แผนเรียกเก็บภาษีดิจิทัลของฝรั่งเศส กำหนดให้บริษัทเทคโนโลยีออนไลน์ใดๆก็ตามที่มีรายได้จากการให้บริการทั่วโลกสูงกว่า 750 ล้านยูโร หรือมากกว่า 25,000 ล้านบาท และมีรายได้จากภายในฝรั่งเศสอย่างน้อย 25 ล้านยูโร หรือกว่า 800 ล้านบาท ต้องเสียภาษีในอัตรา 3% โดยคาดว่าแผนดังกล่าวจะผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาฝรั่งเศสในวันนี้ ซึ่งจะสามารถสร้างรายได้เข้ารัฐได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 400 ล้านยูโร หรือ 13,000 ล้านบาท
ล่าสุด นาย โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ (Robert Lighthizer) ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ว่า ทรัมป์ ได้สั่งตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดแล้ว โดยเฉพาะผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากมีความกังวลว่ามาตรการนี้อาจมุ่งเล่นงานบริษัทยักษ์ใหญ่ไอทีของสหรัฐฯ อาทิ เฟซบุ๊ก กูเกิล และแอมะซอน อย่างไม่เป็นธรรม
สหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจีนครั้งใหญ่ที่สุด
จีนลั่นพร้อมตอบโต้ หลัง "ทรัมป์" ขู่เก็บภาษีเพิ่ม
โดยในเบื้องต้น มีบริษัทต่างชาติที่เข้าข่ายต้องเสียภาษีทั้งหมด 30 บริษัท อาทิ บริษัทสัญชาติจีน เยอรมัน สเปน อังกฤษ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน
หลายฝ่ายคาดว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯเข้ามาสอบสวนเรื่องนี้ อาจปูทางไปสู่การใช้มาตรการรีดภาษีสินค้าฝรั่งเศสเป็นการตอบโต้ เหมือนกับที่ทรัมป์เคยสั่งสอบสวนกรณีรัฐบาลจีนขโมยทรัพย์สินทางปัญหาของสหรัฐฯ ซึ่งนำไปสู่การประกาศตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอย่างเป็นทางการ จนบานปลายกลายเป็นสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ในปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้ เมื่อปีที่แล้ว สหภาพยุโรปพยายามจะใช้มาตรการเก็บภาษีในลักษณะเดียวกันนี้ แต่ต้องล้มเลิกไป เนื่องจากบางประเทศ อาทิ ไอร์แลนด์และเยอรมนี เกรงว่าจะถูกสหรัฐฯตอบโต้