เคลียร์อีกหนึ่ง! คดีหวยหายของลุงแท็กซี่ ตร.เร่งพิสูจน์อีก 2 คดี

จบไปอีกหนึ่ง สำหรับคดีหวยหาย เมื่อนายประยูร ขันธ์ขาว อายุ 61 ปี คนขับรถแท็กซี่ ชาวอำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ที่เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรคลองข่อย อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ว่าลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หมายเลข 533726 ประจำงวดวันที่ 1 พฤศจิกายน จำนวนเงิน 6 ล้านบาท หายไป แต่แล้วเมื่อสอบถามเจ้าของร้านที่ลุงแท็กซี่อ้างว่าไปซื้อมา ปรากฎว่า จากการตรวจสอบหน้าปกต้นขั้วของร้านทั้ง 10 เล่ม ไม่พบเลขที่ขึ้นต้นด้วย 533 อย่างที่ลุงแท็กซี่อ้าง แต่มีเลขใกล้เคียงคือ 5533 และลงท้ายด้วย 26 เบื้องต้นได้ส่งต้นขั้วทั้งหมดให้กับพนักงานสอบสวนแล้ว ทำให้พันตำรวจเอกสมพล วงศ์ศรีสุนทร ผู้กำกับการสถานีตำรวจคลองข่อย ยืนยันว่าจบ เนื่องจากเมื่อตรวจสอบจากต้นขั้วร้านไม่พบเลขที่ถูกรางวัลตามที่นายประยูรอ้าง เช่นเดียวกับนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ ที่ระบุว่า คดีนี้จบแล้ว โดยคาดว่าลุงแท็กซี่อาจจดจำเลขผิด เพราะเลขมีความใกล้เคียงกันประกอบกับอายุลุงที่มากแล้ว และคาดว่าไม่น่าจะโดนข้อหาแจ้งความเท็จ เพราะลุงขาดเจตนาแจ้งเท็จ รวมถึงตรวจสอบแล้วเลขใกล้เคียงกัน และอายุมากแล้วอาจทำให้จำสับสน (อ่านข่าว >> จบอีกหนึ่ง! หวยอลเวง คนขายยันเช็คต้นขั้วไม่พบเลขถูกรางวัลของลุงแท็กซี่ )

ขณะเดียวกัน คดีหวยยายหายก็ยังไม่จบ ล่าสุดพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี นำตัวนางประดับ จันทร์อ่วม อายุ71 แม่ค้าขายพริกแกง อ้างว่าถูกรถเตอรี่รางวัลที่ 1 พร้อมกับหลานสาว และคนขายลอตเตอรี่ มาเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ ที่กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ จากกระพุ้งแก้ม ทั้ง 3 คน เพื่อส่งไปให้กองพิสูจน์หลักฐานส่วนกลางเป็นผู้ตรวจสอบ โดยคาดว่าผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ จะทราบผลในเร็วเร็วนี้ (อ่านต่อ >> เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ “แม่ค้าพริกแกง” ส่งพิสูจน์ ลอตเตอรี่ 6 ล้านบาทหาย)

เช่นเดียวกันกับ ศึกชิงหวยอลเวง ระหว่างอดีตตำรวจ และข้าราชการครู ที่ล่าสุด นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนแห่งหนึ่ง พร้อมด้วย นางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ และนางสาว พัชริดา พรมตา แม่ค้าขายลอตเตอรี่ เข้าพบ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม หลังจากได้เชิญตัว ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ที่เป็นผู้ถูกรางวัล 30 ล้านบาท มาสอบปากคำไปแล้ว (อ่านต่อ >> ครูปรีชาท้า “ร.ต.ท.จรูญ” เข้าเครื่องจับเท็จ พิสูจน์หวย 30 ล้าน)

 

“ลดราวาศอก” คำฮอตประจำสัปดาห์

กรณี “แหวนเพชร-นาฬิกาหรูยี่ห้อ ริชาร์ด มิลล์” ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ใส่ถ่ายรูปหมู่ ครม.ประยุทธ์ 5 จนเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างมากถึงราคาของนาฬิกาที่สวมใส จนนำมาสู่การร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบที่มานาฬิกาหรูและแหวนเพชร

ต่อมามีกระแสข่าวว่า นาฬิกาหรูและแหวนเพชร ที่ตกเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ เป็นแหวนเพชรของแม่ ส่วนนาฬิกาเป็นของเพื่อนนักธุรกิจ ทว่าเมื่อสื่อมวลชนสอบถามว่าข้อเท็จจริงเป็นไปตามข่าวหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ตอบคำถามสื่อมวลชนเพียงสั้นๆ ว่า “ไม่รู้”

ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า จากกระแสข่าวก็ให้กำลังใจพล.อ.ประวิตร ในเรื่องนี้ และเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร มีความเข้มแข็งมากเพียงพอที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง ส่วนการตรวจสอบของ ป.ป.ช. ยืนยันว่า จะต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย แต่ก็อยากขอร้องสื่อให้ลดราวาศอกกับ พล.อ.ประวิตร บ้าง (อ่าน : นายกฯวอนสื่อลดราวาศอกกับ “พล.อ.ประวิตร” ปมนาฬิกา-แหวนเพชร )

จากคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า “อยากขอร้องสื่อให้ลดราวาศอกกับ พล.อ.ประวิตร บ้าง” ทำให้คำว่า “ลดราวาศอก” เป็นคำที่ฮอตขึ้นมาทันทีในสัปดาห์นี้

ความคืบหน้าล่าสุดของข่าวนี้ คือ ปรากฏภาพนาฬิกาหรูหน้าปัดสีเหลี่ยม สีดำ ขอบหน้าปัดสีแดง คล้าย “ริชาร์ด มิลด์” อีก 1 เรือน ที่คาดว่าเป็นรุ่น RM011 หรือ RM055 บนข้อมือ พลเอกประวิตร ขณะที่ไปมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนที่เป็นลูกของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เมื่อวันที่ 11 กันยายน หลังภาพนี้ถูกแชร์ต่อในสื่อออนไลน์ ซึ่ง นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เตรียมยื่นหนังสือถึง ป.ป.ช. ตรวจสอบเพิ่มเติม (อ่าน : “ศรีสุวรรณ” ยื่น ป.ป.ช. สอบเพิ่มนาฬิกาหรูอีก 1 เรือนของ “ประวิตร” )

 

 

ก้าวคนละก้าวยอดบริจาคทะลุ 700 ล้าน “ตูน บอดี้สแลม” วิ่งเข้าพื้นที่ภาคเหนือ

หลังจากตั้งเป้าหมายในการวิ่งโครงการก้าวคนละก้าว ไว้ที่ 700 ล้านบาท เพื่อ บริจาคให้ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ ตามความตั้งใจของ อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม และทีมงานก้าวคนละก้าวที่ได้ออกวิ่งจาก อ.เบตง จ.ยะลา ก่อนจะไปสิ้นสุดที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย แต่ยังไม่ทันที่จะได้วิ่งเข้าสู่จังหวัดนครสวรรค์ ยอดเงินบริจาคก็ทะลุ 700 ล้านไปเรียบร้อย ตั้งแต่วันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา แม้ว่าเงินบริจาคจะครบจำนวนเรียบร้อยแล้ว แต่การวิ่งของตูนยังไม่สิ้นสุด ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาได้วิ่งผ่าน นครสวรรค์ ประตูสู่ภาคเหนือ ก่อนวิ่งไปต่อที่ จ. กำแพงเพชร และในวันนี้ (15 ธ.ค.60) เขาและทีมงานได้วิ่งมาถึง จ.ตากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยระหว่างทางได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประชาชนที่มาร่วมบริจาคและให้กำลังใจให้เขาวิ่งได้สำเร็จตามเป้าหมาย โดยยอดล่าสุด อยู่ที่ ยอดเงินบริจาค832,650,445 บาท

อ่านต่อ..

 “ตูน บอดี้สแลม” วิ่งถึง จ.ตาก ร่วมมอบทุนการศึกษาให้เด็กนักเรียน  

“ตูน บอดี้สแลม” วิ่งวันที่ 2 กำแพงเพชร ยอดบริจาคทะลุ 800 ล้าน 

สุดน่ารัก ! “ตูน บอดี้สแลม” วิ่งขึ้นเวทีร่วมเล่นฮูลาฮูปกับเด็กนักเรียน 

ชาวนครสวรรค์แห่ต้อนรับ “ตูน บอดี้สแลม” อย่างอบอุ่น

 

สลด! นักปีนตึกมือเปล่าชื่อดังชาวจีน พลัดตกตึกเสียชีวิต

กลายเป็นข่าวที่น่าตกใจของชาวเน็ตในประเทศจีน สำหรับ อู่ หยงหนิง หนุ่มจีน อายุ 26 ปี ที่ชื่นชอบการปีนตึกสูงตามเมืองต่างๆ ในจีน ด้วยมือเปล่า และมักจะถ่ายวิดีโอลงโซเชียลเป็นประจำ จนมีชื่อเสียงโด่งดังในโลกอินเทอร์เน็ต โดยภายหลังเหล่าแฟนคลับของ อู่ หยงหนิง ต่างพากันสงสัยว่าเขาหายไปไหน เพราะเขาไม่ได้โพสต์วิดีโอใดๆ ลงโซเชียลอีกเลยเป็นเวลา 1 เดือน จนสุดท้ายแฟนสาวของเขาก็ได้ออกมายืนยันถึงการเสียชีวิต ส่วนแฟนคลับก็ได้แชร์คลิปวิดีโอที่คาดกันว่าเป็นสาเหตุให้นักปีนตึกรายนี้ต้องจบชีวิตลง แต่ทั้งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ อู่ หยงหนิง เท่านั้น ก่อนหน้านี้ก็เคยมีนักปีนตึกหลายรายที่ต้องจบชีวิตลงในลักษณะเดียวกัน

(อ่านข่าว : นักพิชิตดาดฟ้าชื่อดังชาวจีน พลัดตกตึกสูงเสียชีวิต)

(อ่านข่าว : รวม “นักปีนตึกเซลฟี่” ที่เคยพลัดตกจนเสียชีวิต)

 

 

"ไลน์" ออกฟีเจอร์ใหม่ เพิ่มปุ่ม “Unsend” ลบภาพ-ข้อความเมื่อส่งผิดได้

หลายคนคงเคยส่งข้อความทางไลน์ แล้วเกิดส่งผิดโดยไม่ได้ตั้งใจ วันนี้ไลน์ ได้ออกฟีเจอร์ใหม่สำหรับคนชอบมือลั่น สามารถลบข้อความได้แล้ว โดยปล่อยฟีเจอร์ Unsend สามารถลบข้อความ ภาพ และเสียง ให้กับบุคคลที่ไม่ได้ตั้งใจจะส่งข้อความนั้นๆได้ เหมาะกับคนที่ชอบมือลั่น  ไม่ต้องหน้าแตกอีกต่อไป ผู้ใช้บริการสามารถใช้งานได้ทั้ง  iOS และ Android  วิธีใช้งานง่ายๆ คือ  กดเลือกข้อความที่ต้องการจะลบและกดค้างมองหาเมนู Unsend  หรือ ยกเลิกข้อความ จะเจอคำว่า ‘Unsend’ หรือยกเลิกข้อความ กดที่คำนั้นจะมีข้อความแจ้งว่าคุณต้องการจะลบข้อความนี้จริงไหม จากนั้นกดเพื่อยืนยัน ข้อความจะหายไปจากหน้าแชท โดยทิ้งไว้แต่ข้อความจากไลน์ที่แจ้งว่าเราลบข้อความนั้นทิ้งไป

(อ่าน : สาวกไลน์เฮ! ส่งผิดชีวิตไม่เปลี่ยน ปุ่ม “Unsend” ลบภาพ-ข้อความได้ )

 

“กองทัพ” แถลงผลสอบการเสียชีวิต “น้องเมย” ไม่มีผู้ใดสั่งลงโทษหรือทำร้าย

กองบัญชาการกองทัพไทย ถ.แจ้งวัฒนะ พล.อ.ท.วีรพงษ์ นิลจินดา กรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง นายภัคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งโรงเรียนเตรียมทหารระบุในใบมรณะบัตรว่า สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ว่า จากการสอบผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์และอาจเกี่ยวข้องกับการฟกช้ำ ได้ความว่า เมื่อวัน 10 ต.ค.เวลา 15.51 น.  นายภคพงศ์ เสร็จจากการเรียนพละศึกษา ชั้น 2 กองพละศึกษา และภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่า นายภคพงศ์ ลื่นตกบันได 8 ขั้น ความสูง 1.5 เมตร เพื่อนนักเรียนชั้นปีที่ 1 ที่ตามมาได้ยินจึงให้การช่วยเหลือ ขณะเดียวกันมีครูพละได้ยินจึงเดินมาดู พบว่า นายภคพงศ์นอนตะแคงซ้ายมือกุมหน้าอก จากการสอบถามนายภคพงศ์บอกเจ็บมีอาการจุกบริเวณหน้าอก จากนั้นครูพละและเพื่อนได้พาส่งที่กองแพทย์ โดยแพทย์ตรวจรักษาภายนอกไม่พบบาดแผล และนำส่งโรงพยาบาลโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเพื่อตรวจหาการบาดเจ็บอีกครั้ง พร้อมเอกซ์เรย์ไม่พบว่ามีการบาดเจ็บภายใน จึงนำกลับมาพักที่กองแพทย์

<อ่าน  “กองทัพ” แถลงผลสอบการเสียชีวิต “น้องเมย” ไม่มีผู้ใดสั่งลงโทษหรือทำร้าย>

<อ่าน   “พล.อ.ประวิตร” ขอโทษครอบครัว “น้องเมย” ยืนยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย>

<อ่าน   เผาศพ “น้องเมย” นักเรียนเตรียมทหาร>

<อ่าน ลือสนั่นโซเชียล! ผลสอบ “น้องเมย”ตายเพราะปัญหาสุขภาพ ไม่ใช่ถูกซ่อม>

<อ่าน  “ประวิตร” เผย เคยถูกซ่อมจนหมดสติ เป็นทหารต้องเตรียมใจให้พร้อม>

 <อ่าน   ครอบครัว “น้องเมย” รับผลชันสูตรรอบ 2 แล้ว ชี้ชัดถูกทำร้ายร่างกาย>