กว่า 4 ชม. ปิดป่ากก “ล่า” แหกด่านปริศนาข้ามจังหวัด สงสัยโยงยาเสพติด


โดย PPTV Online

เผยแพร่




เป็นความชุลมุนที่เกิดขึ้นข้ามจังหวัดตั้งแต่ 8 โมงเช้า เมื่อมีชายคนหนึ่งข้ามรถแหกด่าน จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจนมาถึงจังหวัดปทุมธานี และ ชนรถผู้สัญจรและจอดอยู่ริมถนนเสียหายจำนวนมาก ตำรวจใช้เวลาปิดล้อมหลังชายคนนี้หลบหนีเข้าป่ากกริมทางกว่า 4 ชั่วโมง ก่อนจะพบตัว แต่ยังไม่สรุปว่า แรงจูงใจในการแหกด่านเป็นไปตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เสาไฟฟ้าที่พังเสียหายริมถนนพหลโยธิน ขาออก ช่วงกิโลเมตรที่ 50 หน้าบริษัท มินิแบร์ จำกัด คือ จุดสุดท้ายที่ผู้ต้องหาหลบหนีด่านตรวจเสียหลัก ก่อนจะทิ้งรถหนีเข้าไปให้ป่ากกข้างทาง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังผู้ต้องหาขับรถแหกด่านตรวจมา 2 จุด และเฉี่ยวชนรถร่วมเส้นทางมา 8 คัน พร้อมทั้งมีข้อมูลว่า ผู้ต้องหาพกอาวุธปืนด้วย นั่นทำให้ตำรวจต้องระดมกำลังปูพรมค้นหา

นอกจากตำรวจจากสภ.พระอินทร์ราชา  ยังมีตำรวจ สภ.คลองหลวง สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา รวมถึง ตร.ทางหลวงร่วมค้นหาผู้ต้องหาในครั้งนี้ด้วย ตำรวจใช้วิธีฉีดน้ำและจุดประทัดโยนใส่ป่ากก เพื่อสร้างความกดดัน และคาดว่าผู้ต้องหาจะตกใจวิ่งหนีออกมา  ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ค้นหา ทีมข่าวนำอากาศยานไร้คนขับขึ้นบินสำรวจ พบว่า จุดที่ผู้ต้องหาหลบหนีเข้าไปอยู่ติดริมถนน แต่ปัญหาที่ทำให้เจ้าหน้า ยังไม่ตัดสินใจบุกเข้าถึงตัวผู้ต้องหาโดยทันทีและต้องเสียเวลาปิดล้อมอยู่ด้านนอกนานหลายชั่วโมง เพราะสภาพพื้นที่มีหญ้าและวัชพืชรกทึบเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่และที่สำคัญปรากฎข้อมูลว่า ผู้ต้องมีอาวุธปืน  

ส่วนที่ตั้งของจุดหลบหนีเป็นป่ากกริมถนน แต่ด้านหลังเป็นพื้นที่นา ฝั่งซ้ายอยู่ติดกับกำแพงบริษัทมินิแบร์ ส่วนฝั่งขวาเป็นถนนเข้าซอยขนาดเล็ก ระหว่างปิดล้อมค้นหา ตำรวจอีกชุดเข้าตรวจสอบรถกะบะที่ผู้ต้องหาใช้ พบสำเนาบัตรประชาชน ชื่อ นายอนุสรณ์ แก้วเกิด เมื่อนำชื่อไปตรวจสอบในระบบพบว่า นายอนุสรณ์มีหมายจับคดียาเสพติดค้างเก่า 3 คดี จึงคาดว่า ผู้ต้องหาที่หลบหนีคือนายอนุสรณ์และแรงจูงใจแหกด่าน น่าจะมาจากการมีหมายจับติดตัว  

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นต้นเหตุที่ตำรวจขอกำลังเสริมไปยังชุดปฏิบัติการพิเศษสยบไพรี จาก กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เข้าช่วยค้นหาด้วย พร้อมขอรถแบคโฮมาสนับสนุนภารกิจ ขุดและถางป่ากกเพื่อค้นหาอย่างละเอียด จนสุดท้ายพบตัวผู้ต้องหาซ่อนตัวอยู่ในป่ากก มีสภาพอิดโรย ถูกปิงกัดตามร่างกาย ประกอบกับมีแผลที่เกิดขึ้นระหว่างขับรถชนเสาไฟฟ้า เบื้องต้นจากการสอบปากคำให้ทราบว่า ผู้ต้องหาไม่ใช่นายอนุสรณ์ตามเอกสารที่พบในรถ แต่คือนายกฤตวัฒน์ เกิดมงคล อายุ 18 ปี โดยให้การว่าจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ แต่ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด พร้อมอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจหลบหนีแต่ทั้งหมดทำไปด้วยความตกใจ  

แม้เบื้องต้นผู้ต้องหารจะให้การลักษณะนี้ แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 สั่งการให้ตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างตัวนายกฤตวัฒน์ กับ เจ้าของรถคันก่อเหตุ และนายอนุสรณ์ที่มีหมายจับคดียาเสพติด รวมถึงจะตรวจหาสารเสพติดผู้ต้องหาด้วย  ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหา เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก ส่วนรายละเอียดอื่นๆต้องรอผลการสอบปากคำเพิ่มเติมก่อน

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ