สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ตัดสินใจประกาศเลื่อนวันเปิดเทอมปีการศึกษา 1/2563 จากช่วงเดือนพฤษภาคม ไปเป็นวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียน และบุคลากรทางการศึกษา ขณะเดียวกัน ศธ. ให้ความสำคัญกับความต่อเนื่องในการเรียนรู้ ภายใต้แนวคิด “โรงเรียนหยุดได้ แต่การเรียนรู้หยุดไม่ได้”
“อนุบาล-ม.6” 18 พ.ค. นี้ เริ่มเรียนทางไกลผ่านทีวี 17 ช่อง
แต่ขณะเดียวกันยังมีคำถามตามมาว่า สำหรับนักเรียนที่ยากจน หรือ ไม่มีโทรทัศน์ที่สามารถรับชมระบบฟรีทีวี 17 ช่องได้ ไปจนถึงนักเรียนที่อยู่ห่างไกลไม่มีไฟฟ้าเข้าถึงจะทำอย่างไร
หนูน้อยทุบกระปุกซื้อโทรศัพท์มือถือ เรียนออนไลน์
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า สำหรับครอบครัวใดที่ไม่มีกล่องดิจิทัลรับสัญญาณ ทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เตรียมกล่องรับสัญญาณเพื่อนำมาแจกฟรีจำนวน 2,000,000 กล่อง ส่วนครอบครัวใดที่ไม่มีโทรทัศน์เลย จะดำเนินการประชุมหาทางช่วยเหลือต่อไป
นอกจากนั้น นายณัฏฐพล ยังกล่าวถึงโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลและไม่มีไฟฟ้าเข้าถึงด้วยว่า
"ส่วนพื้นที่ที่ไม่มีไฟ อาจไม่มีทีวี เราก็ต้องคิดว่า หากอยู่ไกลถึงขนาดนั้น ไวรัสก็คงไปไม่ถึง โอกาสจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียนก็น่าจะมี"
ส่วนการเรียนการสอนทางไกลผ่านโทรทัศน์ในช่วงที่โควิด-19 ระบาด จะร่วมมือระหว่าง มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ (DLTV) กระทรวงศึกษาธิการ และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนในช่วงโควิด-19 ผ่านระบบฟรีทีวี 17 ช่อง
ฟรีทีวี 17 ช่อง มีอะไรบ้าง?
ทีวีดิจิทัล ช่อง 37-39 เป็นเนื้อหาระดับชั้นอนุบาล 1-3
ทีวีดิจิทัล ช่อง 40-45 เป็นเนื้อหาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6
ทีวีดิจิทัล ช่อง 46-51 เป็นเนื้อหาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6
ทีวีดิจิทัล ช่อง 52 เป็นเนื้อหาสำหรับนักเรียน นักศึกษาของระบบ กศน.
ทีวีดิจิทัล ช่อง 53 เป็นเนื้อหาสำหรับนักเรียน อาชีวะ
เรียนกี่โมงถึงกี่โมง?
ตั้งแต่เวลา 08.30-11.30 น. ตามตารางสอน และจะมีการรีรัน (Rerun) ซ้ำอีก 2 รอบ ในเวลา 14.30 น. และ 20.30 น.
"เรียนออนไลน์" สะท้อนเหลื่อมล้ำ? กับทางออก “การศึกษาไทยในช่วงวิกฤตโควิด-19”
ทำไมต้องเรียนทางไกล?
นายณัฏฐพล ระบุว่า แม้วิกฤตโควิด-19 จะยังไม่คลี่คลายอย่างสมบูรณ์ แต่ต้องการให้เด็กไทยยังคงได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานอยู่ เพื่อให้สามารถขับเคลื่นการศึกษาไทยได้อย่างมีคุณภาพ
“เรายังไม่มั่นใจว่าโรงเรียนจะเป็นที่ปลอดภัยของเด็กและสังคมหรือไม่ เราจะปล่อยให้โรงเรียนกลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดโควิด-19 ไม่ได้ เพราะเด็กอยู่กับครอบครัว ผู้สูงอายุ ฉะนั้น หากเกิดการแพร่จากโรงเรียนไปสู่ผู้สูงอายุ ศธ.รับไม่ได้แน่นอน การเรียนทางไกลผ่านฟรีทีวีคือการเตรียมความพร้อม หากสถานการณ์วิกฤตจนต้องควบคุมทุกพื้นที่” นายณัฏฐพลกล่าว
ต้องเรียนทางไกลจากที่บ้านทุกโรงเรียนหรือไม่?
ทั้งนี้ รมว.ศธ. ชี้ว่า ไม่ใช่ทุกโรงเรียนที่จะต้องเรียนทางไกลจากที่บ้าน เพราะโรงเรียนในบางพื้นที่ที่โควิด-19 ไม่ได้ระบาดอย่างรุนแรงอาจสามารถเปิดการเรียนการสอนได้ แต่ยังต้องคงมาตรการทางสาธารณสุขไว้ เช่น การตรวจวัดอุณหภูมิ การเว้นระยะห่างทางสังคม หรือการสลับกันเข้ามาเรียนเป็นผลัด
นายณัฏฐพลบอกว่า “ต้องหาแนวทางที่เหมาะสม บางที่อาจเรียนที่โรงเรียน (On Site) บางที่อาจต้องเรียนทางไกลทางฟรีทีวี หรือ (On Air) หรือบางที่อาจเสริมด้วยออนไลน์ (Online) เป็นรูปแบบที่ในแต่ละพื้นที่จะแตกต่างกัน และมีความยืดหยุ่น”
ด้าน พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ในขั้นตอนการพูดคุยกับ ศธ. เห็นตรงกันว่า ผู้ปกครองต้องได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด และต้องแยกเด็กเป็นกลุ่มตามสภาพแวดล้อม “เรารู้ว่าการเรียนผ่านโทรทัศน์มีประสิทธิภาพไม่เท่าครูจริง ยังไงก็ไม่เท่า แต่นี่เป็นสถานการณ์ที่จำเป็น”
โดย DLTV มีส่วนสนับสนุนการดำเนินงานของ ศธ. ดังนี้
- DLTV สนับสนุนเนื้อหาทั้งหมด ของชั้นอนุบาล 1 – มัธยมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งขณะนี้ได้บันทึกและอัปโหลดไว้ให้ใช้งานเรียบร้อยแล้วบนเว็บไซต์ ทำให้ครูสามารถเข้าไปดูเนื้อหาและเตรียมการสอนได้ทันที ตลอดจนเด็กโตก็สามารถเข้าไปศึกษาล่วงหน้าก่อนได้ รวมถึงกำลังขยายช่องทางไปยังยูทูบด้วย
- นอกเหนือจาก ฟรีทีวี 12 ช่อง สำหรับนักเรียนชั้น อ.1-ม.3 แล้ว DLTV ยังให้ ศธ.ใช้ 3 ช่อง ซึ่งเดิมเป็นช่องสอนทักษะอาชีพ มาใช้ผลิตเนื้อหาการเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ม.4-6 แทน แต่เนื้อหาการเรียนการสอน ศธ. จะเป็นผู้ดำเนินการ
- DLTV จะนำเนื้อหาการจัดการเรียนการสอนของ ศธ. มาออกอากาศซ้ำในช่วงเวลา 14.30 น. และ 20.30 น. ทำให้ครอบครัวที่มีบุตรหลานหลายคนแต่ต่างชั้นเรียนกันสามารถเรียนทางไกลได้โดยไม่ต้องซื้อโทรทัศน์เพิ่ม
- DLTV ยินดีปรับตารางการออกอากาศ เนื้อหาการเรียนการสอนตามความต้องการของ ศธ.
แต่สำหรับโรงเรียนที่มีความพร้อมอยู่แล้ว เช่น โรงเรียนขนาดใหญ่ โรงเรียนประจำจังหวัด สามารถจัดการเรียนการสอนทางออนไลน์ หรือในโรงเรียนได้ตามความเหมาะสม พล.อ.ดาว์พงษ์ย้ำว่า ความร่วมมือการศึกษาทางไกลผ่านฟรีทีวี 17 ช่องนี้ เป็นนโยบายเพื่อช่วยเด็กในกลุ่มที่เข้าถึงการศึกษาได้ยากในช่วงวิกฤตโควิด-19 มากกว่า
“มหิดล” แนะ การศึกษาไทยอย่าหนีขึ้นแต่ออนไลน์ควรปรับหลักสูตร “สร้างภูมิคุ้มกัน”
ต้องทำอย่างไรบ้างจึงจะรับชมฟรีทีวีเพื่อการศึกษาทั้ง 17 ช่องได้?
พ.อ.ดร.นที ศุกลรัตน์ รองประธานกรรมการกิจการกระขายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เผยว่า การจัดสรรช่องฟรีทีวี 17 ช่องมาให้ศธ. ครู และนักเรียน ได้ใช้งาน ถือเป็นการใช้คลื่นความถี่อย่างมีประสิทธิภาพ
“กสทช.มีความยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในนโยบายนี้ โดยอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สนับสนุนการเรียนรู้ ระดับชั้นละ 1 ช่อง และมีการรีรัน เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกมากที่สุด ให้นักเรียนเข้าถึงการเรียนรู้”
สำหรับการรับชมฟรีทีวีเพื่อการศึกษาทั้ง 17 ช่องนั้น รองประธานกสทช. อธิบายว่า มีทั้งหมด 3 ช่องทาง ในการเข้าถึงการศึกษาทางไกล ดังนี้
- ทางโทรทัศน์ระบบดิจิทัล
- ผู้ที่ใช้กล่องรับสัญญาณดิจิทัลภาคพื้นดินต่าง ๆ (T2) เมื่อถึงวันที่ 18 พ.ค. ก็สามารถถอดปลั๊กและเปิดกล่องรับสัญญาณได้เลย ระบบจะทำการจูนสัญญาณให้อัตโนมัติ โดยกดหมายเลข 37-53
- ผู้ที่ใช้โทรทัศน์ดาวเทียม ระบบ KU Band (จานทึบทั้งหลายของผู้ประกอบการ ทั้งสีดำ สีส้ม สีเหลือง) ปัจจุบันมีการปรับสัญญาณให้ออกอากาศช่องเพื่อการศึกษาแล้ว โดยกดหมายเลข 186-202 (ลำดับช่องจะเรียงจาก อนุบาล 1 เป็นช่องแรก จนถึง นักเรียนอาชีวะ เป็นช่องสุดท้าย เช่นเดียวกับระบบภาคพื้น)
- ผู้ที่ใช้โทรทัศน์ดาวเทียม ระบบ C Band (จานตะแรกง) จะปรับสัญญาณให้ออกอากาศช่องเพื่อการศึกษาในวันที่ 18 พ.ค. โดยกดหมายเลข 186-202 (ลำดับช่องจะเรียงจาก อนุบาล 1 เป็นช่องแรก จนถึง นักเรียนอาชีวะ เป็นช่องสุดท้าย เช่นเดียวกับระบบภาคพื้น)
- ทางเว็บไซต์ www.dltv.ac.th สามารถเลือกช่วงชั้นได้ เลือกได้ว่าจะดูย้อนหลัง ดูแบบเรียลไทม์ หรือดูล่วงหน้า (เฉพาะบางเนื้อหา) รวมถึงสามารถดาวน์โหลดเอกสารการสอนและแบบฝึกหัดต่าง ๆ ได้จากเว็บไซต์นี้
- บนสมาร์ตโฟน แอปพลิเคชัน DLTV ซึ่งสามารถติดตั้งได้ทั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และ IOS
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ประชาชนสามารถสอบถามไปยังเครือข่ายผู้ให้บริการสัญญาณโทรทัศน์ของตนเองได้
ภพจาก: กสทช., Infosat