อีอีซี-บีบีเอส ลงนามสัญญาร่วมลงทุน “เมืองการบินภาคตะวันออก”


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หลังใช้เวลากว่า 1 ปี 7 เดือน ในการประมูลและค้นหาผู้ชนะ โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ล่าสุด ได้มีการลงนามร่วมลงทุนแล้วอย่างเป็นทางการ ซึ่งกลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส ลงทุนให้ผลประโยชน์แก่ประเทศไทยสูงถึง 305,555 ล้านบาท จะทำให้เกิดการจ้างงาน 15,600 ตำแหน่งใน 5 ปีแรก ที่สำคัญต่อไปไทยจะก้าวเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.2563 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาร่วมลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี (ECC) ,กองทัพเรือ และบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลตั้งขึ้นเฉพาะกิจโดย กลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส (BBS) ผู้ยื่นข้อเสนอเงินประกันขั้นต่ำเป็นผลตอบแทนให้แก่รัฐดีที่สุด เพื่อร่วมกันลงทุนพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งมีผู้ร่วมลงนามสัญญาโครงการ ประกอบด้วย นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน), นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริหาร บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และนายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี ผู้แทนภาครัฐและเอกชนร่วมเป็นสักขีพยาน

อีอีซี-บีบีเอส ลงนามร่วมลงทุน ลุยพัฒนา “อู่ตะเภา-เมืองการบินภาคตะวันออก”

เปิดเบื้องลึก BBS ทุ่ม 3 แสนล้าน "เมืองการบิน-อู่ตะเภา

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกอย่างต่อเนื่อง โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก จะทำให้ไทยเป็นผู้นำของภูมิภาคอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค สร้างการจ้างงาน เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมด้านอื่น ๆ ต่อไป

สำหรับโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักสำคัญของ อีอีซี ที่จะกลายเป็นสนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์หลัก แห่งที่ 3 ของไทย เชื่อมสนามบินดอนเมืองกับสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยรถไฟความเร็วสูง ขยายศักยภาพการรองรองรับผู้โดยสารจากทั้ง 3 แห่งรวมกันได้สูงถึง 200 ล้านคนต่อปี รวมถึงการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และการขนส่งโลจิสติกส์ แอนด์เอวิเอชั่น สู่การเป็น “มหานครการบินภาคตะวันออก” เชื่อมโยงทั้ง ทางน้ำ ทางบกและทางอากาศ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็น ศูนย์กลางทางการบินและประตูเศรษฐกิจสู่เอเชีย

ครม. เห็นชอบ “กลุ่ม BBS” พัฒนา “อู่ตะเภา -เมืองการบิน

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส (BA) กล่าวถึงการเข้าร่วมลงทุนในโครงการนี้ว่า ถือเป็นก้าวสำคัญของ บริษัท การบินกรุงเทพ และพันธมิตรฯ ในการร่วมกันพัฒนาโครงการ ซึ่งเมกะโปรเจกต์นี้ จะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งในการเดินทางของประเทศไทย ต่อยอดจากสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง ซึ่งขอให้มั่นใจว่ากลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส ต้องการสร้างประโยชน์ให้กับประเทศมากที่สุด

ทั้งนี้ ทางกลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอส หรือ บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด ได้จัดทำแผนการพัฒนาโครงการแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ระยะที่ 1 มีอาคารผู้โดยสาร ขนาด 157,000 ตารางเมตร พื้นที่เชิงพาณิชย์ อาคารจอดรถ ศูนย์ขนส่งภาคพื้นดิน และหลุมจอดอากาศยาน 60 หลุมจอด คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี 2567 สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 15.9 ล้านคนต่อปี และเมื่อเสร็จสิ้นทุกระยะแล้ว จะมีขนาดพื้นที่กว่า 450,000 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า 60 ล้านคนต่อปี

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ