ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เปิดเผยว่า เครื่องบินรบ "มิราจ สองพัน" (Mirage 2000) จากฝรั่งเศส ได้ถูกส่งมอบให้ยูเครนแล้ว เช่นเดียวกับเครื่องบิน F-16 เพิ่มเติมจากเนเธอร์แลนด์
โดยรัฐบาลยูเครนยังไม่เปิดเผยรายละเอียดว่าเครื่องบินรบ มิราจ สองพัน และ F-16 ที่ได้รับมีจำนวนกี่ลำ แต่ประธานาธิบดีเซเลนสกีย้ำว่า ต้องการได้เครื่องบินรบเหล่านี้เพิ่มอีก
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกียังพูดถึงนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ตัดความช่วยเหลือระหว่างประเทศในหลาย ๆ ด้าน โดยระบุว่าขณะนี้ความสนับสนุนที่ยูเครนได้รับสหรัฐฯ ยังไม่ลดน้อยลง และไม่มีการถูกสั่งระงับ แต่ยอมรับว่าหากความช่วยเหลือในส่วนนี้หายไปจะกระทบต่อการต้านทานการรุกรานจากรัสเซีย
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีเซเลนสกียอมรับว่า ในขณะนี้ยังไม่มีการเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับแนวโน้มของโครงการความช่วยเหลือในอนาคต และยังเร็วเกินไปที่จะคาดเดาเรื่องนี้
ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 6 ก.พ. เดวิด แลมมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศอังกฤษเปิดเผยว่า ได้ขับไล่นักการทูตรัสเซียคนหนึ่งออกจากประเทศแล้ว เพื่อตอบโต้ที่นักการทูตอังกฤษถูกสั่งขับไล่ออกจากรัสเซียเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน โดยรัฐบาลรัสเซียกล่าวหาทูตคนดังกล่าวว่า แจ้งข้อมูลเท็จและจารกรรมมข้อมูล
รัฐบาลอังกฤษเตือนว่าจะไม่อดทนต่อการข่มขู่เจ้าหน้าที่ของเราด้วยวิธีนี้ และหากรัสเซียมีมาตรการใด ๆ เพิ่มอีกจะถือว่าเป็นการทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น และจะดำเนินมาตรการตอบโต้ในระดับที่เท่าเทียมกัน
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรกับรัสเซียย่ำแย่ลงอย่างมาก หลังมอสโกเปิดฉากโจมตียูเครนอย่างเต็มรูปแบบในปี 2022 ทำให้ตลอดเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา การขับไล่ทูตระหว่างทั้ง 2 ประเทศ เกิดขึ้นหลายครั้ง