วันนี้ (2 ก.ย.60) เฟซบุ๊กของสถานกงสุลใหญ่ในนครลอสแองเจลิส ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่นักศึกษาไทย 2 รายได้ขับรถตกหน้าผาบริเวณอุทยานแห่งชาติคิงส์ แคนยอน ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค.60 ก่อนที่จะมีการประเมินการลงไปช่วยเหลือและกู้ร่างรวมทั้งซากรถยนต์ เนื่องจากต้องรอสภาพแวดล้อมเหมาะสม ถึงจะลงไปเก็บกู้ได้นั้น
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (1 ก.ย.60) เจ้าหน้าที่กู้ภัยสหรัฐฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการระดมกำลังในการลงไปกู้ร่างของนักศึกษาไทย รวมกว่า 55 คน โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยลงไปที่จุดเกิดเหตุทางเฮลิคอปเตอร์ และการโรยตัวจากหน้าผาเพื่อลงไปกู้ร่างนักศึกษาที่ติดอยู่ในรถ กลางแม่น้ำ โดยใช้อุปกรณ์ลาก grasp hoise ร่วมกับลวดสลิงยาว 100 ฟุต เพื่อเกี่ยวยึดรถยนต์และลากขึ้นมาบริเวณด้านข้างของฝั่งแม่น้ำและเก็บกู้ร่างนักศึกษา รวมทั้งมีการใช้โดรนในการบันทึกภาพการปฏิบัติการเก็บกู้ด้วย
จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้มีการขนส่งร่างนักศึกษาทางเฮลิคอปเตอร์ เพื่อนำมาประกอบพิธีทางศาสนาร่วมกับครอบครัวในบริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ โดยสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้นิมนต์พระครูใบฎีกาบุญทัน ฉปญโญ เจ้าอาวาสวัดพรหมจริยการามไปประกอบพิธีทางศาสนา
ทั้งนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้รับแจ้งจาก Sheriff Margaret Mimms ว่าทีมงานกู้ภัยได้มีการฝึกซ้อมปฏิบัติการกู้ภัยก่อนการปฏิบัติการจริงในสภาพพื้นที่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ เพื่อให้การเก็บกู้ในวันนี้ประสบความสำเร็จ หลังจากการเก็บกู้ ร่างของนักศึกษาถูกส่งไปที่หน่วยงานนิติเวช เพื่อทำการพิสูจน์อัตลักษณ์ ลายนิ้ว รอยฟันและดีเอ็นเอ และสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์โดยครอบครัวของนักศึกษาจะทำฌาปนกิจที่นครลอสแอนเจลิส โดยสุสานพิมานไทย ซึ่งให้การสนับสนุนไปรับศพและดำเนินการโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และครอบครัวของนักศึกษาชายจะทำพิธีลอยอังคารที่นครลอสแอนเจลิส และครอบครัวของนักศึกษาหญิงจะนำอัฐิกลับไปประกอบพิธีที่ประเทศไทย ขณะที่ครอบครัวนักศึกษาจะจัดร่วมกับชุมชนไทยในนครลอสแอนเจลิส พิธีสวดศพบำเพ็ญกุศลให้แก่นักศึกษาทั้งสอง ที่วัดไทยลอสแอนเจลิส 1 คืน
ส่วนกรณีรถของ 2 นักท่องเที่ยวชาวจีนที่ตกลงไปในเหวเหมือนกัน ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ลงไปตรวจสอบแล้ว แต่รถอยู่ในหลุมลึกในแม่น้ำ ต้องกู้หลังจากวันนี้ เพราะมีความยากลำบากมากกว่า
ขอบคุณภาพจาก Royal Thai Consulate-General Los Angeles