วันนี้ (14 พ.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการสัมมนา ส.ส.ใหม่ ของพรรคพลังประชารัฐ ค่อนข้างคึกคักเพราะ ส.ส. เข้าร่วมกันเกือบครบ มีนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา มาต้อนรับ โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตร เปิดเผยว่า ส่วนตัวอยู่ระหว่างลุ้นเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงตำแหน่งต่าง ๆ ในโควต้ากลุ่มสามมิตร
“สมศักดิ์” ปัด พลังประชารัฐ จองเก้าอี้ รมต.เศรษฐกิจ
ด้าน นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึง การรวมเสียงตั้งรัฐบาล ว่า ตอนนี้ยังพูดไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เนื่องจากยังอยู่ระหว่างพูดคุย ส่วนจะชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ หรือไม่ ขอให้รอดูก่อน แต่มั่นใจทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และส.ส.ในพรรคมีเอกภาพ ไม่มีปรากฏการณ์งูเห่าแน่นอน
ส่วนตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่มีข่าวว่ามีคู่ชิง 2 คน คือ นายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา กับ นายวิรัช รัตนเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายอุตตม ระบุว่า พรรคยังไม่ได้ตัดสินใจ
ขณะที่นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา วันนี้เดินทางไปรายงานตัวต่อสภาผู้แทนราษฎร พร้อมยอมรับว่า ภายหลังจาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ประกาศรับรอง ส.ส. มีการพูดคุยกันระหว่างพรรคขนาดใหญ่อยู่ตลอดเวลา จึงไม่แปลกใจที่พรรคชาติไทยพัฒนา จะถูกนำไปจับขั้วการเมืองกับพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย ในช่วงเวลานี้
ทั้งนี้แต่การพูดคุยกับพรรคใดนั้นเป็นหน้าที่ของ น.ส.กาญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรค ยืนยันว่า ยังไม่มีการต่อรองกับพรรคการเมืองใดทั้งสิ้นเกี่ยวกับโควต้าตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงต่าง ๆ เพราะต้องรอให้พรรคใหญ่ได้คุยกันเสร็จก่อน จากนั้นถึงจะมาคุยกับพรรคชาติไทยพัฒนา ที่มีเพียง 10 เสียงเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะชัดเจนหลังพรรคประชาธิปัตย์ได้หัวหน้าคนใหม่
สำหรับความเคลื่อนไหวของ 2 พรรคการเมืองที่มีจุดยืนสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชัดเจนตั้งแต่แรก แต่ไม่ได้ออกมาแถลงการณ์ร่วมกับ 11 พรรค เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.62) อย่างพรรคประชาชนปฏิรูป และพรรครวมพลังประชาชาติไทย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ นายไพบูลย์ นิติตะวัน เดินทางไปขึ้นศาลพร้อมกันในคดีชุมนุมทางการเมืองสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยทั้ง 2 คน ต่างเห็นด้วยกับจุดยืนของ 11 พรรคการเมือง ที่มีเป้าหมายทำให้ประเทศเดินหน้าได้ และเชื่อว่า 11 พรรคจะเป็นกำลังหลักในสภาผู้แทนราษฎรที่จะสร้างบรรทัดฐานทางการเมืองให้ดีขึ้น
นอกจากนี้ส่วนกระแสข่าวที่ว่า การตั้งรัฐบาลที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องมีชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรัฐมนตรีว่ากการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นรัฐมนตรีว่ากการกระทรวงมหาดไทย วันนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระบุว่า ไม่มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องหรือแทรกแซงการตั้งรัฐบาล เพราะเป็นหน้าที่โดยตรงของฝ่ายการเมือง
ส่วนกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เตรียมร้องคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ยุบพรรคพลังประชารัฐ ในข้อกล่าวหาว่า เปิดทางให้ พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ประวิตร, นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เข้ามามีส่วนจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นายเรืองไกรสามารถทำได้ และไม่เคยห้าม แต่อยากให้ไปดูข้อเท็จจริงและข้อกฏหมาย ส่วนที่มีคนวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทางโซเชียลมีเดีย ด้วยถ้อยคำรุนแรง นอกจากไม่เกิดประโยชน์แล้ว อาจทำให้ประเทศไทยขาดความเชื่อมั่นในสายตาของต่างชาติ