นางสาวพิชญ์นภัทร เสนา หรือ “น้องยุ้ย” หายตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา แม่ของเธอได้เดินทางออกตามหาลูกสาวในสถานที่ต่างๆที่น้องยุ้ยเคยไป และขอความช่วยเหลือทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะพบน้องยุ้ยแต่อย่างใด ก่อนจะมีโทรศัพท์จากพลเมืองดีแจ้งว่า น้องยุ้ยถูกนำตัวส่งเข้ารักษาเป็นผลจากร่างกายได้รับสารพิษ โดยเข้ารับการรรักษาที่รพ.พระนั่งเกล้า ตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันที่1 ก.ค. เป็นเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนางสาวยุ้ยออกจากบ้านในเวลา07.00น.ของวันเดียวกัน
ทีมยกทัพบรรเทาทุกข์จึงเดินทางไปที่รพ.พระนั่งเกล้า จึงได้พบกับน้องยุ้ยนอนรักษาอวัยวะภายในช่องท้องที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ไม่สามารถดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารได้ ต้องให้น้ำเกลือตลอดเวลา ส่งผลต่อการพูดใช้เสียง ทีมยกทัพบรรเทาทุกข์จึงเขียนคำถามลงในสมุดก่อนให้เธออ่านแล้วเขียนตอบถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนั้น จากประวัติการรักษาอาการป่วยและคำตอบที่ได้จากเธอเป็นไปได้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากอาการทางจิตของเธอ ซึ่งฝังความเชื่อว่าตนเองป่วยเป็นโรคร้าย และไม่มีทางรักษา จึงพยายามฆ่าตัวตาย
สำหรับแม่ของน้องยุ้ยกลายเป็นเสาหลักของครอบครัว หลังสามีหรือพ่อของน้องยุ้ยจากครอบครัวเพื่อไปหางานทำที่จ.ลำพูน ลำพังเงินรายได้จากการเป็นแม่ครัวประจำโรงงานก็ยังพอช่วยพยุงสองชีวิตแม่ลูกไปได้วันต่อวัน แต่ทุกวันนี้ผู้เป็นแม่ต้องหยุดงานเพื่อออกมาดูแลลูกเพราะกลัวจะเกิดเหตุการณ์เดิมซ้ำอีก ทำให้ขาดรายได้ โดยก่อนที่ทีมยกทัพบรรเทาทุกข์จะเดินทางกลับ น้องยุ้ยเองได้บอกกับแม่ว่าถ้าเป็นไปได้ก่อนเข้าห้องผ่าตัดว่าอยากจะเจอพ่อบังเกิดเกล้าของเธออีกครั้ง
