ศาสตราจารย์ ประชันต์ กุมาร์ หัวหน้างานวิจัยดังกล่าวซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Atmospheric Environment ระบุว่าต้นไม้แบบยืนต้นเหมาะกับการควบคุมมลพิษทางอากาศในพื้นที่เปิดโล่งมากกว่า
ส่วนในพื้นที่เมืองซึ่งเต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนและถนนหนทางควรใช้ไม้พุ่มทรงเตี้ยมากว่า เพราะว่าใบของไม้พุ่มจะอยู่ในระดับที่ไม่แตกต่างจากระดับถนนหรือควันจากท่อไอเสียรถทำให้ไม้พุ่มสามารถดูดซับสารพิษได้อย่างรวดเร็วหลังรถขับขี่ผ่านไปไม่นาน ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ที่อยู่ในตัวอาคารบ้านเรือนได้รับสารพิษอันตราย
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ กุมาร์ ได้แนะนำสภาท้องถิ่นต่างๆ ว่าหากทางเท้ามีพื้นที่เหลือพอก็ควรจะปลูกไม้พุ่มเอาไว้เป็นแนวกั้นระหว่างผู้ที่เดินผ่านไปมาและถนน
ศาสตราจารย์ กุมาร์ ยังระบุว่าขณะนี้ตัวเขาและเพื่อนนักวิจัย กำลังศึกษาว่าพืชแบบใดที่แก้ปัญหามลพิษได้ดีที่สุดและไม้พุ่มควรมีความสูงเท่าใดจึงจะเกิดประโยน์สูงสุด
สำหรับงานวิจัยชิ้นนี้ถูกเผยแพร่ในช่วงเวลาเดียวกับที่สภาท้องถิ่นหลายแห่งทั่วอังกฤษที่มีปัญหาเรื่องงบระมาณ เริ่มดำเนินการเก็บค่าธรรมเนียมจากบ้านเรือนประชาชนที่ทิ้งใบไม้ใบหญ้าเป็นเศษขยะ
มาตการดังกล่าวอาจทำให้ประชาชนถอนไม้พุ่มที่อยู่ในบ้านตัวเองออก เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเก็บค่าธรรมเนียม ซึ่งทีมวิจัยเป็นห่วงว่าการถอนไม้พุ่มจะไม่เป็นผลดีต่อชุมชน