ชาวเกาหลีใต้ต่างรู้สึกวิตก ตกใจ และสับสน หลังจากที่ประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล ทำให้ประเทศตกอยู่ในความโกลาหลทางการเมือง โดยประกาศกฎอัยการศึกช่วงดึกคืนวันที่ 3 ธ.ค. แต่ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็เพิกถอนกฎดังกล่าว หลังจากเกิดกระแสต่อต้านอย่างหนัก
ในคำแถลงทางโทรทัศน์ ประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล กล่าวว่า จำเป็นต้องมีการประกาศกฎอัยการศึกเพื่อปกป้องประเทศจากกองกำลังคอมมิวนิสต์ของเกาหลีเหนือ และเพื่อกำจัดกลุ่มคนที่วางแผนโค่นล้มรัฐบาล
เรื่องนี้ทำให้ชาวเกาหลีใต้บางส่วนรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากความไม่มั่นคงทางการเมือง ซึ่งรวมถึง รา จี-ซู ชาวกรุงโซล ที่รายงานว่าได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ใกล้บ้านของเธอ
เธอบอกว่า หลังจากประธานาธิบดีกล่าวแถลงไม่นาน เธอรู้สึกเหมือนว่า “กำลังเกิดการรัฐประหารแบบเมียนมาที่นี่ในเกาหลี ฉันกังวลมาก”
เธอยังกล่าวอีกว่า เพื่อนที่อยู่ในกองกำลังตำรวจได้รับคำสั่งระดมพลฉุกเฉิน และรีบไปที่สถานีตำรวจทันที
วิเคราะห์สาเหตุประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ประกาศกฎอัยการศึก!
แม้ว่าคำแถลงของยุนจะระบุว่าเป็นเพื่อความมั่นคง แต่ชาวเกาหลีใต้ก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่า การเคลื่อนไหวของเขาเป็นการตอบสนองต่อเหตุการณ์ทางการเมืองที่ทำให้สถานะความเป็นผู้นำของเขาไม่มั่นคงเท่านั้น
หญิงชาวเกาหลีใต้รายหนึ่งซึ่งไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน บอกว่า เธอรู้สึกว่ายุนพยายามจำกัดเสรีภาพของทุกคนและสิทธิในการแสดงความกังวลและการตัดสินต่อรัฐบาล “ฉันกลัวมากว่าเกาหลีใต้จะกลายเป็นเกาหลีเหนืออีกประเทศหนึ่ง”
ด้าน คิม มี-ริม ชาวกรุงโซลอีกรายหนึ่ง กล่าวว่า เธอรีบเตรียมอุปกรณ์และสิ่งของจำเป็นเพราะกลัวว่าสถานการณ์อาจเลวร้ายลง เธอจำได้ว่ากฎอัยการศึกในอดีตเกี่ยวข้องกับการจับกุมและจำคุก
ชาวเกาหลีใต้คนอื่น ๆ กลัวว่า พวกเขาอาจได้รับผลกระทบโดยไม่ได้ตั้งใจจากผลที่ตามมาจากความวุ่นวายทางการเมือง
ดอน จอง-คัง เจ้าของธุรกิจรับทำเครื่องประดับ กล่าวว่า “คนที่บอกว่าตัวเองรับใช้ประเทศชาติจะกระทำตามอำเภอใจอย่างนี้ได้อย่างไร”
เขาเสริมว่า “ในฐานะผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผมคิดว่าธุรกิจของผมจะได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง แค่คำพูดของเขา สกุลเงินก็ตกต่ำลงแล้ว ... และมันจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการนำเข้าวัตถุดิบ”
โดยเมื่อคืนวันที่ 3 ธ.ค. นอกผู้นำพรรคฝ่ายค้านหลักของเกาหลีใต้อย่างพรรคประชาธิปไตย (DP) แล้ว ยังมีประชาชนจำนวนมามารวมตัวกันหน้าอาคารรัฐสภา เพื่อคัดค้านการตัดสินใจของยุน
ผู้ประท้วงตะโกนว่า “ไม่เอากฎอัยการศึก” และ “ล้มล้างเผด็จการ” แข่งกับเสียงไซเรนจากรถตำรวจสายตรวจและรถตำรวจปราบจลาจลหลายสิบคัน
เรียบเรียงจาก BBC