โฆษก พปชร.รับค่าแรง 400- 425 บาท ไม่ใช่นโยบายเร่งด่วน หวั่นกระทบเอกชน


โดย PPTV Online

เผยแพร่




‘นายกอบศักดิ์’ เผยเตรียมเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือการร่างนโยบาย 8 ก.ค.นี้ พร้อมยอมรับเรื่องค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400- 425 บาท ปรับขึ้นในครั้งเดียวไม่ได้ เกรงกระทบภาคเอกชน

วันนี้ (5 ก.ค.62) นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ หรือ พปชร. หนึ่งในทีมทำงานร่างนโยบายรัฐกล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดทำนโยบายรัฐบาล ว่า ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค ได้ส่งนโยบาย ของแต่ละพรรคมาที่พรรคพลังประชารัฐแล้ว อาทิ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นต้น ซึ่งพรรคพลังประชารัฐ จะเตรียมรวบรวมนโยบายทั้งหมด เพื่อเขียนเป็นร่างนโยบายรัฐบาล โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.นี้ จะเชิญตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาล มาหารือถึงการร่างนโยบาย

สำหรับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่คิดว่าจะสามารถทำได้ทันที และเราจะเสนอต่อที่ประชุมได้แก่  1. นโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพราะนโยบายนี้ขึ้นกับกระทรวงการคลัง และสิ่งที่พรรคประชาธปัตย์เคยถูกถึงในชวงหาเสียงว่า “บัตรนี้ใช้แล้วเจ้าสัวรวย” ตรงนี้อาจจะเป็นการพูดเชิงการเมืองเท่านั้น เพราะตอนนี้ร้านค้าต่าง ๆ ที่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถใช้ได้ก็มีสินค้าด้านการเกษตรและภูมิปัญญาชาวบ้านขายอยู่ นอกจากนี้การรูดบัตรไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องรูดบัตรอย่างเดียว เนื่องจากนี้ตอนนี้มีแอปพลิเคชั่น ของธนาคารกรุงไทยมาใช้ได้แล้ว ซึ่งจะต้องมีการประชาสัมพันธ์ต่อไป 2.นโยบายพักหนี้เกษตรกร  เพราะคิดว่าหลายพรรคการเมือง คนเห็นด้วย และไม่ต้องใช้งบประมาณมาก สามารถทำได้เลย เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร  3.นโยบายมารดาประชารัฐ ที่จะได้ประมาณคนละ 180,000 บาท ซึ่งนโยบายนี้ช่วงหาเสียงพบว่ามีช่องโหว่คือการไม่ได้จำกัดอายุผู้ที่จะมีบุตร  ซึ่งในรายละเอียดจะต้องมีการระบุอายุว่าต้องอายุเท่าไหร่ถึงจะรับเงินตรงนี้ เพื่อป้องกันปัญหา “แม่วัยใส”

“พลังประชารัฐ” ยันเพิ่มราคาแรง ไม่ทำเงินเฟ้อ กระทบผู้ประกอบการ

นายกอบศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนนโยบายที่แต่ละพรรคการเมืองคล้ายกัน เช่น นโยบายกัญชาเสรี ของพรรคภูมิใจไทย เชื่อว่ารมว.สาธารณสุข จะเป็นคนดูแลเป็นหลัก โดยประสานกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพรรคพลังประชารัฐมองว่าก็ควรเป็นนโยบายที่ควรขับเคลื่อนต่อไป ส่วนนโยบายที่มีแนวโน้มว่าจะต้องพูดคุยกันอย่างหนัก คือนโยบายเรื่องการเกษตร จากเดิมพรรคพลังประชารัฐ เสนอให้ ราคาข้าวเปลือกเจ้า  ต้องได้รับเกิน 10,000 บาทต่อตัน  ส่วนข้าวหอมมะลิต้องได้เกิน 15,000บาทต่อตัน และเพิ่มค่าเก็บเกี่ยวจากไร่ละ 1,500 บาท เป็น 2,000 บาท ซึ่งนโยบายนี้เป็นงบที่ผูกพันธ์และต้องคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ว่า เห็นด้วยกับแนวทางนี้หรือไม่  หากไม่เห็นด้วยก็ต้องมาผสมกัน  เพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับได้

ขณะที่เรื่องค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400- 425 บาท เป็นนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐใช้หาเสียงและยอมรับว่า ตอนนี้ยังไม่ใช่นโยบายเร่งด่วน เพราะการขยับขึ้น 400-425 บาทในทีเดียว จะมีผลกระทบต่อภาคเอกชนแน่นอน พรรคพลังประชารัฐ จึงจะเสนอให้ขึ้นค่าแรงในลักษณะเป็นขั้นบันได และทุกจังหวัดก็ไม่ใช่ว่าจะได้ค่าแรงเหมือนกัน ขึ้นกับทักษะ การประกอบอาชีพ  ทั้งนี้วิธีการขึ้นค่าแรงแบบขั้นบันได ก็จะใช้กับนโยบายค่าแรงของปริญญาตรีขั้นต่ำที่พรรคพลังประชารัฐเคยหาเสียงไว้ 20,000 บาทต่อคน ส่วนผู้ที่จบอาชีวะ  18,000 บาทต่อคน

“ตอนนี้เหลือเวลาอีก 3 สัปดาห์ที่ต้องร่างนโยบายรัฐบาลให้เสร็จ ซึ่งพบว่าอุปสรรคสำคัญคือมีหลายพรรคร่วมรัฐบาล และต้องใช้เวลา ดคุยกันให้ชัดเจน  เพื่อป้องกันการอภิปรายในประเด็นเรื่องงบประมาณของพรรคฝ่ายค้าน ท้ายที่สุดก็เชื่อว่า จะได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากประชาชน ทันทีที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา” นายกอบศักดิ์ กล่าว

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ