วันนี้ (26 เม.ย. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ประเทศไทยยังมีข้อจำกัดในการจัดหาพลังงาน โดยเฉพาะหากเกิดกรณีภัยพิบัติ หรือ แหล่งก๊าซธรรมชาติต้องปิดซ่อมบำรุงประจำปี จึงต้องมีการเตรียมการรับมือกับสภาวะฉุกเฉินด้านพลังงาน
โดยวันนี้ผู้บริหารของกระทรวงพลังงานทุกหน่วยงาน ได้มีการซ้อมแผนบริหารรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงานประจำปี 60 โดยจำลองสถานการณ์สมมติเพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างความมั่นใจให้กับทุกภาคส่วน เช่น การหยุดซ่อมบำรุงประจำปีแหล่งก๊าซธรรมชาติฝั่งตะวันตก หรือ ฝั่งเมียนมา ช่วงระหว่างวันที่ 25 มี.ค.-2 เม.ย. ที่ผ่านมา ทำให้ก๊าซธรรมชาติหายไปจากระบบการผลิตไฟฟ้าของประเทศประมาณ 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ส่งผลให้โรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซบางแห่ง ไม่สามารถเดินเครื่องได้ จึงต้องจัดหาน้ำมันเตาในการผลิตไฟฟ้าทดแทนซึ่งมีราคาแพงกว่า
สำหรับในปีนี้ จะมีการหยุดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซธรรมชาติที่สำคัญอีกหนึ่งครั้ง คือ แหล่งก๊าซร่วมไทย-มาเลเซีย มีกำหนดหยุดจ่ายก๊าซช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. 60 จะส่งผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าจะนะ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าหลักของภาคใต้ การซักซ้อมการบริหารด้านพลังงานจึงมีความจำเป็นที่จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ โดยขณะนี้ยืนยันว่ากระทรวงพลังงานยังสามารถรับมือได้
พาณิชย์ถกเอกชนรับมือสหรัฐฯ ลดขาดดุลการค้า
ขณะที่ในวันนี้กระทรวงพาณิชย์ ได้ประชุมร่วมกับภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือถึงการรับมือผลกระทบจากความขัดแย้งบริเวณคาบสมุทรเกาหลี และนโยบายลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งในเบื้องต้น ภาคเอกชนบางกลุ่มเริ่มได้รับผลกระทบในแล้ว เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งพบว่าภาคเอกชนค่อนข้างกังวลกับปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้ภาวะการค้ามีความไม่แน่นอนสูง อย่างไรก็ตามวิธีการลดความเสี่ยง ก็คือต้องหาทางกระจายการส่งออกไปยังตลาดอื่นเพิ่มขึ้น เพื่อลดผลกระทบ หากการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ มีมูลค่าการส่งออกลดลง