ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดอุดรธานี เข้าทำการตรวจค้นกุฏิพระ ภายในวัดป่าส่งเสริมธรรม เพื่อหาหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องการเจาะกะโหลกศีรษะศพของเด็กชาย 6 ขวบ หรือไม่
พลตำรวจตรีวรณัฎฐ์ ผันผ่อน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี นำกำลังตำรวจ สภ.ห้วยหลวง และ สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วยชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าทำการตรวจสอบบริเวณเบ้าเก็บศพชั่วคราวของเด็กชายเก้า อายุ 6 ขวบ 9 เดือน ที่บริเวณข้างเมรุเผาศพ ภายในวัดป่าส่งเสริมธรรม ตำบลนิคมสงเคราะห์ รวมทั้งตรวจสอบพื้นที่บริเวณใกล้เคียงทั้งหมดเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมประกอบสำนวนคดี
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขึ้นไปตรวจค้นกุฏิพระ ที่อยู่ในวัดห่างจากเบ้าเก็บศพชั่วคราวประมาณ 200 เมตร เนื่องจากมีอุปกรณ์และเครื่องมือช่างในการก่อสร้าง เพื่อทำการเก็บวัตถุพยานต่างๆและข้าวของเครื่องใช้อันที่จะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เนื่องจากคนร้ายอาจลักลอบเอาเครื่องมือดังกล่าวไปใช้ก่อเหตุเป็นได้
ด้านนายสมนึก ใจทน อายุ 59 ปี มัคทายกวัดป่าส่งเสริมธรรม พร้อมด้วยหลวงพ่อถนอม กิตติญาโณ รักษาการเจ้าอาวาสวัด เปิดเผยว่า เมื่อวัน 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้มีการเผาศพอดีตผู้ใหญ่บ้านส่งเสริมธรรม โดยขณะนั้นเห็นเบ้าเก็บศพชั่วคราวของเด็กชาย 6 ขวบถูกเปิดออกอยู่ ซึ่งในตอนนั้นไม่คิดว่าจะมีคนร้ายมาทำการเจาะหน้าผาก หรือ เอาปั้นเหม่งกะโหลกศีรษะศพของเด็กไป จากนั้นทางวัดจึงได้แจ้งให้ครอบครัวของเด็กชายคนดังกล่าวให้มาซ่อมแซมปิดเบ้าเก็บศพ จนกระทั้งเพิ่งมาทราบเรื่องในภายหลังว่ามีคนร้ายมาก่อเหตุ คิดว่าอาจจะเป็นพวกที่ต้องการเอาปั้นเหม่งกะโหลกไปทำเครื่องรางของขลังก็เป็นได้
หลังจากนั้นทางวัดได้พาตำรวจไปตรวจสอบที่ศาลการเปรียญ ซึ่งเคยถูกคนร้ายเข้ามาพระพุทธปางยืนพนมมือ หรือ พระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ รูปทองเหลืองที่มีขนาดใหญ่จำนวน2 องค์ เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งทางวัดได้แจ้งความเอาไว้แล้วแต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ จึงอาจเป็นไปได้ว่าคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุทำการเจาะหน้าผาก หรือปั้นเหม่งกะโหลกศพของเด็กไป อาจจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่ขโมยพระพุทธรูปก็เป็นไปได้
ด้าน พลตำรวจตรีวรณัฎฐ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า การตรวจค้นกุฏิพระลูกวัดในวัดป่าส่งเสริมธรรม เป็นเรื่องของงานสืบสวนที่ต้องตรวจสอบพยานหลักฐานและวัตถุพยานที่ใกล้จุดเกิดเหตุมากที่สุดก่อน
อีกทั้งพระรูปนี้เคยมีการรื้อและก่อสร้างกุฏิใหม่ มีอุปกรณ์และเครื่องมือช่างต่างๆมากมาย นอกจากเจ้าหน้าที่นี้ยังได้เก็บวัตถุพยานซึ่งเป็นกระเป๋าที่ทางญาติของเด็กใส่ไปในเบ้าเก็บศพด้วย แต่ว่าหลังเกิดเหตุพบว่ากระเป๋าดังกล่าวออกมาอยู่นอกเบ้าเก็บศพ จึงต้องนำไปตรวจหาดีเอ็นเอเพื่อใช้เป็นเบาะแสติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
ส่วนจะมีการเปิดเบ้าเก็บศพเพื่อตรวจสอบอีกครั้งหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าถ้ามีวัตถุพยานที่สามารถยืนยันคนร้ายได้แล้วก็คงไม่ทำ เพราะหากเปิดเบ้าเก็บศพอีกก็อาจจะทำให้ญาติสะเทือนใจ แต่ว่าหากจำเป็นต้องเปิดก็คงต้องขอกับทางญาติอีกครั้ง