วานนี้ (18 พ.ย. 59) สำนักข่าวต่างประเทสรายงานว่า ชายวัย 23 ปี หนุ่มผู้เคราะห์ร้าย จากรัฐโอเรกอน ชื่อนายคอลิน นาธาเนียล สก็อต โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ระหว่างที่นายสก็อตและน้องสาวได้ไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนในรัฐไวโอมิง แต่ทางอุทยานฯ เพิ่งจะเผยแพร่รายงานเกี่ยวกับอุบัติเหตุดังกล่าวออกมา
โดยในรายงานระบุว่า นายสก็อตและน้องสาวซึ่งกำลังหาจุดที่จะแช่น้ำพุร้อน ได้เดินเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม ก่อนจะไปพบบ่อน้ำพุร้อนบ่อหนึ่ง แต่ขณะที่นายสก็อตเอื้อมมือไปแตะดูว่าน้ำร้อนแค่ไหน ก็เกิดลื่นพลัดตกลงไป และที่โชคร้ายคือบ่อน้ำพุร้อนบ่อนี้มีค่าความเป็นกรดสูงมาก
หลังเกิดเหตุน้องสาวของนายสก็อตได้ไปตามเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเหลือ ซึ่งเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก็พบร่างของนายสก็อตอยู่ในบ่อ แต่ยังไม่สามารถช่วยเหลือขึ้นมาได้ เนื่องจากเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง
แต่พอเจ้าหน้าที่กลับมาในวันรุ่งขึ้น ก็กลับไม่พบร่างของนายสก็อตแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่อุทยานระบุว่า ร่างของนายสก็อตน่าจะถูกกัดกร่อนจนไม่เหลือซากภายในเวลาอันรวดเร็ว
พูดถึงบ่อน้ำพุร้อน อุณหภูมิของบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติแต่ละแห่งแตกต่างกัน บางแห่งอาจสูงถึง 100 องศาเซลเซียส แต่เฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 62 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิเหมาะสมสำหรับการบำบัดคือ 40 องศาเซลเซียส
ทั้งนี้ หากแช่น้ำที่มีอุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียสขึ้นไป ก็มีโอกาสที่จะถูกลวกได้ ขณะที่หากตกลงไปในน้ำที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 80 องศาเซลเซียสขึ้นไป ก็จะเทียบเท่ากับแผลน้ำร้อนลวกระดับ 3 ซึ่งก็คือแผลจะลึกลงไปจนทำลายหนังกำพร้าและหนังแท้ทั้งหมด
ส่วนความเป็นกรดของบ่อน้ำพุร้อนอย่างเช่นที่อุทยานเยลโลวสโตนนั้น มาจากการย่อยสลายไฮโดรเจนซัลไฟด์ในชั้นหินและดินโดยจุลินทรีย์ที่อยู่ลึกลงไปใต้ดิน ซึ่งค่าความเป็นกรดที่เหมาะสมนี้ควรจะอยู่ไม่เกิน 20 ส่วนต่อล้านส่วน ทั้งนี้ หน่วยงานที่รับผิดชอบเองก็ต้องคอยตรวจตราบ่อน้ำพุร้อนในแหล่งท่องเที่ยวด้วยเพื่อความปลอดภัย
อย่างเช่นที่ประเทศญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องออนเซ็น หรือบ่อน้ำร้อน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงสิ่งแวดล้อมก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบ่อน้ำพุร้อนทั่วประเทศ หลังเคยเกิดกรณีชายคนหนึ่งหมดสติระหว่างแช่น้ำพุร้อนในจังหวัดฮอกไกโด ซึ่งในครั้งนั้น จากการตรวจสอบพบค่าไฮโดรเจนซัลไฟด์สูงกว่าระดับปลอดภัยถึง 10 เท่า