จากกรณีเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้แบตเตอรี่ลิเทียมภายในศูนย์ข้อมูลแห่งชาติเมืองแทจอน เกาหลีใต้ ทำลายระบบ "G-Drive" ระบบคลาวด์สำหรับจัดเก็บข้อมูลของรัฐบาล นั้น
ล่าสุด สื่อเกาหลีใต้รายงานว่า กระทรวงมหาดไทยเกาหลีใต้ ออกมายอมรับอย่างเป็นทางการว่า เหตุดังกล่าวสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ต่อระบบราชการ เนื่องจาก G-Drive ไม่มีระบบสำรองข้อมูล ส่งผลให้ข้อมูลกว่า 858 เทราไบต์ (TB) หรือเทียบเท่ากับ 4.495 แสนล้านแผ่นกระดาษ A4 หายไปในพริบตา
รายงานระบุว่า G-Drive ตั้งอยู่ในห้องเซิร์ฟเวอร์ชั้น 5 ของอาคารที่เกิดเหตุ เพลิงได้ทำลายระบบ IT ของรัฐกว่า 96 ระบบ โดย G-Drive เป็นหนึ่งในนั้น
โดยกระทรวงมหาดไทยเผยว่า “ระบบนี้มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะทำการสำรองข้อมูลได้” และยังใช้โครงสร้างจัดเก็บข้อมูลแบบเก่าที่ไม่รองรับการสำรองขนาดใหญ่ ทำให้ข้อมูลทั้งหมดหายไปในพริบตา
แม้ระบบอื่น 95 ระบบยังมีข้อมูลสำรองบางส่วน แต่จากทั้งหมด 647 ระบบของศูนย์ มีเพียง 62% ที่สำรองข้อมูลรายวัน และอีก 38% สำรองข้อมูลรายเดือน โดยบางระบบมีการสำรองครั้งสุดท้ายตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม หมายความว่าข้อมูลตลอดเดือนกันยายนได้สูญหายไปทั้งหมด
ผลกระทบครั้งนี้ ทำให้กระทรวงบริหารงานบุคคลของเกาหลีใต้ต้องเข้าสู่ภาวะฉุกเฉิน เนื่องจากข้อมูลการประชุมภายใน เอกสารรัฐสภา และข้อมูลส่วนบุคคลของข้าราชการ เช่น การลาหยุด การเลื่อนตำแหน่ง และประวัติทางวินัย อาจสูญหายโดยไม่สามารถกู้คืนได้ หน่วยงานหลายแห่งกังวลว่าการตรวจสอบของรัฐสภาในเดือนนี้อาจสะดุด เพราะเอกสารสำคัญจำนวนมากไม่สามารถนำเสนอได้
สถานการณ์ยังส่งผลกระทบต่อบริการของประชาชน เช่น ที่ทำการไปรษณีย์ ที่ต้องปิดชั่วคราว สร้างความเสียหายให้ผู้ประกอบการรายย่อยกว่า 12.6 พันล้านวอน รวมถึง บัตรความสุขแห่งชาติ ซึ่งเป็นับตรสวัสดิการของรัฐที่ใช้จ่ายค่าดูแลเด็กก็ไม่สามารถใช้งานได้
ประธานาธิบดี อีแจมยอง ของเกาหลีใต้ ได้ออกมาขอโทษต่อสาธารณะ พร้อมระบุว่ารู้สึกตกใจอย่างยิ่ง ที่รัฐบาลยังไม่จัดทำระบบสำรองข้อมูลภายนอก ทั้งที่เคยเกิดเหตุเพลิงไหม้ลักษณะเดียวกันเมื่อปี 2022 และสั่งการให้มีการสอบสวนเชิงลึกเพื่อหาผู้รับผิดชอบ
ล่าสุด ตำรวจเกาหลีใต้ได้จับกุมผู้ต้องหา 4 คน รวมถึงพนักงานขนส่งแบตเตอรี่และหัวหน้างานในวันเกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีข้อหา “ประมาทเลินเล่ออันเป็นเหตุทำให้เกิดเพลิงไหม้” ขณะที่กระแสความไม่พอใจในสังคมยังคงเพิ่มขึ้น ประชาชนเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อเท็จจริงและรับผิดชอบต่อความบกพร่องทางการบริหารในครั้งนี้อย่างโปร่งใส
สำหรับระบบ G-Drive ถูกพัฒนาในปี 2017 เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐสามารถจัดเก็บและแชร์เอกสารได้อย่างปลอดภัย โดยภาครัฐกำหนดห้ามเก็บข้อมูลไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์สำนักงาน ทำให้ระบบนี้กลายเป็นฐานข้อมูลหลักของเจ้าหน้าที่กว่า 125,000 คน จาก 74 หน่วยงาน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 17 ของข้าราชการทั้งหมดในประเทศ
ที่มา: THE CHOSUN Daily / HKEPC