวลาประเทศไทย รัฐจอร์เจียและนอร์ทแคโรไลนา 2 รัฐสวิงสเตทสำคัญ นับคะแนนเสียงเกิน 80% แล้ว ปรากฏว่า ทรัมป์นำแฮร์ริสที่ 51% ต่อ 48% ในทั้งสองรัฐ
10.05 น. ตามเวลาประเทศไทย ทรัมป์ชนะในรัฐมอนทานาและยูทาห์ ได้ Electoral เพิ่มอีก 10 เสียง ขณะเดียวกัน ผลการนับคะแนนในรัฐเพนซิลเวเนียซึ่งเป็นสวิงสเตทนั้น นับไปได้ 47% แล้ว ปรากฎว่าทรัมป์พลิกกลับมานำที่ 50% ต่อ 49% เช่นเดียวกับวิสคอนซินที่ตอนแรกแฮร์ริสนำ ขณะนี้นับไปได้ 39% แล้ว โดยที่ทรัมป์พลิกมานำ 50% ต่อ 48%
10.00 น. ตามเวลาประเทศไทย การเลือกตั้งปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์ในรัฐเนวาดา มอนทานา และยูทาห์
09.55 น. ตามเวลาประเทศไทย ทรัมป์ชนะในรัฐลุยเซียนา ทำให้ได้ Electoral เพิ่มอีก 8 เสียง ขณะนี้ทรัมป์นำแฮร์ริสอยู่ที่ 162 ต่อ 81 เสียง
"มิชิแกน" ดินแดนสวิงเสตท 2 ฝ่ายผลัดกันนำ
09.45 น. ตามเวลาประเทศไทย สถานการณ์รัฐสวิงสเตท มิชิแกน นับแล้ว 14% แฮร์ริสนำ เพนซิลเวเนีย นับแล้ว 32% แฮร์ริสนำ วิสคอนซิน นับแล้ว 20% แฮร์ริสนำ จอร์เจีย นับแล้ว 77% ทรัมป์นำ นอร์ทแคโรไลนา นับแล้ว 63% ทรัมป์นำ
"แฮร์ริส" ชนะเพิ่มที่ 3 รัฐ
09.35 น. ตามเวลาประเทศไทย กมลา แฮร์ริส ชนะเพิ่มในรัฐเดลาแวร์ อิลลินอยส์ และนิวยอร์ก ทำให้คะแนน Eletoral Vote กระเตื้องขึ้นมาเป็น 81 เสียง
"ทรัมป์" ทิ้งห่าง "แฮร์ริส" กว่า 100 เสียง
09.05 น. ตามเวลาประเทศไทย CNN รายงานทรัมป์ชนะเพิ่มในรัฐไวโอมิง เซาท์ดาโคตา นอร์ทดาโคตา และเท็กซัส คะแนน Electoral Vote ตอนนี้นำแฮร์ริสอยู่ 154 ต่อ 30 เสียง
09.00 น. ตามเวลาประเทศไทย รัฐแอริโซนา โคโลราโด ไอโอวา แคนซัส ลุยเซียนา มิชิแกน มินนิโซตา เนแบรสกา นิวเม็กซิโก นิวยอร์ก นอร์ทดาโคตา เซาท์ดาโคตา เท็กซัส วิสคอนซิน ไวโอมิง ปิดหีบเลือกตั้ง
08.30 น. ตามเวลาประเทศไทย รัฐอาร์คันซอปิดคูหาเลือกตั้ง เป็นรัฐเดียวที่ปิดหีบในช่วงเวลานี้
08.05 น. ตามเวลาประเทศไทย สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ทรัมป์ชนะเพิ่มในรัฐฟลอริดา โอคลาโฮมา เทนเนสซี เซาท์แคโรไลนา ส่วนแฮร์ริสคว้าชัยในรัฐแมสซาชูเซตส์ คอนเนตทิคัต โรดไอแลนด์
จับตา "เพนซิลเวเนีย - นอร์ทแคโรไลนา" พื้นที่สวิงเสตท
08.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ปิดหีบใน 16 รัฐ คือ รัฐอลาบามา คอนเนตทิคัต เดลาแวร์ ฟลอริดา อิลลินอยส์ เมน แมริแลนด์ แมสซาชูเซตส์ มิสซิสซิปปี้ มิสซูรี นิวแฮมป์เชียร์ นิวเจอร์ซีย์ โอคลาโฮมา เพนซิลเวเนีย โรดไอแลนด์ เทนเนสซี และ 1 พื้นที่พิเศษคือกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
ในจำนวนนี้มีรัฐเพนซิลเวเนียที่เป็นสวิงสเตทสำคัญที่ต้องจับตามอง เพราะมี Electoral Vote มากถึง 19 เสียง
ทั้งนี้ ที่ลูเซิร์นเคาน์ตี รัฐเพนซิลเวเนีย มีคลิปวิดีโอแสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้ง 3 ราย กำลังช่วยกันตรวจสอบเครื่องนับคะแนนที่ทำงานขัดข้อง โดยรายงานระบุว่า มีเครื่องลงคะแนนขัดข้องถึง 3 เครื่องด้วยกัน
ด้วยเหตุนี้ ทำให้ศาลลูเซิร์นเคาน์ตี สั่งขยายเวลาการลงคะแนนเสียงในลูเซิร์นเคาน์ตีจนถึงช่วงค่ำ โดยจะเปลี่ยนมาใช้ระบบการลงคะแนนแบบปกติ และระบบการลงคะแนนเสียงผ่านบัตรลงคะแนนชั่วคราว ก่อนที่ต่อมาจะปิดหีบเลือกตั้งในวันที่ 6 พ.ย. เวลา 08.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
07.35 น. ตามเวลาประเทศไทย ผลการลงคะแนนรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย อีกหนึ่งฐานเสียงรีพับลิกัน ออกมาตามคาด โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นฝ่ายชนะ ได้ Electoral Vote ไปอีก 4 เสียง
07.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ปิดคูหาในอีก 3 รัฐคือ โอไฮโอ เวสต์เวอร์จิเนีย และนอร์ทแคโรไลนา โดยนอร์ทแคโรไลนาเป็นอีกหนึ่งรัฐสวิงสเตทที่อาจมีผลชี้ขาด
สุดระทึก! เจอมือดีขู่วางระเบิด
ขณะที่สำนักงานเลขาธิการรัฐจอร์เจีย แบรด ราฟเฟนสเปอร์เกอร์ เปิดเผยว่า หน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 12 แห่งในรัฐจะขยายเวลาปิดหีบ ได้แก่ หน่วยเลือกตั้ง 6 แห่งในเขตเดอคัลบ์ 5 แห่งในเขตฟุลตัน และ 1 แห่งในเขตกวินเน็ตต์ เนื่องจากได้รับคำขู่วางระเบิด
ราฟเฟนสเปอร์เกอร์ยังยืนยันด้วยว่า คำขู่วางระเบิดที่หน่วยเลือกตั้งทั้งหมดในรัฐจอร์เจียดูเหมือนจะมาจากรัสเซีย “เอฟบีไอรู้ว่าเรื่องนี้มาจากไหน แต่เราต้องการให้แน่ใจว่าเพื่อประโยชน์ด้านความปลอดภัยสาธารณะ จะต้องไม่ทำให้ใครก็ตามออกไปลงคะแนนเสียงช้า”
"ทรัมป์ - แฮร์ริส" คว้าชัยเพิ่มในพื้นที่ฐานเสียง
07.05 น. ตามเวลาประเทศไทย ผลนับคะแนนเบื้องต้นออกมาแล้ว โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยในรัฐอินเดียนาและเคนทักกีแล้ว ได้ Electoral Vote แล้ว 19 เสียง ส่วน กมลา แฮร์ริส ชนะในรัฐเวอร์มอนต์แล้ว ได้ Electoral Vote มา 3 เสียง
ทั้งนี้ รัฐอินเดียนาและเคนทักกีเป็นรัฐขาประจำของรีพับลิกันอยู่แล้ว เช่นเดียวกับเวอร์มอนต์ที่เลือกเดโมแครตมาโดยตลอด ถือเป็นรัฐฐานเสียงหลักที่ไม่เปลี่ยนแปลงของทั้งสองพรรค
07.00 น. ตามเวลาประเทศไทย รัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นสวิงสเตทสำคัญ ปิดคูหาเลือกตั้งแล้ว รวมถึงที่รัฐเซาท์แคโรไลนา เวอร์มอนต์ และเวอร์จิเนีย ด้วย
06.45 น. ตามเวลาประเทศไทย
เจ้าหน้าที่ได้รับสายแจ้งเหตุขู่วางระเบิดที่จุดลงคะแนนเสียง 5 แห่งในเขตเดอคัลบ์ รัฐจอร์เจีย รวมถึงอีก 2 แห่งที่ไม่ใช่สถานที่ลงคะแนนเสียง ทำให้ต้องระงับการลงคะแนนเสียงชั่วคราว
สำนักงานลงทะเบียนผู้มีสิทธิเลือกตั้งและการเลือกตั้งของเขตเดอคัลบ์ กล่าวว่า “ด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง เราจึงระงับการลงคะแนนเสียงที่สถานที่ลงคะแนนเสียงเหล่านี้ จนกว่าเราจะได้รับอนุญาตจากตำรวจเขตเดอคัลบ์ให้เปิดสถานที่ลงคะแนนเสียงเหล่านี้อีกครั้ง”
สถานที่ลงคะแนนเสียงดังกล่าวได้แก่ โบสถ์ ห้องสมุด 2 แห่ง ศูนย์ชุมชน และศูนย์ผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ มีการขู่วางระเบิดในพื้นที่ 4 แห่งในเขตนาวาโฮ รัฐแอริโซนา โดยเจ้าหน้าที่รัฐกล่าวว่าเจ้าหน้าที่รัฐมีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่าการขู่วางระเบิดดังกล่าวมีต้นตอมาจากรัสเซีย
06.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
รัฐอินเดียนาและเคนทักกีปิดคูหาเลือกตั้งแล้ว และจะเริ่มนับคะแนนต่อไป ถือเป็น 2 รัฐแรกในสหรัฐฯ ที่สิ้นสุดการลงคะแนนเสียง
วันที่ 5 พ.ย. 2024
20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
หน่วยเลือกตั้งในรัฐแอริโซนา ไอโอวา ลุยเซียนา มินนิโซตา เซาท์ดาโคตา นอร์ทดาโคตา โอคลาโฮมา เท็กซัส และวิสคอนซิน เปิดทำการ
19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
หน่วยเลือกตั้งในรัฐแอละแบมา เดลาแวร์ วอชิงตัน ดี.ซี. ฟลอริดา จอร์เจีย อิลลินอยส์ แคนซัส แมรีแลนด์ แมสซาชูเซตส์ มิชิแกน มิสซูรี เพนซิลเวเนีย โรดไอแลนด์ เซาท์แคโรไลนา
และเทนเนสซี เปิดทำการ
18.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
หน่วยเลือกตั้งในรัฐโอไฮโอ นอร์ทแคโรไลนา เวสต์เวอร์จิเนีย และเวอร์มอนต์ เปิดทำการ
18.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
หน่วยเลือกตั้งในรัฐคอนเนตทิคัต อินเดียนา เคนทักกี้ เมน นิวแฮมป์เชียร์ (ยกเว้นดิกซ์วิลล์นอตช์) นิวเจอร์ซี นิวยอร์ก และเวอร์จิเนีย เปิดทำการ
12.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
การเลือกตั้งจุดแรกเริ่มขึ้นที่เมืองดิกซ์วิลล์นอตช์ ของรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป้นเป็นเมืองแรกในสหรัฐฯ ที่ประชาชนได้เลือกตั้ง เพราะเปิดให้เลือกตั้งได้ตั้งแต่ 00.01 น. ของวันที่ 5 พ.ย. ตามเวลาเขตตะวันออก หรือก็คือช่วงเที่ยงของไทย และปิดการลงคะแนนเสียงได้แทบจะในทันทีเพราะมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพียง 6 คนเท่านั้น
เมืองแห่งนี้เป็นเมืองขนาดเล็กมากซึ่งตั้งอยู่บริเวณแนวชายแดนระหว่างสหรัฐฯ และแคนาดาในปลายสุดทางเหนือของรัฐนิวแฮมป์เชียร์ โดยผลออกมาว่า แฮร์ริสและทรัมป์เสมอกันที่ 3 ต่อ 3 เสียง
ตามธรรมเนียมแล้ว ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทุกคนจะมารวมตัวกันที่โรงแรมบาลซามส์ (Balsams) ซึ่งปัจจุบันไม่ได้เปิดให้บริการแล้ว เพื่อลงคะแนนเสียง เมื่อทั้ง 6 คนลงคะแนนเสร็จแล้ว ระบบจะนับคะแนนและประกาศผลก่อนใครหลายชั่วโมง ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางของนักข่าวจำนวนมาก ซึ่งมักมีจำนวนมากกว่าผู้ลงคะแนนเสียอีก