แม้จะยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าเป็นคนก่อเหตุเอง แต่โทษในคดีนี้ ก็ยังมีโทษสูงสุดคือการประหารชีวิต เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดถูกแจ้งข้อหารวม 3 ข้อ และหลังจากนี้ตรผงเตรียมส่งตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ขอนแก่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประมาณ 30 นาที ที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สอบปากคำนางสาวปรียานุช โนนวังชัย หรือ เปรี้ยว และผู้ต้องหาอีก2คน หลังนำตัวทั้งหมดมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
และถือว่าเป็นไปตามข้อมูลที่ทีมข่าวรายงานตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่าน ว่า การควบคุมตัวผู้ต้องหา เกิดขึ้นหลังผู้ต้องหามอบตัวกับตำรวจเมียนมาร์เอง ไม่ใช่การจับกุมตามที่เป็นข่าวในช่วงแรก
ส่วนมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ ผบ.ตร. ยืนยัน ไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด เป็นเพียงความแค้นส่วนตัว
ส่วนจุดที่ใช้ก่อเหตุผบ.ตร.ระบุว่าเป็นเรื่องในสำนวนไม่ขอเปิดเผย แต่จากคำให้การ นางสาวเปรี้ยวระบุว่าไม่ได้มีการนัดแนะนางสาวแอ๋มแต่เป็นเพียงการบังเอิญเท่านั้น หลังจากนี้จึงจะต้องสอบสวนเพิ่มเติมอีก
สำหรับการก่อเหตุฆ่าหั่นศพ นางสาวเปรี้ยว ยอมรับว่าตอนแรก คิดวิธีการอำพรางศพไว้ 2 วิธี ก่อนจะเลือกการฆ่าหั่นศพ
ส่วนเส้นทางการหลบหนี หลังจากออกจากขอนแก่นทั้งหมดเดินทางมาที่กทม.วันที่24พฤษภาคม และ25พฤษภาคม จึงเดินทางไปที่แม่สาย ก่อนจะหลบหนีไปเมียนมาร์ ซึ่งจุดท้่ยที่ทั้งหมดหลบหนีไปกบดานเป็นบ้านร้างในท่าขี้เหล็ก
ขณะที่การตั้งข้อกล่าวหาในเบื้องต้น ทั้ง 5 คนถูกตั้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไว้ก่อน ซ่อนเร้นอำพรางศพ และปล้นทรัพย์รับของโจทย์ ส่วนโทษในคดีนี้ สูงสุดคือการประหารชีวิต แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
ส่วนประเด็นทีคนในโซเชียลมีเดียสงสัยว่า ตำรวจทำไมไม่ใส่กุญแจมือ “เปรี้ยว-เอิร์น-แจ้” พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า “ผมเชื่อว่าเขาคงไม่หลบหนี และอยู่ในสายตาของตำรวจ พร้อมกับเขามีความคิดที่จะมอบตัวไม่เช่นนั้นเขาจะต้องหลบหนีไปตลอดเวลา”