กกต.ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยเลือกตั้งซ่อม


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กกต.ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อย เลือกตั้งซ่อม เขต 13 หน่วยเลือกตั้งที่ 32 บางกะปิ เผย มียอดร้องเรียนทั่วประเทศ 300 สำนวน

วันนี้ 21 เม.ย. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งซ่อมของเขตเลือกตั้งที่ 13 หน่วยเลือกตั้งที่ 32 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร  บริเวณโรงเรียนลำสาลีราษฎร์บำรุง ถนนกรุงเทพกรีฑา มีกรรมการการเลือกตั้งประจำหน่วยจำนวน 5 คน ที่ดูความเรียบร้อยตลอดวันนี้เป็นคณะกรรมการชุดใหม่ทั้งหมด คนละชุดกับ การเลือกตั้งทั่วไป วันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อลดความผิดพลาด และไปเป็นตามขั้นตอนปฏิบัติของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 

โดย ช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.ต.อ. จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. และ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ กรรมการกกต. ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อย

บางกะปิ เริ่มพบปัญหา เลขลำดับใช้สิทธิผ่านเว็บฯ ไม่ตรงกับบอร์ด จนท.เร่งแก้ไข

เพื่อไทย อ้างพบบัตรเลือกตั้ง เขต 9 กทม.เกินจำนวนผู้มาใช้สิทธิ

“อนาคตใหม่-เพื่อไทย” ร้อง กกต.พบทุจริตนับคะแนนในกทม.

ขู่ฟ้อง !! กกต. ลั่น ดำเนินคดี ใครวิจารณ์เสียหาย

กกต.ยอมรับจัดเลือกตั้งมีข้อผิดพลาด น้อมรับเสียงโจมตี

นายเลิศวิโรจน์ เปิดเผย ว่าการเลือกตั้งซ่อมของหน่วยนี้ เชื่อว่าหลังจากที่เจ้าหน้าที่กกต.ลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ความจำเป็นในการเลือกตั้งซ่อม ว่าเป็นไปเพื่อความบริสุทธิ์และเที่ยงธรรม เชื่อว่าจะมีประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งในหน่วยนี้ 802 คน จะเดินทางมาใช้สิทธิ์กว่า 70 % หรือ ราวๆ 600 คนจากเดิม เมื่อวันเลือกตั้งทั่วไป24 มี.ค.2562 มีคนมาใช้สิทธิ์ 555 คน หรือ ราวๆ 60 %

ส่วนภาพรวมการเลือกตั้งซ่อมวันนี้ เกิดขึ้นทั้งหมด 6 หน่วย ใน 5 จังหวัด ผู้ใช้สิทธิ์รวมประมาณ 7,000 คน ถือเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก จากการเลือกตั้งทั่วไปทั้งหมด 90,000 กว่าหน่วย ที่มีคนมาใช้สิทธิ์ 38 ล้านคน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดความผิดพลาดได้ สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ต้องเลือกตั้งซ่อมเพราะบัตรลงคะแนนกับผู้ใช้สิทธิ์ไม่ตรงกัน ซึ่งทางกรรมการการเลือกตั้งที่ประจำจุด หน่วยละ 5 คน ก็จะมีการนับคะแนนทันทีที่ปิดหีบ 17.00 น. และ มั่นใจว่า ในวันที่ 9 พ.ค.นี้ จะสามารถรับรองผลคะแนนได้ไม่น้อยกว่า 95 เปอร์เซ็นต์

ส่วนประเด็น ที่มีคำร้องมายังกกต.ให้พิจารณาเลือกตั้งซ่อมเพิ่มเติม ที่มีร้องเรียนเข้ามาจำนวนกว่า 300 สำนวนจากทั่วประเทศ ซึ่งในจำนวนนี้ มี 66 สำนวน ที่มีผลต่อคะแนนส.ส. ที่ได้เป็นลำดับที่ 1 สำหรับการหยิบสำนวนใดขึ้นมาพิจารณาขึ้นอยู่กับความพร้อมของพนักงานสืบสวนและไต่สวนของกกต. รวมถึง การกระทำผิดที่มีหลักฐานชัดเจน ซึ่งปัจจุบันยังไม่ตรวจพบเหตุที่ต้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ เช่น การทุจริตอย่างมีหลักฐาน มีเพียงการร้องเรียนว่ามีการซื้อเสียงในบางหน่วย แต่ไม่พบหลักฐาน

ส่วนกรณีที่ กกต. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยการคำนวณคะเเนน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ เนื่องจากมีหลายฝ่ายเรียกร้องให้สร้างความมั่นใจ นายเลิศวิโรจน์ เผยว่า หากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยกลับมาก็เป็นเรื่องที่ดี แต่หากไม่มีการตอบรับวิธีการยืนยันในการคำนวณคะเเนนกลับมายัง กกต. ทางคณะกรรมการฯ ซึ่งได้รับหน้าที่เป็นผู้ตัดสินใจก็ใช้วิธีในการคำนวณอย่างรอบคอบ

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ