ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายหม่า อิงจิ๋ว ผู้นำไต้หวัน ได้จับมือทักทายกันในการพบกันครั้งแรกของผู้นำประเทศในรอบ 66 ปี นับตั้งแต่ไต้หวันแยกการปกครองจากจีนแผ่นดินใหญ่ หลังสิ้นสุดสงครามกลางเมืองในปี ค.ศ.1949
อย่างไรก็ตาม การพบปะกันที่ประเทศสิงคโปร์ครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นเพียงการพบกันเชิงสัญลักษณ์ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายจะไม่มีการลงนามข้อตกลง หรือออกแถลงการณ์ร่วมกันแต่อย่างใดๆ โดยตัวแทนทั้งทางฝั่งจีนและไต้หวันจะแยกกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ก่อนที่ผู้นำทั้งสองจะรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน
ทั้งนี้ ก่อนการหารือ นายสี จิ้นผิง ได้กล่าวว่า ทั้งจีนและไต้หวันเป็นเหมือนพี่น้องสายเลือดเดียวกัน ซึ่งจะไม่มีวันแยกจากกันได้ ขณะที่ นายหม่า อิงจิ๋ว กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายควรเคารพซึ่งกันและกัน และมุ่งเน้นที่จะส่งเสริมสันติภาพในภูมิภาค หลังจากที่มีความบาดหมางกันในอดีตที่ผ่านมากว่าหลายทศวรรษ
นอกจากนี้ ผู้นำไต้หวันยังได้กล่าวถึงข้อเสนอ 5 ข้อ ในการพัฒนาความสัมพันธ์ของสองประเทศ คือ 1.ยึดถือ ฉันทามติ ปี 1992 ที่ให้มีจีนเพียงหนึ่งเดียว 2. ลดความรู้สึกบาดหมางเกลียดชังกัน 3. ขยายการเจรจาระหว่างกันเพื่อนำไปสู่ผลสรุปที่เป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย 4. จัดให้มีสายด่วนในการแก้ไขปัญหาฉุกเฉินระหว่างกัน และ 5.ร่วมกันสร้างอนาคตให้กับประชาชนทั้งชาวจีนแผ่นดินใหญ่และชาวจีนไต้หวัน
ขณะเดียวกัน ที่กรุงไทเป เมืองหลวงของไต้หวัน ได้มีกลุ่มผู้ชุมนุม 35 คน รวมตัวหน้าอาคารรัฐสภา เพื่อประท้วงการพบปะกันของผู้นำจีนและไต้หวัน เนื่องจากมองว่าเป็นจุดเริ่มของการผนวกไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน
